ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการใช้ยาปฏิชีวนะของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ ในอาการเจ็บคอ บาดแผลสะอาด และท้องเสีย

Main Article Content

อรุณรัตน์ พรมมา
เสาวลักษณ์ เนตรชัง
นัยนา แก้วคง
ไพทูรย์ มาผิว
นิศารัตน์ นาคทั่ง

บทคัดย่อ

          วิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้เกี่ยวกับการใช้ยาปฏิชีวนะและปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการใช้ยาปฏิชีวนะของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ ในอาการเจ็บคอ บาดแผลสะอาด และท้องเสีย กลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์ จำนวน 98 คน คำนวณขนาดของกลุ่มตัวอย่างโดยใช้โปรแกรม G*power ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม มีค่าดัชนีความสอดคล้องของเครื่องมือ (index of consistency: ioc) เท่ากับ .94 มีความเชื่อมั่นของแบบสอบถาม โดยใช้สัมประสิทธิ์อัลฟาของครอนบาค (Cronbach’s alpha coeficient) เท่ากับ .80 วิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และวิเคราะห์หาปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการใช้ยาปฏิชีวนะใช้สถิติความถดถอยเชิงพหุคูณ (multiple regression analysis) ผลการศึกษา พบว่า 1) กลุ่มตัวอย่างส่วนมากเป็นเพศหญิง (ร้อยละ 90.82) อายุระหว่าง 21 – 31 ปี (ร้อยละ 53.06) เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มากที่สุด (ร้อยละ 30.61) กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ไม่มีโรคประจำตัว (ร้อยละ 94.90) และส่วนใหญ่มีประวัติว่าภายใน 1 ปีที่ผ่านมาได้รับประทานยาปฏิชีวนะ (ร้อยละ 66.33) การจัดหายาปฏิชีวนะนั้นพบว่าซื้อจากร้านขายของชำหรือร้านขายยาโดยไม่มีใบสั่งยามากที่สุด (ร้อยละ 77.55)  2) กลุ่มตัวอย่างมีความรู้เกี่ยวกับการใช้ยาปฏิชีวนะอยู่ในระดับปานกลาง (ร้อยละ 46.94) มีพฤติกรรมการใช้ยาปฏิชีวนะในระดับดีมาก (  X = 3.39, SD = .87)  3) ความรู้เกี่ยวกับการใช้ยาปฏิชีวนะและชั้นปีที่กำลังศึกษามีผลต่อพฤติกรรมการใช้ยาปฏิชีวนะของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ร้อยละ 16 (R2 = .156) ซึ่งปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการใช้ยาปฏิชีวนะ มากที่สุด คือ ความรู้เกี่ยวกับการใช้ยาปฏิชีวนะ (Beta = .047, t = 2.527, p-value = .013) รองลงมา คือ ชั้นปีที่กำลังศึกษา (Beta = .117, t = 2.335, p-value = .022)


          ผลการวิจัยนี้จะนำไปใช้ในการส่งเสริมพฤติกรรมการใช้ยาปฏิชีวนะให้ถูกต้อง โดยจะพัฒนาวิธีการจัดการเรียนการสอน หรือโปรแกรมการเรียนรู้หรือหลักสูตรอบรมเกี่ยวกับการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุสมผลในกลุ่มนักศึกษาพยาบาลต่อไป

Article Details

บท
บทความวิจัย (Research articles)

References

1) Aisoonphisarnkul, P. & Krisanapun, C. (2014). A survey of medication knowledge and self medication practices among frist-year Students at Srinakharinwirot University. Isan Journal of Pharmaceutical Sciences, 10(1), 42 -55. (in Thai)

2) Angkanavisan, K. et al. (2012). Knowledge and awareness on rational use of antibiotics among first year students of Mahidol University in the Academic Year 2011. Journal of Health Systems Research, 6(3), 374 – 381. (in Thai)

3) Aunruean, W. & Saensom, D. (2015). Behavior of KKU students on antibiotics use in sore throat, clean wound and acute diarrhea. Khonkaen: KKU Institutional Research Journal, 3(3), 221 – 232. (in Thai)

4) Holloway KA. (2011). Combating inappropriate use of medicines. Expert review of clinical pharmacology, 4(3), 335 - 48.

5) Holloway K.& Dijk LV. (2011). The world medicines situation 2011 (Rational Use of Medicines) Geneva: World Health Organization.

6) Kiatying-Angsulee, N. (2014). Yawipak. Bangkok: Faculty of pharmaceutical sciences Chulalongkorn University. (in Thai)

7) Mongkolchaipak, J., Ruamsook, J. & Chaiprateep, E. (2012). The study of customer’s knowledge and behavior in using antibiotics at community drug store in Pathum Thani Province. Phathum Thani: EAU Heritage Journal, 6(2), 91 – 100. (in Thai)

8) Sarunrak, B., Rungnapa, C., Chuleeporn, H., (2019). Knowledge attitude and behaviors in rational antibiotics use of nursing students Southern College of Nursing and Public Health Network. Journal of Health Research and Innovation, 2(1), 25 – 36. (in Thai)

9) Sornkrasetrin, A. et al., (2019) Factors Predicting the Rational Antibiotic Use among Nursing Students. Nakhonratchasima. The Journal of Baromarajonani College of Nusing, Nakhonratchasima, 25(1), 43 - 59 (in Thai)

10) Yanti, N. (2017). Factors Associated to Antibiotic Practice Among Public Health Students in Students in a University, Phathum Thani. PhathumThani: ValayaAlongkorn Review, 7(2), 57 - 66 (in Thai)