https://he01.tci-thaijo.org/index.php/shj/issue/feed
Singburi Hospital Journal
2025-12-11T09:00:34+07:00
บรรณาธิการวารสารโรงพยาบาลสิงห์บุรี
singhosp-journal@hotmail.com
Open Journal Systems
<p>Singburi Hospital Journal มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่และเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนความรู้ ผลงานวิจัย บทความวิชาการ กรณีศึกษา และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษา การพยาบาลและการส่งเสริมสุขภาพ ในการนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้ใหม่ ที่เป็นประโยชน์แก่สหสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง ทั้งภายในและภายนอกโรงพยาบาล เป็นวารสารราย 4 เดือน ปีละ 3 ฉบับ ดังนี้</p> <p> ฉบับที่ 1 มกราคม – เมษายน<br /> ฉบับที่ 2 พฤษภาคม – สิงหาคม <br /> ฉบับที่ 3 กันยายน – ธันวาคม</p>
https://he01.tci-thaijo.org/index.php/shj/article/view/280906
การพยาบาลผู้คลอดมีภาวะความดันโลหิตสูงร่วมกับการคลอดก่อนกำหนด
2025-11-24T10:31:13+07:00
รัตนาภรณ์ เต็มดวง
rattanaporn.tem2@gmail.com
<p>ภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์เป็นภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่ส่งผลกับอวัยวะหลายระบบทั่วร่างกาย โดยพยาธิสภาพหลักของภาวะนี้เกิดจากรก หากไม่ได้รับการแก้ไข หรือการดูแลรักษาที่ถูกต้อง จะทำให้มารดา และทารกเสียชีวิตจากการตั้งครรภ์ การคลอดเกือบทุกรายจากสถิติโรงพยาบาลสิงห์บุรีปี 2564- 2566 คิดเป็น 2.80%, 1.94%, 2.60% ซึ่งในการศึกษาครั้งนี้จะขอมุ่งเน้น เฉพาะส่วนของผู้คลอดที่มีความดันโลหิตสูงที่ต้องเข้าสู่กระบวนการคลอด ส่งผลให้เกิดภาวะการคลอดก่อนกำหนด หลักสำคัญในการดูแลรักษาคือ <br />ให้การดูแลรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อให้มารดา และทารกปลอดภัย โดยมีรูปแบบการศึกษา เป็นการวิเคราะห์กรณีศึกษา และนำผลการศึกษา<br />ไปประยุกต์ใช้ในการดูแลผู้คลอด</p> <p>กรณีศึกษารายนี้มีภาวะวิกฤติผู้คลอดมีโอกาสเกิดภาวะชักในระยะคลอด ทารกคลอดก่อนกำหนดทำให้มารดาและทารกเสียชีวิตได้พยาบาลห้องคลอดจึงต้องสามารถวินิจฉัยประเมินภาวะวิกฤติและให้การช่วยเหลือเบื้องต้นได้ทันท่วงทีตามมาตรฐาน ประสานงานสื่อสารข้อมูล และทำตามแผนการรักษาแบบองค์รวมทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เพื่อลูกเกิดรอดแม่ปลอดภัย สรุปกรณีศึกษารายนี้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง และเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด ได้รับการดูแลวินิจฉัยเบื้องต้น รายงานสูติแพทย์กุมารแพทย์และประสานงานทีมช่วยเหลือ</p> <p>พยาบาลห้องคลอดมีบทบาทสำคัญในการประเมินความเสี่ยงต่อหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง ร่วมกับการคลอดก่อนกำหนด และการให้การพยาบาลตามมาตรฐานการพยาบาล เตรียมความพร้อมของทีม อุปกรณ์ เครื่องมือ ยา รวมทั้งช่วยแพทย์ทำหัตถการต่างๆจนถึงเตรียมผ่าตัดคลอดในภาวะฉุกเฉินในภาวะวิกฤติ</p>
2025-12-12T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 โรงพยาบาลสิงห์บุรี
https://he01.tci-thaijo.org/index.php/shj/article/view/282964
อุบัติการณ์และปัจจัยที่ทำให้เกิดไข้หลังการผ่าตัดส่องกล้องรักษานิ่วในท่อไต
2025-10-07T11:24:44+07:00
กิตติกาญจน์ อิทธิสาร
kittykanitthisan@gmail.com
<p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอุบัติการณ์ และปัจจัยที่สัมพันธ์กับการเกิดไข้หลังการส่องกล้องรักษานิ่วในท่อไต การศึกษาเชิงวิเคราะห์แบบย้อนหลัง (retrospective cohort study) ทบทวนเวชระเบียนผู้ป่วยนิ่วท่อไตที่ได้รับการผ่าตัด URSL ณ โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จังหวัดสุพรรณบุรี ระหว่างเดือนตุลาคม 2563 – ตุลาคม 2566 รวม 110 ราย วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา และการวิเคราะห์ logistic regression</p> <p>พบอุบัติการณ์ไข้หลังผ่าตัดร้อยละ 22.7 (25/110 ราย) ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดไข้จากการวิเคราะห์ multiple logisitic regression ได้แก่ ผู้ป่วยที่มีโรคเบาหวานมีโอกาสเกิดไข้หลังผ่าตัดสูงกว่า 6.66 เท่า (Adj. OR=6.66, 95%CI 1.18–37.46, p=0.03) ระยะเวลาที่ใช้ในการผ่าตัดเพิ่มขึ้นทุก 1 นาทีสัมพันธ์กับความเสี่ยงเกิดไข้เพิ่มขึ้น 1.02 เท่า (Adj. OR=1.02, 95%CI 1.01–1.04, p=0.02) และการเสียเลือดขณะผ่าตัดสัมพันธ์กับโอกาสเกิดไข้สูงขึ้น 34.31 เท่า (Adj. OR=34.31, 95%CI 2.66–442.60, p<0.01)</p> <p>อุบัติการณ์ไข้หลัง URSL อยู่ที่ร้อยละ 22.7 และสัมพันธ์กับโรคเบาหวาน ระยะเวลาผ่าตัดที่นาน และการเสียเลือดขณะผ่าตัด ควรให้ความสำคัญกับการควบคุมโรคร่วม การประเมินการติดเชื้อก่อนผ่าตัด โดยเฉพาะการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะก่อนผ่าตัด และการจัดการระหว่างผ่าตัด เพื่อลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนและเพิ่มความปลอดภัยของผู้ป่วย</p>
2025-12-11T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 โรงพยาบาลสิงห์บุรี