การจำลองผลกระทบทางการเงินจากการเปลี่ยนหลักเกณฑ์การเบิกจ่าย ค่ายากรณีบริการผู้ป่วยนอกในสามระบบหลักประกันสุขภาพหลัก : กรณีโรงพยาบาลเฉพาะทางจิตเวชแห่งหนึ่ง

Main Article Content

ชฎีนาฏ ใหม่วัด
กุลจิรา อุดมอักษร

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์: เพื่อจำลองผลกระทบทางการเงินในมุมมองของผู้ให้บริการและผู้จ่ายเงินในระบบหากนำวิธีการทางเลือกการเบิกจ่ายค่ายาตามรายการ (fee for service) ที่มีการพัฒนาขึ้นมาปรับใช้ วิธีการ: การวิจัยเป็นการศึกษาแบบพรรณนาและจำลองสถานการณ์โดยใช้ข้อมูลทุติยภูมิของปริมาณและมูลค่าการใช้ยาย้อนหลังในการบริการผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลเฉพาะทางจิตเวชแห่งหนึ่งในปีงบประมาณ 2557 รูปแบบการเบิกจ่ายที่จำลองในการศึกษานี้ มี 2 รูปแบบ คือ หลักเกณฑ์ราคาเบิกจ่ายค่ายาของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร (RP2) และข้อเสนอหลักเกณฑ์ราคาเบิกจ่ายค่ายาซึ่งพัฒนาโดยสำนักงานวิจัยเพื่อการพัฒนาหลักประกันสุขภาพไทย (RP-3) ผลการศึกษา: การเบิกจ่ายค่ายาเฉลี่ยต่อการมารับบริการในกลุ่มโรคเดียวกันของสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ (CSMBS) มีมูลค่าสูงที่สุดในทุกกลุ่มโรคเมื่อเทียบกับสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (UC) และสิทธิประกันสังคม(SSS) โดยเป็นไปในทิศทางเดียวกับแนวโน้มของมูลค่ายาเฉลี่ยต่อการมารับบริการหนึ่งครั้งในภาพรวม (CSMBS: 4,359.36 บาทต่อการมารับบริการหนึ่งครั้งt, UC: 243.24 บาทต่อการมารับบริการหนึ่งครั้ง, SSS: 472.63 บาทต่อการมารับบริการหนึ่งครั้ง) แสดงถึงแบบแผนการสั่งใช้ยาที่มีความแตกต่างกันตามสิทธิการรักษาพยาบาลแม้ในการรักษาโรคเดียวกัน ผลการวิเคราะห์ผลกระทบทางการเงินต่อผู้ให้บริการหากมีการเปลี่ยนรูปแบบการเบิกจ่ายค่ายา พบว่า การเบิกจ่ายทั้ง 2 รูปแบบที่จำลองในการศึกษา ทำให้โรงพยาบาลขาดทุนกำไร คือมีส่วนต่างระหว่างรายได้ค่ายากับต้นทุนลดน้อยลงแต่ไม่ต่ำกว่าทุนค่ายา ในส่วนผลกระทบต่อผู้จ่ายเงินในระบบพบว่า รูปแบบการเบิกจ่าย RP-2 และ RP-3 สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้เฉพาะในสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการและสิทธิประกันสังคมเท่านั้น แต่ในสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าส่งผลตรงกันข้าม คือจะทำให้ผู้จ่ายเงินในระบบต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับรูปแบบการเบิกจ่ายในปัจจุบันที่กำหนดเพดานค่ายาในการมารับบริการในแต่ละครั้ง (700 บาท/ครั้ง) ยาที่สั่งใช้ในผู้ป่วย UC ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงราคาถูก รูปแบบการเบิกจ่ายที่จำลองในการศึกษาจะให้ส่วนเพิ่มสำหรับยาราคาถูกในสัดส่วนที่สูงกว่ายาราคาแพง จึงอาจเป็นเหตุให้ไม่สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้กรณีสิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า สรุป: รูปแบบการเบิกจ่ายค่ายาทางเลือกที่นำมาศึกษาสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านยาลงเมื่อเทียบกับระบบปัจจุบันสำหรับการเบิกจ่ายค่ายากรณีผู้ป่วยนอกในระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลและระบบประกันสังคม

Downloads

Download data is not yet available.

Article Details

บท
บทความวิจัย

References

1. Limwattananon C, Limwattananon S, Pannarunothai S, Tangcharoensathien V. Analysis of practice variation due to payment methods across health insurance schemes. Nonthaburi: International Health Policy Program, Ministry of Public Health; 2009.

2. Lomtong C. Guidelines limiting costs in Civil Servant Medical Benefit Scheme (CSMBS). Thailand Develop ment Research Institute (TDRI). TDRI report issue 99; 2014.

3. Limwattananon S,Limwattananon C, Pannarunothai S. Cost and utilization of drugs prescribed for hospital-visited patients: impacts of universal health care coverage policy. Research Report for the Health System Research Institute. Nonthaburi; 2004.

4. Sakulbumrungsil R, et al. Setting reimbursement prices for pharmaceuticals: Cases of outpatient referral, disability, accident, and emergency for Bangkok-region National Health Security Office. National Health Security Office (NHSO) Region 13. Bangkok; 2013.

5. The Health Insurance System Research Office. The proposed pharmaceutical reimbursement model being developed for those under the Civil Servant Medical Benefit Scheme. The Health Insurance System Research Office (HISRO); 2014.