ผลของการพัฒนาระดับเชาวน์ปัญญาเด็กปฐมวัยโดยใช้เครือข่ายทางสังคม จังหวัดอำนาจเจริญ

Main Article Content

ปฐมพงศ์ ปรุโปร่ง
กิตติ ประจันตเสน
สำราญ เหล็กงาม
ธัญมล ช่วงโชติ

บทคัดย่อ

การการศึกษากึ่งทดลองนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการพัฒนาระดับเชาวน์ปัญญาเด็กปฐมวัยโดยใช้เครือข่าย ทางสังคม จังหวัดอำนาจเจริญ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ เด็กปฐมวัยอายุ 2-5 ปี จำนวน 48 คน ที่ได้จากวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบเป็นระบบ (Systematic sampling) เก็บข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้แบบสอบถามและประเมินระดับเชาว์ปัญญาโดยแบบประเมินความสามารถทางเชาวน์ปัญญาเด็กอายุ 2-5 ปี ฉบับปี พ.ศ. 2530 ของกรมสุขภาพจิต ทำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา วิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา (Descriptive statistics) ในการอธิบายข้อมูลทั่วไป สถิติเชิงอนุมาน (Inferential statistics) ใช้สถิติ Independent t-test
ผลการศึกษา พบว่า ภาพรวมเด็กปฐมวัยมีระดับเชาวน์ปัญญาเฉลี่ยเท่ากับ 100.64 คะแนน (S.D.=17.36) โดยเด็กปฐมวัยกลุ่มทดลองมีระดับเชาวน์ปัญญาเฉลี่ย 105.60 คะแนน (S.D.=14.36) เมื่อทำการเปรียบเทียบระดับเชาวน์ปัญญา ในกลุ่มเด็กปฐมวัยระหว่างกลุ่มที่ใช้การพัฒนาระดับเชาวน์ปัญญาเด็กปฐมวัยโดยเครือข่ายทางสังคม จังหวัดอำนาจเจริญ กับกลุ่มเปรียบเทียบ พบว่า เด็กปฐมวัยที่ใช้การพัฒนาระดับเชาวน์ปัญญาเด็กปฐมวัยโดยเครือข่ายทางสังคม จังหวัดอำนาจเจริญ มีผลการประเมินระดับเชาวน์ปัญญาเฉลี่ยเท่ากับ 105.60 คะแนน (S.D.=14.08) ซึ่งสูงกว่าระดับเชาวน์ปัญญาเฉลี่ยของเด็กปฐมวัยกลุ่มเปรียบเทียบที่มีผลการประเมินเท่ากับ 95.60 คะแนน (S.D.=19.13) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ในการพัฒนาระดับเชาวน์ปัญญาเด็กปฐมวัยควรดำเนินการในลักษณะองค์รวม เน้นให้เด็กปฐมวัยเกิดกระบวนการทางความคิดแบบเชิงระบบเพื่อให้ เกิดเรียนรู้สภาพสิ่งแวดล้อมรอบตัว สามารถทำวิเคราะห์ แยกแยะสถานการณ์ และแก้ปัญหาที่เผชิญได้อย่างเหมาะสม รวมถึงส่งเสริมการใช้กลไกเครือข่ายทางสังคมเข้ามามีบทบาทในการเฝ้าระวังและพัฒนาระดับเชาวน์ปัญญาเด็กปฐมวัย เพื่อให้เด็กได้มีการเรียนรู้อย่างเหมาะสม มีพัฒนาการที่เหมาะสมตามช่วงวัยและสามารถเจริญเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561-2580 (ฉบับย่อ). กรุงเทพฯ: [ม.ป.พ.]; 2561.

Sternberg RJ, Conway BE, Ketron JL, Bernstein M. People's conceptions of intelligence. Journal of personality and social psychology.1981; 41(1): 37.

Lynn R, Vanhanen T. National IQs: A review of their educational, cognitive, economic, political, demographic, sociological, epidemiological, geographic and climatic correlates. Intelligence. 2012; 40(2): 226-234.

จันทร์อาภา สุขทัพภ์, อัมพร เบญจพลพิทักษ์, วนิดา ชนินทยุทธวงศ์, ประเสริฐ จุฑา. ระดับสติปัญญานักเรียนไทยชั้นประถมศึกษาปี ที่ 1 ประจำปี พ.ศ. 2559. วารสารสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย. 2561; 26(3): 161-173.

ศูนย์สุขภาพจิตที่ 10 อุบลราชธานี. ผลการสำรวจสถานการณ์ระดับสติปัญญาและความฉลาดทางอารมณ์เด็กไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และปัจจัยที่เกี่ยวข้องประจำปี พ.ศ.2564. การประชุมคณะกรรมการเขตสุขภาพที่ 10 ครั้งที่ 6 ประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2565; สำนักงานเขตสุขภาพที่ 10 อุบลราชธานี. อุบลราชธานี: เขตสุขภาพที่ 10 อุบลราชธานี; 2565.

Mitchell JC. Social networks. Annual review of anthropology. 3: 279-299; 1974.

ดอนล่าร์ เสนา, วรพล วรสุวรรณโรจน์. เครือข่ายทางสังคมกับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาเชิงพื้นที่ตามยุทธศาสตร์สี่แยกอินโดจีน. Journal of Graduate Review Nakhon Sawan Buddhist College. 2563; 8(2): 134-142.

ฐานริณทร์ หาญเกียรติวงศ์, รุจิกาญจน์สานนท์, นิติพัฒน์ กิตติรักษกุล. เครือข่ายทางสังคมกับการส่งเสริมสุขภาพ. วารสารวิชาการสังคมศาสตร์เครือข่ายวิจัยประชาชื่น. 2564; 3(1): 58-68.

อรุณ จิรวัฒน์กุล. ชีวสถิติสำหรับงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ.ขอนแก่น: หจก.โรงพิมพ์คลังนานาวิทยา; 2547.

วิสุทธิ์ กล้าหาญ, พูลพงศ์ สุขสว่าง. การพัฒนาเชาวน์ปัญญาด้านตรรกะและคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนประถมศึกษา: การศึกษาเชิง พฤติกรรม. Journal of Educational Measurement Mahasarakham University. 2562; 25(2), 239-254.

จุไรรัตน์ ประชุมรัตน์. ระดับเชาวน์ปัญญาและความสามารถทางการเรียนรู้ด้านการอ่าน การเขียนและการคำนวณของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ถึง 6 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี. Region 11 Medical Journal. 2563; 34(3): 22-34.

ผดุงศักดิ์ ศรีวาส, เลิศชัย เจริญธัญรักษ์. ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับระดับสติปัญญาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จังหวัด อุบลราชธานี. KKU Journal for Public Health Research. 2561; 11(3): 14-21.

Piaget J. The relation of affectivity to intelligence in the mental development of the child. Bulletin of the Menninger clinic. 1962; 26(3): 129.

สมบัติ เจริญเกษ, บัญญัติ ชานาญกิจ. ผลการจัดประสบการณ์แบบวิทยาศาสตร์ที่มีต่อความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของ เด็กปฐมวัย; The Effect of Scientific Experience Arrangement on Critical Thinking Ability of Early Childhood. Journal of Graduate Studies in Northern Rajabhat Universities. 2557; 4(6): 117-128.

Vinson BP. Preschool and school-age language disorders. Cengage Learning. 2012.

Vygotsky L. Interaction between learning and development. Readings on the development of children. 1978; 23(3): 34-41.

อภิรพี เศรษฐรักษ์ ตันเจริญวงศ์, ศรีรัฐ ภักดีรณชิต, ญาณวุฒิ เศวตธิติกุล. พฤติกรรมการใช้หน้าจอของเด็กไทยวัย 0-3 ปี ในเขตกรุงเทพมหานคร. วารสารวิชาการนวัตกรรมสื่อสารสังคม. 2561; 6(2): 60-69.

วราลี เดชพุทธวัจน์. ความสัมพันธ์ระหว่างอายุที่เริ่มใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์และลักษณะสื่ออิเล็กทรอนิกส์กับพัฒนาการล่าช้าของเด็กอายุ 6 เดือน - 5 ปี. วารสารโรงพยาบาลนครพิงค์. 2563; 13(2): 1-19.

จีระวรรณ ศรีจันทร์ชัย, สุจิมา ติลการยทรัพย์. ผลกระทบจากการใช้สมาร์ทโฟนในเด็กปฐมวัย: บทบาทของพยาบาลในการช่วยเหลือดูแล. Journal of MCU Nakhondhat. 2564; 8(10): 113-124.

Mastoras SM, Saklofske, DH, Schwean VL, Climie, EA. Social support in children with ADHD: An exploration of resilience. Journal of attention disorders. 2018; 22(8): 712-723.

จิตตวิสุทธิ์ วิมุตติปัญญา. การพัฒนาเด็กปฐมวัยด้วยสะเต็มศึกษาบูรณาการกับแหล่งทรัพยากรการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมของชุมชน. Integrated Social Science Journal, Faculty of Social Science and Humanities, Mahidol University. 2562; 6(1): 3-23.