ความตระหนักและความเข้าใจในเรื่องสิทธิผู้ป่วยของผู้ป่วยนอก: กรณีศึกษาโรงพยาบาล Khmer Soviet Friendship ในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา

Main Article Content

โบร์ไรย์ บาน
ทิพาพร กาญจนราช

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์: 1) เพื่อให้ทราบถึงสัดส่วนของผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ทราบถึงการมีอยู่ของประกาศสิทธิผู้ป่วย และที่มีความรู้เกี่ยวกับเนื้อหาในประกาศสิทธิผู้ป่วยและการรับรู้ถึงความรับผิดชอบของผู้ป่วยและ 2) เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของการทราบถึงการมีอยู่ของประกาศสิทธิของผู้ป่วยในตัวอย่างที่อยู่ในกลุ่มทางสังคมและประชากรที่แตกต่างกัน วิธีการ: กลุ่มตัวอย่างคือผู้ป่วยนอกที่ได้รับการสุ่มเลือก 250 คนจากผู้ที่มารับบริการจากโรงพยาบาลมิตรภาพเขมรโซเวียต ในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา การรวบรวมข้อมูลใช้การสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวโดยใช้แบบสอบถามที่มีโครงสร้างในระหว่างเดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2562 ผลการวิจัย: สัดส่วนของตัวอย่างที่ทราบถึงการมีอยู่ของประกาศสิทธิของผู้ป่วยคือ ร้อยละ 31.6 (95% CI: 25.9, 37.8) ในกลุ่มที่ทราบ ร้อยละ 62.0 (95% CI: 50.4, 72.7) มีความรู้ระดับสูงเกี่ยวกับเนื้อหาของประกาศสิทธิผู้ป่วย (มีคะแนนความรู้> 8 จาก 10 คะแนนเต็ม) และร้อยละ 84.8 (95% CI: 75.0, 91.9) รับรู้เกี่ยวกับความรับผิดชอบของผู้ป่วยสอดคล้องอย่างมากกับสิ่งที่กำหนดในประกาศสิทธิผู้ป่วย(มีคะแนนการรับรู้ > 10 จาก 12 คะแนนเต็ม)  ในกลุ่มที่ไม่ทราบถึงการมีอยู่ของสิทธิของผู้ป่วย ร้อยละ 62.6 (95% CI: 54.9, 69.8) มีการรับรู้ถึงความรับผิดชอบของผู้ป่วยสอดคล้องอย่างมากกับสิ่งที่กำหนดในประกาศสิทธิผู้ป่วย การศึกษาไม่พบความแตกต่างในการทราบถึงการมีอยู่ของประกาศสิทธิของผู้ป่วยในกลุ่มเพศหรือจำนวนการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม ผู้ที่อยู่ในกลุ่มอายุน้อยกว่า ระดับการศึกษาที่สูงกว่า และกลุ่มอาชีพที่ไม่ใช้แรงงาน มีแนวโน้มจะทราบถึงการมีอยู่ของประกาศสิทธิผู้ป่วยมากกว่ากลุ่มอายุที่สูงกว่า ระดับการศึกษาที่ต่ำกว่า และกลุ่มมีอาชีพที่ใช้แรงงาน สรุป: นโยบายส่งเสริมสิทธิผู้ป่วยได้ดำเนินการมานานกว่า 10 ปีแล้ว อย่างไรก็ตามสัดส่วนของผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ตระหนักถึงการมีอยู่และมีความรู้เกี่ยวกับสิทธิของผู้ป่วยในประเทศของตนเองยังอยู่ในระดับต่ำ การวิจัยเพื่อค้นหากลยุทธ์ในการส่งเสริมและสร้างความรู้ในเนื้อหาของประกาศสิทธิของผู้ป่วยชาวกัมพูชาในกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มที่มีระดับการศึกษาน้อย และกลุ่มผู้ใช้แรงงานควรได้รับการศึกษาต่อไป

Article Details

บท
บทความวิจัย

References

World Health Organization. Genomic resource centre: Patients' rights [online]. n.d. [cited Feb 10, 2018]. Available from: www.who.int/genomics/public/patientrights/en/

Masic I, Izetbegovic S. The role of medical staff in providing patients’ rights. Med Arch. 2014; 68: 61-4.

American Patient Rights Association. AHA Patient’s bill of rights [online]. n.d. [cited Feb 12, 2018]. Available from: www.americanpatient.org/aha-patients-bill-of-rights/

Society for Patients’ Rights in Israel. The Patients’ rights law [online]. 2012 [cited Feb 12, 2018]. Available from: www.patients-rights.org/index.aspx?id=4374

Mohammed ES, Seedhom AE, Ghazawy ER. Awareness and practice of patient rights from a patient perspective: an insight from Upper Egypt. Int J Qual Health Care. 2018 ;30:145-51.

Younis AA, Hassan AH, Dmyatti EM, Elmubarak MA, Alterife RA, Salim RE, et al. Awareness and practice of patients' rights among hospitalized patients at Wad-Medani Teaching Hospital, Sudan. East. Mediterr Health J. 2017; 23: 80-6.

Mohammed SA, Shabla AS, Wehieda SM. Patients’ rights: patients’ and nurses’ perspectives. Int. J. Nurs. Sci 2015; 4: 54-60.

Kagoya HR, Kibuule D, Mitonga-Kabwebwe H, Ekirapa-Kiracho E, Ssempebwa JC. Awareness of, responsiveness to and practice of patients’ rights at Uganda's national referral hospital. Afr J Prim Health Care Fam Med. 2013; 5: 1-7.

Medical Council of Cambodia. Operational guidelines for clients’ rights and providers’ rights-duties [online]. 2012 [cited Jan 15, 2018]. Available from: www.mcc.org.kh/ws/ publications.php?lan=en

Laur A. Patients’ responsibilities for their health. Med Leg J 2013; 81: 119-23.

Tabassum T, Ashraf M, Thaver I. Hospitalized patients’ awareness of their rights-a cross-sectional survey in a public and private tertiary care hospitals of Punjab, Pakistan. J Ayub Med Coll Abbottabad. 2016; 28: 582-6.

Vick S, Scott A. Agency in health care. Examining patients' preferences for attributes of the doctor–patient relationship. J Health Econ 1998; 17: 587-605.