แรงยึดเฉือนของวัสดุเคลือบหลุมร่องฟันโดยใช้เทคนิคกรดกัดและล้าง และสารยึดติดเซลฟ์เอทช์ในฟันน้ำนม
คำสำคัญ:
เทคนิคกรดกัดและล้าง, เทคนิคเซลฟ์เอทช์, แรงยึดเฉือนบทคัดย่อ
โรคฟันผุเป็นโรคที่พบมากที่สุดของฟันน้ำนม การป้องกันฟันผุบนด้านบดเคี้ยวใช้วัสดุเคลือบหลุมร่องฟันการใช้สารยึดติดทางทันต กรรมทำโดยใช้เทคนิคกรดกัดและล้างหรือเทคนิคเซลฟ์เอทช์ บทรายงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบแรงยึดเฉือนของ วัสดุเคลือบหลุมร่องฟันจากการใช้เทคนิคกรดกัดและล้างและสารยึดติดเซลฟ์เอทช์ในฟันน้ำนม วิจัยในฟันกรามน้ำนมจำนวน 80 ซี่ ที่ยึดติดในเรซินหล่อใส ในระดับต่ำกว่าขอบท่อพลาสติกประมาณ 2 มิลลิเมตร ขัดผิวเคลือบฟันให้เรียบ มีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 2 มิลลิเมตร แบ่งกลุ่มตัวอย่างโดยการสุ่มอย่างง่ายออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 20 ซี่ กลุ่มที่ 1 ใช้เทคนิคกรดกัดและล้างและ เฮลิโอซิล กลุ่มที่ 2 ใช้เทคนิคกรดกัดและล้างและเฮลิโอซิลเอฟ กลุ่มที่ 3 เซลฟ์เอทช์และเฮลิโอซิล กลุ่มที่ 4 เซลฟ์เอทช์และเฮลิโอซิลเอฟ จากนั้นทดสอบแรงยึดเฉือนด้วยเครื่องทดสอบสากลอินสตรอนที่ความเร็ว 0.5 มิลลิเมตรต่อนาที วิเคราะห์ผลโดยใช้สถิติ การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียวที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 ผลการวิจัยพบว่าค่าเฉลี่ยแรงยึดเฉือนและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของวัสดุเคลือบหลุมร่องฟันคือ 13.03 ± 2.68, 12.76 ± 2.97, 12.45 ± 2.90 และ 13.27 ± 2.85 เมกกะปาสคาลตาม ลำดับ (p = 0.819) สรุปว่าแรงยึดเฉือนของวัสดุเคลือบหลุมร่องฟันบนผิวเคลือบฟันโดยใช้ใช้เทคนิคกรดกัดและล้างและสารยึดติด เซลฟ์เอทช์ในฟันน้ำนมมีค่าไม่แตกต่างกัน ดังนั้นการใช้สารยึดติดเซลฟ์เอทช์เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเคลือบหลุมร่องฟัน เนื่องจากทำง่าย ลดขั้นตอน ลดเวลา ลดการปนเปื้อนจากน้ำและน้ำลายและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำฟันเด็ก