การพยาบาลผู้คลอดที่มีภาวะไทรอยด์เป็นพิษวิกฤติร่วมกับมีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดและมีภาวะครรภ์เป็นพิษชนิดรุนแรงกับภาวะหัวใจล้มเหลว
บทคัดย่อ
ภาวะไทรอยด์เป็นพิษวิกฤติร่วมกับมีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดและมีภาวะพิษแห่งครรภ์ชนิดรุนแรงกับภาวะหัวใจล้มเหลว เป็นภาวะเสี่ยงสูงที่อันตรายต่อชีวิต อาจเกิดความพิการแก่มารดาและทารก สามารถพบได้ในทุกระดับของสถานบริการ ผู้เขียนจึงได้นำเสนอบทความนี้เพื่อเป็นแนวทางในการเตรียมความพร้อมสำหรับทีมสหวิชาชีพทางด้านสุขภาพ เพื่อให้มารดาและทารกได้รับความปลอดภัย กรณีศึกษา หญิงไทยอายุครรภ์ 34 สัปดาห์ ประวัติ ไทรอยด์เป็นพิษ ขาดการรักษา 3 ปี ฝากครรภ์ 1 ครั้งที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล มาด้วยเจ็บครรภ์คลอด ปากมดลูกเปิด 7 เซนติเมตร ชีพจร 150 ครั้ง/นาที เหนื่อย ค่าความอิ่มตัวออกซิเจนของฮีโมโกบิลจากชีพจร (Oxygen saturation) 95 % ความดันโลหิต 162/130 มิลลิเมตรปรอท มีอาการมึนศีรษะ สูติแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นไทรอยด์เป็นพิษ (Hyperthyroid) ร่วมกับภาวะครรภ์เป็นพิษชนิดรุนแรง (Severe preeclampsia) และมีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด (Preterm labor pain) เกิดการคลอดเร็วทางช่องคลอดหลังรับนอนโรงพยาบาล 20 นาที ทารกปลอดภัยดี น้ำหนัก 2,310 กรัม มารดาเกิดความรุนแรงของพยาธิสภาพและภาวะแทรกซ้อนอย่างรวดเร็ว สูติแพทย์วินิจฉัยว่าเกิดภาวะไทรอยด์เป็นพิษวิกฤติ (Thyroid storm) ร่วมกับภาวะครรภ์เป็นพิษชนิดรุนแรงกับภาวะหัวใจล้มเหลว (Congestive heart failure) ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ และส่งต่อโรงพยาบาลบ้านหมี่ เนื่องจากแผนกผู้ป่วยหนักเตียงเต็ม จากกรณีศึกษาผู้ศึกษาได้วินิจฉัยการพยาบาลเป็น 3 ระยะ คือ ในระยะก่อนคลอด ระยะคลอด และระยะหลังคลอด ผลจากการพยาบาลพบว่า ผู้คลอดได้รับการเฝ้าระวังสัญญาณเตือนภาวะเสี่ยงจากพยาบาลอย่างต่อเนื่อง ได้ประสานเพื่อแก้ไขภาวะวิกฤติจากทีมอย่างรวดเร็ว จากการให้ข้อมูลแก่ผู้คลอดซึ่งรู้ตัวตลอดเวลาและญาติถึงเรื่องการพยากรณ์โรค แนวทางการรักษาพยาบาลจากสูติแพทย์ และพยาบาล โดยแจ้งทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง ผู้คลอดเข้าใจและร่วมมือในการดูแลตลอด ส่งต่ออย่างปลอดภัย ถอดท่อช่วยหายใจ (Off Endotracheal tube) อีก 2 วันต่อมา แพทย์อนุญาตกลับบ้านหลังรับนอนโรงพยาบาล 6 วัน สามารถดำรงชีวิตที่บ้านอย่างปกติสุข และรักษาโรคไทรอยด์เป็นพิษต่อเนื่อง
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2022 โรงพยาบาลสิงห์บุรี
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของโรงพยาบาลสิงห์บุรี
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลสิงห์บุรี และบุคคลากรท่านอื่นๆในโรงพยาบาลฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว