ผลของการหมุนของฟันกรามแท้บนซี่ที่หนึ่งในคนไข้ปากแหว่งเพดานโหว่
คำสำคัญ:
ภาวะปากแหว่งเพดานโหว่, การหมุนของฟัน, ฟันกรามแท้บนซี่ที่หนึ่ง, เครื่องมือควอดฮีลิกซ์บทคัดย่อ
บทนำ: การเย็บปิดเพดาน เพื่อให้เด็กใช้เพดานในการรับประทานอาหารและฝึกพูด เพดานจะถูกดึงรั้งทำให้ขากรรไกรบนแคบลง การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการหมุนของฟันกรามแท้บนซี่ที่หนึ่งในคนไข้ปากแหว่งเพดานโหว่
วิธีการศึกษา: เป็นการศึกษาแบบย้อนหลัง เดือน พฤศจิกายน ถึง ธันวาคม 2565 กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ 32 คน เครื่องมือ เป็นแบบบันทึกข้อมูลจากแบบจำลองฟันปูน เครื่องมือขยายขากรรไกรควอดฮีลิกซ์ โดยเก็บข้อมูลก่อนการรักษาเปรียบเทียบหลังรักษาโดยการหมุนของฟันกรามแท้บนซี่ที่หนึ่งด้วยเครื่องมือขยายขากรรไกรควอดฮีลิกซ์ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนา ทดสอบค่าทีแบบคู่ และการถดถอยพหุคูณ
ผลการศึกษา: 1) หลังการหมุนของฟันกรามแท้บนซี่ที่หนึ่งในด้านที่ปากแหว่งเพดานโหว่และด้านปกติ ทำให้เกิดช่องว่างการเรียงตัวของฟันกรามในกระดูกขากรรไกรบนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p≤0.05) 2) ช่องว่างการเรียงตัวของฟันกรามในกระดูกขากรรไกรบนที่เพิ่มขึ้นหลังการหมุนของฟันกรามแท้บนซี่ที่หนึ่งระหว่างด้านที่ปากแหว่งเพดานโหว่ (cleft side) กับด้านปกติ (normal side) ไม่มีความแตกต่างกัน 3) การหมุนของฟันกรามแท้บนซี่ที่หนึ่งมีความสัมพันธ์กับการเกิดช่องว่างการเรียงตัวของฟันกรามในกระดูกขากรรไกรบนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p≤0.05)
สรุป: การหมุนของฟันกรามแท้บนซี่ที่หนึ่ง ทำให้เกิดช่องว่างเพื่อแก้ไขการซ้อนเกของฟัน ส่งผลให้เกิดการสบฟันบนและล่างอย่างถูกต้อง สามารถลดการถอนฟันแท้ได้
References
Eraydin F, Cakan DG, Tozlo M, Ozdemil F. Evaluation of buccolingud molar onclinalions amony different verical facial typer. Korean J orthod. 2018; 48(5): 333-38.
Panamonta V, Panamonta M, Chowchuen B. Global Birth Prevalence of Orofacial Cleft: A Systematic Review. J Med Assoc Thai. 2015;98 (Suppl. 7): S11-S21.
Peter A Mossey. Epidermiology underpinning research in the aetiology oforofacial clefts. Orthod Craniofacial Res. 2007; 10: 114-20.
Richard A. Hopper. Cleft lip and palate: embyology, principle, and treatment. Grabb and Smith's Plastic Surgery. 7 ed. New York: Wolters Kluwer, Lippincott Willium and Wilkins; 2014: 173-99.
Fuangtharnthip P, Chonnapasatid W, Thiradilok S, Manopatanakul S, Jaruratanasirikul S. Registry-Based Study of Prevalence of Cleft Lip/Palate in Thailand from 2012 to 2015. Cleft Palate Craniofac J 2021; 58(11): 1430-37.
Chowchuen B, Surakunprapha P, Winaikosol K, Punyavong P, Kiatchoosakun P, Pradubwong S. Birth Prevalence and Risk Factors Associated with CL/P in Thailand. Cleft Palate Craniofac J 2021; 58(5): 557-66.
Pradubwong S, Mongkhonthawornchai S, Keawkhamsean N, Prathanee B, Patjanasoontorn N, Chowchuen B. Clinical Outcomes of Primary Palatoplasty in Pre-school-aged Palate children in Srinagarind Hospital: Quality of Life. J Med Assoc Thai 2014; 97 (Suppl. 10): 25-31.
Patjanasoontorn N, Pradaubwong S, Rongbutsri S, Mongkholthawornchai S, Chowchuen B. Tawanchai Cleft Center Quality of Life Outcomes: One of Studies of Patients with Cleft Lip and Palate in Thailand and the Asia Pacific Region. J Med Assoc Thai 2012; 95 (Suppl. 11): 141-47.
Bienengraber V, Malek FA, Moritz KU, Fanghanel J, Gundlach KKH, Weingartner J. Is it possible to prevent cleft palate by prenatal administration of folic acid. An experimental study. Ceft Palate Craniofa J 2001; 38: 393-98.
Tafti A , Clark P. Anatomy, Head and Neck, Primary Dentition. Island. StatPearls Publishing. 2022.
Chowchuen B. Interdisciplinary Care of Cleft Lip, Cleft Palate and Craniofacial Anomalies. 2014.
ปาจรีย์ ศรีไทย. การรักษาทางทันตกรรมในผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่: รายงานผู้ป่วย. วารสารการแพทย์โรงพยาบาลศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์. 2562; 34(3): 371-83.
Angle EH. Classification of malocclusion. Dent Cosmos 1899; 41(3): 248-64.
Friel S. Deterinination of the angle of rotation of the upper first permanent molar to the median raphe of the palate in different types of malocclusion. Dental Practitioner. 1995; 9: 77-79
Eraydin F, Cakan DG, Tozlo M, Ozdemil F. Evaluation of buccolingud molar onclinalions amony different verical facial typer. Korean J orthod. 2018; 48(5): 333-38.
Dahlquist A, Gebauer U, Ingervall B. The effect of a transpalatal arch for the correction of first molar rotation. Eur J Orthod. 1996; 18(3): 257-67.
เข็มพร กิจสหวงศ์, สมศักดิ์ กิจสหวงศ์. การจัดการช่องว่างของขากรรไกรในเด็ก. วิทยาสารทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 2020; 23(1): 84-94.
Jensen BL, Kreiborg S, Dahl E, Fofh Andersen P. Clef lip and palate in Denmark, 1976-1981: epidemiology, variability, and early somatic development. Cleft Palate J. 1988; 25(3): 258-69.
Vasent MR, Menon S, Kannan S. Maxillary Expansion in Cleft Lip and Palate using Quad Helix and Rapid Palatal Expansion screw. Med J Armed Forces India. 2009; 65(2): 150-63.
Braun S, Kusnoto B, Evans CA. The effect of maxillary first molar derotation on arch length. Am J Orthod Dentofacial Orthop. 1997; 112(5): 538-44.
Suri S, Disthaporn S, Ross B, Tompson B, Baena D, Fisher D, Lou W. Permanent maxillary central incisor and first molar rotations in the mixed dentition in repaired complete unilateral cleft lip and palate and their relationship with absence of teeth in their vicinity. Angle Orthod. 2018; 88(5): 567-76.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2023 โรงพยาบาลสิงห์บุรี
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของโรงพยาบาลสิงห์บุรี
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลสิงห์บุรี และบุคคลากรท่านอื่นๆในโรงพยาบาลฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
