การประยุกต์ใช้ทฤษฎีของโอเร็มในการพยาบาลผู้ป่วยเด็กโรคเบาหวาน ที่มีภาวะเลือดเป็นกรดจากการคั่งของคีโตนในกระแสเลือด : กรณีศึกษา

บทคัดย่อ

ภาวะเลือดเป็นกรดจากคีโตนคั่งในร่างกาย เป็นภาวะแทรกซ้อนที่วิกฤตและฉุกเฉินในผู้ป่วยเด็กโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ส่งผลให้มีอัตราการเสียชีวิตสูง การศึกษานี้เป็นการศึกษาผู้ป่วยเด็ก 2 ราย ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 และมีภาวะเลือดเป็นกรดจากคีโตนคั่งในร่างกาย โดยผู้ป่วยทั้ง 2 ราย เป็นเพศหญิงมีอายุ 8 ปี และ 12 ปี ที่ถูกกระตุ้นด้วยภาวะความเครียดจากการติดเชื้อ ซึ่งนำไปสู่ภาวการณ์ขาดอินซูลินอย่างสิ้นเชิง อาการทั่วไป เช่น ปัสสาวะบ่อย ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ หายใจลำบาก และหายใจลึกและเร็ว มีสาเหตุมาจาก hyperglycemia (ไฮเพอร์ไกลซีเมีย) เมแทบอลิกอะซีโดซีส (metabolic acidosis) และ คีโตซิส (ketosis) ผู้ป่วยได้รับการดูแลรักษาตามกรอบแนวความคิดของทฤษฎีโอเร็มเพื่อเพิ่มผลลัพธ์ด้านสุขภาพของผู้ป่วยผ่านการมีส่วนร่วมของพยาบาล โดยในภาวะฉุกเฉินและวิกฤตใช้แนวปฏิบัติการพยาบาล เช่น การให้ของเหลว อินซูลิน และออกซิเจนที่เพียงพอ การให้ยาปฏิชีวนะ และการรักษาสมดุลของระดับน้ำตาลในเลือด ผลการใช้แนวปฏิบัติการพยาบาลแสดงให้เห็นว่าระดับน้ำตาลในเลือดกลับสู่ระดับปกติ การไหลเวียนโลหิตและการหายใจเพิ่มขึ้น และผู้ป่วยฟื้นตัวได้สูง การวางแผนการจำหน่ายผู้ป่วยคือการสอนผู้ป่วยและผู้ปกครองให้ดูแลตัวเองเรื่องการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย การฉีดอินซูลิน การเฝ้าระวังระดับน้ำตาลในเลือด และการป้องกันการติดเชื้อ นัดหมายคนไข้ตรวจติดตามผลภายใน 1 สัปดาห์