การใช้ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์ในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย ในจังหวัดขอนแก่น
คำสำคัญ:
ถุงยางอนามัย, ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย, ชายรักชาย, โรคเอดส์บทคัดย่อ
ประเทศไทยพบผู้ป่ วยเอดส์รายแรกเมื่อปี 2527 เป็ นชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย จากนั้นมี
รายงานผู้ป่ วยเอดส์เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ และการติดเชื้อเชื้อเอชไอวีได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว
ในประชากรกลุ่มต่างๆรวมถึงกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย ซึ่งการเข้าถึงกลุ่มชายที่มี
เพศสัมพันธ์กับชายมีข้อจำกัดหลายประการ ปัจจุบันกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายในจังหวัด
ขอนแก่น ยังคงมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง วัตถุประสงค์ของการวิจัย
ครั้งนี้เพื่อศึกษาการใช้ถุงยางอนามัยและเหตุผลของการใช้หรือไม่ใช้ถุงยางอนามัยในประชากร
กลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายในจังหวัดขอนแก่น รูปแบบในการวิจัยเป็ นการวิจัยแบบ
ภาคตัดขวาง (Descriptive cross-sectional study) ใช้วิธีการเข้าถึงกลุ่มเป้ าหมายโดยการสุ่ม
แบบลูกโซ่ (Snowball sampling technique) รวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณด้วยแบบสอบถาม จาก
ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย 400 คน ที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปี ขึ้นไปในจังหวัดขอนแก่น และ
เชิงคุณภาพ จากการทำการสนทนากลุ่มจำนวน 5 กลุ่มและสัมภาษณ์เชิงลึกจำนวน 4 ราย
ผลการศึกษา พบว่าชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายในจังหวัดขอนแก่นในสามเดือนที่ผ่านมามีการใช้
ถุงยางอนามัยสม่ำเสมอทุกครั้ง ในการมีเพศสัมพันธ์กับคู่เพศสัมพันธ์กับคู่นอนทุกประเภท
ร้อยละ 57.5 การใช้ถุงยางอนามัยในการมีเพศสัมพันธ์กับคู่เพศสัมพันธ์ประจำ(ผู้ชายที่ตกลง
เป็นแฟนกันและ/หรือคบกันนานเกิน 3 เดือน) ทุกครั้ง ร้อยละ 61.4 การใช้ถุงยางอนามัยใน
การมีเพศสัมพันธ์กับคู่เพศสัมพันธ์ชั่วคราว ทุกครั้ง ร้อยละ 71.7 มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกโดยไม่
ใช้ถุงยางอนามัย ร้อยละ 41.3 โดยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกกับชายคนรักร้อยละ 34.8 กับเพื่อน
ร้อยละ 22.3 และกับคนรู้จักร้อยละ 18.5 บทบาทในการมีเพศสัมพันธ์ เป็นฝ่ ายรับร้อยละ 51.0
รองลงมาคือเป็นทั้งฝ่ ายรุกและรับร้อยละ 28.0 และเป็นฝ่ ายรุกร้อยละ 21.0 เหตุผลของการไม่
ใช้ถุงยางอนามัยในการมีเพศสัมพันธ์คือไม่ได้เตรียม ไม่ได้พก ไม่คิดว่าจะมีเพศสัมพันธ์คิดเป็น
ร้อยละ 39.9 มีเพศสัมพันธ์ทางปากจึงไม่ใช้คิดเป็น ร้อยละ 15.7 และรู้สึกไม่เป็นธรรมชาติ
ไม่ได้อารมณ์ ไม่ต่อเนื่อง ร้อยละ 11.6 ด้านความรู้ในการใช้ถุงยางอนามัยและความรู้เกี่ยวกับ
การติดเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์ส่วนใหญ่ ร้อยละ 52.5 อยู่ในระดับสูง ด้านทัศนคติที่มีต่อ
ถุงยางอนามัยส่วนใหญ่ ร้อยละ 52.2 อยู่ในระดับปานกลาง จากผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่าชายที่มี
เพศสัมพันธ์กับชายในจังหวัดขอนแก่นขาดความตระหนักเกี่ยวกับการใช้ ถุงยางอนามัย
จำเป็นต้องจัดกิจกรรมหรือการรณรงค์ส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัยที่เหมาะสมร่วมกับการให้
ความรู้ ในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายอย่างต่อเนื่อง