ความชุกของภาวะผิวหนังอักเสบจากการควบคุมการขับถ่ายไม่ได้ ในหอผู้ป่วยกึ่งวิกฤติอายุรกรรมชาย โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี

ผู้แต่ง

  • ระวินันธ์ ธัชศิรินิรัชกุล คณะพยาบาลศาสตร์ สาขาการพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ, มหาวิทยาลัยรังสิต จังหวัดปทุมธานี
  • ฐิตินันท์ วัฒนชัย พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ, กลุ่มงานอายุรกรรม, โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี
  • นุชรี ทองหล่อ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ, กลุ่มงานอายุรกรรม, โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี
  • มนพร ชาติชำนิ ผู้ช่วยศาสตราจารย์, คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต

คำสำคัญ:

ภาวะผิวหนังอักเสบจากการควบคุมการขับถ่ายไม่ได้, หอผู้ป่วยกึ่งวิกฤต, ความชุก, ปัจจัยเสี่ยง

บทคัดย่อ

การศึกษานี้เป็นการวิจัยย้อนหลังเชิงพรรณนา มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความชุกและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดภาวะผิวหนังอักเสบจากการควบคุมการขับถ่ายไม่ได้ (Incontinence-Associated Dermatitis: IAD) ในผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วยกึ่งวิกฤติอายุรกรรมชาย โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี โดยรวบรวมข้อมูลเวชระเบียนของผู้ป่วยทั้งเพศชายและหญิงจำนวน 173 ราย ที่เข้ารับการรักษาระหว่างเดือนมีนาคม 2567 ถึงสิงหาคม 2567 กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยผู้ป่วยชาย 151 ราย (87.3%) และผู้ป่วยหญิง 22 ราย (12.7%) อายุเฉลี่ยของผู้ป่วยอยู่ที่ 63.6 ปี (S.D.=16.5, ช่วงอายุ 21-99 ปี) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลและแบบบันทึกปัจจัยที่เกี่ยวข้องที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ซึ่งมีค่าความตรงเชิงเนื้อหา (CVI) เท่ากับ 0.93 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และพิสัย

ผลการศึกษาพบว่า ความชุกของภาวะ IAD ในกลุ่มตัวอย่างอยู่ที่ 8.1% (14 ราย) โดยผู้ป่วยเพศชายมีอัตราเกิดภาวะ IAD คิดเป็น 7.9% และเพศหญิงคิดเป็น 9.1% ผู้ป่วยที่เกิด IAD มีอายุเฉลี่ย 56.9 ปี (S.D.=17.1) ระยะเวลาการนอนโรงพยาบาลเฉลี่ย 17.4 วัน (S.D.=16.8, ช่วง 1-53 วัน) ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ อายุที่มากขึ้น ระยะเวลานอนโรงพยาบาลที่ยาวนาน ลักษณะอุจจาระเหลว (100%) ระดับ Albumin ต่ำกว่า 3.5 (78.6%) ระดับ Hematocrit ต่ำกว่า 37 (92.9%) การใช้ยาปฏิชีวนะ (100%) การใช้ยาระบาย (92.9%) การให้อาหารทางสายยาง (92.9%) และการใช้ผ้าอ้อม (100%)

การศึกษานี้สรุปว่าการเกิดภาวะ IAD ส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายในการรักษาและระยะเวลาการพักรักษาตัวของผู้ป่วย การนำแนวทางการป้องกัน เช่น การดูแลผิวหนังอย่างเหมาะสม การลดการใช้ผ้าอ้อมโดยไม่จำเป็น และการบริหารโภชนาการ สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะ IAD และปรับปรุงผลลัพธ์ของการรักษาในผู้ป่วยได้ นอกจากนี้ ควรมีการเฝ้าระวังภาวะดังกล่าวในระยะเริ่มต้นเพื่อลดภาระทางการแพทย์ในระยะยาว

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

Gray M, Giuliano KK. Incontinence-associated dermatitis, characteristics and relationship to pressure injury: a multisite epidemiologic analysis. J Wound Ostomy Continence Nurs. 2018;45(1):63-7. doi:10.1097/WON.0000000000000390.

Beeckman D. A decade of research on incontinence-associated dermatitis (IAD): evidence, knowledge gaps and next steps. J Tissue Viability. 2017;26(1):47-56.

Junkin J, Selekof JL. Prevalence of incontinence and associated skin injury in the acute care inpatient. J Wound Ostomy Continence Nurs. 2007;34(3):260-9. doi: 10.1097/01.WON.0000270820.91694.1f.

Doughty D, Junkin J, Kurz P, Selekof J, Gray M, Fader M, Bliss DZ, Beeckman D, Logan S. Incontinence-associated dermatitis: consensus statements, evidence-based guidelines for prevention and treatment, and current challenges. J Wound Ostomy Continence Nurs. 2012;39(3):303-15; quiz 316-7. doi: 10.1097/WON.0b013e3182549118.

Koudounas S, Bader DL, Voegeli D. Knowledge Gaps in the Etiology and Pathophysiology of Incontinence-Associated Dermatitis: A Scoping Review. J Wound Ostomy Continence Nurs. 2020 Jul/Aug;47(4):388-395. doi: 10.1097/WON.0000000000000656.

Utthiya P, Koetsawat R, Nuritanon J. Incidence and factors associated with incontinence associated dermatitis in patient ward Somdech Phra Debaratana Building Faculty of Medicine Ramathibodi Hospital: A retrospective matched-paired case control study design. J Royal Thai Army Nurses. 2023;24(2):290-8.

Polit DF, Beck CT. Nursing research: Generating and assessing evidence for nursing practice. 11thed. Philadelphia: Wolters Kluwer, Lippincott Publishers; 2021.

Voegeli D. Moisture-associated skin damage: aetiology, prevention and treatment. Br J Nurs. 2012;21(9):517-8, 520-1. doi: 10.12968/bjon.2012.21.9.517.

Bliss DZ, Savik K, Harms S, Fan Q, Wyman JF. Prevalence and correlates of perineal dermatitis in nursing home residents. Nurs Res. 2006;55(4):243-51. doi: 10.1097/00006199-200607000-00004.

Phungsiri P. The effect of utilizing work instruction for incontinence associated dermatitis in high risk patient. Reg 11 Med J. 2016;30(1):59-67.

Ferreira M, Abbade L, Bocchi SCM, Miot HA, Boas PV, Guimaraes HQC. Incontinence-associated dermatitis in elderly patients: prevalence and risk factors. Rev Bras Enferm. 2020;73.

Uppanisakorn S, Sommai T, Vattanaprasan P, Boonyarat J. Prevention and treatment of incontinence-associated dermatitis (IAD) in critical patients treated in the intensive care unit of a medical ward. Thai J Nurs Council. 2015;30(2):86-100.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

27-12-2024

รูปแบบการอ้างอิง

1.
ธัชศิรินิรัชกุล ร, วัฒนชัย ฐ, ทองหล่อ น, ชาติชำนิ ม. ความชุกของภาวะผิวหนังอักเสบจากการควบคุมการขับถ่ายไม่ได้ ในหอผู้ป่วยกึ่งวิกฤติอายุรกรรมชาย โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี. Singburi Hosp J [อินเทอร์เน็ต]. 27 ธันวาคม 2024 [อ้างถึง 25 ธันวาคม 2025];33(2):B153-161. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/shj/article/view/274193

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย