องค์ประกอบเชิงยุทธศาสตร์ที่ส่งผลต่อความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจของร้านยา
Main Article Content
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์: เพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยุทธศาสตร์ที่ส่งผลต่อความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจของร้านยา วิธีการวิจัย: การศึกษานี้เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี ในการวิจัยเชิงปริมาณ ผู้วิจัยเลือกตัวอย่างโดยการสุ่มอย่างง่ายจากเภสัชกรที่ปฏิบัติงานในร้านยาแผนปัจจุบันจำนวน 848 คน ผู้วิจัยใช้แบบสอบถามชนิดกรอกด้วยตนเองเก็บข้อมูลเกี่ยวกับ องค์ประกอบเชิงยุทธศาสตร์ทางธุรกิจ ยุทธศาสตร์ทางการตลาด ทัศนคติด้านวิชาชีพเภสัชกรรม และการได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพร้านยา และความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจของร้านยา การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์แบบจำลองสมการโครงสร้าง เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของปัจจัยที่วัดกับความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจของร้านยา ในการวิจัยเชิงคุณภาพ ผู้วิจัยเลือกผู้ให้ข้อมูลแบบเฉพาะเจาะจงจากองค์กรของรัฐ และองค์กรวิชาชีพจำนวนทั้งสิ้น 9 ท่าน การเก็บข้อมูลใช้การสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงร่าง การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์แก่นสาระ ผลการวิจัย: อัตราการได้รับแบบสอบถามที่สมบูรณ์คิดเป็นร้อยละ 32.7 การวิจัยเชิงปริมาณพบว่ายุทธศาสตร์ทางธุรกิจ และทัศนคติต่อวิชาชีพเภสัชกรรมมีความสัมพันธ์ทางตรงในเชิงบวกต่อความได้เปรียบในการแข่งขันในธุรกิจร้านยาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ การวิจัยเชิงคุณภาพสนับสนุนข้อสรุปว่า การเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันผ่านยุทธศาสตร์ทางธุรกิจ และทัศนคติต่อวิชาชีพเภสัชกรรมนั้น 1) มีความเป็นไปได้ในการนำไปปฏิบัติ 2) มีประโยชน์ สามารถตอบสนองต่อความต้องการของเภสัชกร 3) มีความเหมาะสมในการนำไปใช้ และ 4) มีความถูกต้อง น่าเชื่อถือ และได้สาระครบถ้วน สรุป: เภสัชกรชุมชนระบุว่า ยุทธศาสตร์ทางธุรกิจ และทัศนคติต่อวิชาชีพเภสัชกรรมสามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ดังนั้นองค์กรด้านวิชาชีพเภสัชกรรม ควรส่งเสริมกิจกรรมด้านยุทธศาสตร์ที่พบในการศึกษานี้เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจของร้านยา
Article Details
ผลการวิจัยและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความถือเป็นความคิดเห็นและอยู่ในความรับผิดชอบของผู้นิพนธ์ มิใช่ความเห็นหรือความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ หรือคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ทั้งนี้ไม่รวมความผิดพลาดอันเกิดจากการพิมพ์ บทความที่ได้รับการเผยแพร่โดยวารสารเภสัชกรรมไทยถือเป็นสิทธิ์ของวารสารฯ
References
2. Food and Drug Administration. Community pharmacy development and accreditation [online]. 2013 [cited 2013 Dec 20]. Avilable from: URL: http ://newsser.fda.moph.go.th.
3. Leelarusmee N. Health news: concerns over the disappearance of pharmacies. [online]. 2010 [cited 2012 Feb 12]. Avilable from: URL: www.Thaihealth .or.th.
4. Levy M, Weitz BA. Retailing management. 7th ed. Boston: McGraw-Hill Irwin; 2009.
5.Sumer K. Business strategies and gap in Porter's typology: A literature review. JOM 2012; 4:100-19.
6. Porter ME. Competitive strategy: techniques for analyzing industries and competitors. New York: A Division of Simon&Schuster Inc; 1980.
7. Booms BH, Bitner MJ. Marketing strategies and organisation structures for service firms in marketing of services. United States of America: American Marketing Association; 1981.
8. Gharat MS. Good pharmacy practices (GPP) & accreditation of pharmacies: way to professionalize retail pharmacy. International Journal of Community Pharmacy 2008; 1: 22-4.
9. Johnson RB, Onwuegbuzie AJ. Mixed methods research: A research paradigm whose time has come. Edu Res 2004; 33: 14-26.
10. Hair JF, Black WC, Babin BJ, Anderson RE. Multivariate data analysis: A global perspective. 7th ed. Upper Saddle River, NJ: Prentice Hall; 2010.
11. Nunnally JC, Bernstein I H. Psychometric theory. 3rd ed. New York: McGraw-Hill; 1994.
12. Madaus GF, Scriven MS, Stufflebeam DL Evaluation model: view point on education and human service evaluation. 8th ed. Boston: Kluwer-Nijhoff Publishing; 1989.
13. Wanichbancha K. Multivarioate data analysis. Bangkok: Thammasarn; 2013. p. 23-26, 52, 99.
14. Ajzen I, Fishbein M. Understanding attitudes and predict social behavior. Englewood, New Jersey: Prentice Hall; 1980.
15. Rosa Bastos JA, Gallego PM. Pharmacies customer satisfaction and loyalty - a framework analysis (working paper). Salamanca and León, Spain: Universities of Valladolid, Burgos; 2008.
16. Coca-Stefaniak JA, Parker C, Ress P. Localization as a marketing strategy for small retailers. Int J Retail Distrib Manag 2010; 8: 667-97.