ผลของโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพช่องปากเด็กก่อนวัยเรียนโดยการประยุกต์ใช้ทฤษฎีแรงจูงใจเพื่อป้องกันโรคร่วมกับแรงสนับสนุนทางสังคม ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จังหวัดนครราชสีมา
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้เป็นวิจัยรูปแบบ “Two groups pretest-posttest design” มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงภายหลังได้รับโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพช่องปากเด็กก่อนวัยเรียนอายุ 3-5 ปีเพื่อป้องกันโรคฟันผุของผู้ปกครอง ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดทุ่งจาน อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา โดยประยุกต์ทฤษฎีแรงจูงใจเพื่อป้องกันโรคและแรงสนับสนุนทางสังคม กลุ่มตัวอย่างใช้วิธีการคัดเลือกตามเกณฑ์และสุ่มอย่างง่าย จำนวนทั้งสิ้น 62 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 31 คน และกลุ่มเปรียบเทียบ 31 คน กลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพช่องปาก ได้แก่ การบรรยาย การอภิปรายกลุ่ม และกิจกรรม “ฟันสวย ยิ้มใส ใส่ใจแปรงฟัน” (ผู้ปกครองมีส่วนร่วมกับเด็กในการดูแลสุขภาพช่องปากเด็กที่บ้าน เช่น การแปรงฟันที่ถูกวิธี และการแปรงฟันให้ครบทุกวัน) และกลุ่มเปรียบเทียบ ไม่ได้รับโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพช่องปาก ระยะเวลาในการศึกษารวม 12 สัปดาห์ เก็บรวบรวมข้อมูลก่อนและหลังการทดลอง โดยใช้แบบสอบถามที่ตอบด้วยตัวเอง แบบบันทึกการแปรงฟันหลังอาหารกลางวันประจำวัน และแบบตรวจแผ่นคราบจุลินทรีย์ด้วยดัชนี pH การวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปใช้สถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน Paired t-test และ Independent s t-test โดยกำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05
ผลการวิจัย พบว่า ภายหลังการทดลอง กลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยของด้านความรู้ การรับรู้ความรุนแรง การรับรู้โอกาสเสี่ยง ความคาดหวังในความสามารถ ความคาดหวังในประสิทธิผล การปฏิบัติตน สูงกว่าก่อนทดลองและสูงกว่ากลุ่มเปรียบเทียบ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.001) และภายหลังการทดลองกลุ่มทดลองมีปริมาณแผ่นคราบจุลินทรีย์ลดลงกว่าก่อนทดลองและลดลงกว่ากลุ่มเปรียบเทียบ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.001) ผลการวิจัยครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพช่องปากเด็กก่อนวัยเรียนเพื่อป้องกันโรคฟันผุของผู้ปกครอง สามารถนำไปใช้ในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพช่องปากเด็กก่อนวัยเรียนของผู้ปกครองได้