ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง ของผู้ป่วยความดันโลหิตสูงในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษาแบบ Matched case-control study เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของปัจจัยด้านพฤติกรรมสุขภาพ และปัจจัยส่วนบุคคลกับการเกิดโรคหลอดเลือดสมองของผู้ป่วยความดันโลหิตสูงในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ ประชากรศึกษาคือ ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ขึ้นทะเบียนรักษาในคลินิกโรคเรื้อรัง แผนกอายุรกรรม โรงพยาบาลบึงกาฬ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ถึง 30 กันยายน พ.ศ. 2559 โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มศึกษา คือ ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมอง จำนวน 56 ราย กลุ่มควบคุม คือ ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ไม่ป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมอง จำนวน 112 ราย โดยการจับคู่เพศและอายุอัตราส่วน 1:2 เก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและสถิติเชิงอนุมาน Conditional Logistic Regression ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05
ผลการศึกษา พบว่า ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคหลอดเลือดสมองของผู้ป่วยความดันโลหิตสูงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) ได้แก่ ค่าดัชนีมวลกายเกินเกณฑ์ (mORadj=3.24, 95%CI=1.13-9.23) ระยะเวลาที่ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง <5 ปี (mORadj=4.55, 95%CI=1.45-14.20) การสูบบุหรี่ (mORadj=6.19, 95%CI=1.02-37.42) และการดื่มสุรา (mORadj=17.09, 95%CI=4.40-66.38)
การวางแผนงานนโยบายด้านสุขภาพในการควบคุมและป้องกันโรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ควรให้ความสำคัญในการดูแลกลุ่มผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงไม่เกิน 5 ปี ที่มีค่าดัชนีมวลกายเกินเกณฑ์ โดยให้สุขศึกษาเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพให้เหมาะสม งดพฤติกรรมเสี่ยง การดื่มสุรา และการสูบบุหรี่ เพื่อป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วยความดันโลหิตสูงต่อไป