การพัฒนารูปแบบการโค้ชวิถีชีวิตเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน ในผู้สูงอายุมุสลิมโรคเบาหวานชนิด 2 จังหวัดยะลา
คำสำคัญ:
ผู้สูงอายุมุสลิม , การโค้ชวิถีชีวิต , โรคเบาหวานชนิด 2 , การป้องกันภาวะแทรกซ้อนโรคเบาหวาน , การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพบทคัดย่อ
การวิจัยและพัฒนานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสถานการณ์ พัฒนารูปแบบ และประสิทธิผลของรูปแบบการโค้ชวิถีชีวิตเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน ในผู้สูงอายุมุสลิมโรคเบาหวานชนิด 2 จังหวัดยะลา ดำเนินการ 3 ขั้นตอนคือ 1) ศึกษาสถานการณ์ ใช้วิธีเชิงปริมานจากโรคเบาหวานสูงอายุมุสลิม จำนวน 250 คน และวิธีเชิงคุณภาพ โดยการใช้สนทนากลุ่มผู้สูงอายุมุสลิม 35 คน แบ่งเป็นผู้สูงอายุมุสลิม โรคเบาหวานชนิด 2 จังหวัดยะลา จำนวน 15 คน ผู้ดูแลผู้สูงอายุจำนวน 10 คน และกลุ่มเจ้าหน้าที่ที่ดูแลผู้สูงอายุ จำนวน 10 คน วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและวิเคราะห์เชิงเนื้อหา 2) พัฒนารูปแบบและทดลองใช้รูปแบบตามแนวคิดการโค้ชวิถีชีวิต ผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 คน 3) ศึกษาประสิทธิผลจากรูปแบบฯ ใช้ระเบียบวิธีการวิจัยแบบกึ่งทดลอง ชนิดหนึ่งกลุ่ม วัดก่อนและหลังการทดลอง กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้สูงอายุมุสลิม จำนวน 35 คน โดยใช้โปรแกรม G* Power Analysis วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และสถิติ Paired t-test ผลการศึกษาพบว่า
1. พฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้สูงอายุมุสลิมโรคเบาหวานชนิด 2 อยู่ในระดับพอใช้ โดยพฤติกรรมที่ผู้สูงอายุปฏิบัติได้ดีมากที่สุดคือ การรับประทานอาหาร (ร้อยละ 75.20) รองลงมาคือการรับประทานยา (ร้อยละ 40.40) ข้อมูลด้านคุณภาพ พบว่า รูปแบบการโค้ชวิถีชีวิต ในผู้สูงอายุมุสลิมเป็นรูปแบบใหม่ ผู้ให้บริการโค้ชต้องมีทักษะการโค้ช และยังไม่พบศึกษาในจัดบริการโค้ชในของผู้สูงอายุมุสลิม
2. รูปแบบการโค้ชวิถีชีวิต (Lifestyle Coaching Model: LC Model) มุ่งเน้น 3 องค์ประกอบที่เรียกว่า HBC ได้แก่ H: Health Service (ระบบบริการสุขภาพ) B: Behavior Changer Coach (ผู้รับบริการโค้ชเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม) C: Communication (แรงจูงใจ) ขับเคลื่อนทั้ง 3 องค์ประกอบอย่างต่อเนื่องเป็นพลวัตร
3. หลังใช้รูปแบบฯ พบว่า คะแนนพฤติกรรมการดูแลตนเอง โรคเบาหวานชนิด 2 และสภาวะสุขภาพสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ภาวะแทรกซ้อนของโรคลดลง และความพึงพอใจของผู้สูงอายุมุสลิมต่อกิจกรรมการโค้ชอยู่ในระดับมากที่สุด ร้อยละ 94.20
ดังนั้นรูปแบบที่ใช้มีประสิทธิภาพในการปรับพฤติกรรมสุขภาพและมีสุขภาวะที่ดีขึ้นรองรับกลยุทธการลดและป้องกันความรุนแรงของโรคไม่ติดต่อเรื้อรังตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข ควรขยายผลไปยังหน่วยส่งเสริมสุขภาพในแต่ละเขตสุขภาพ เพื่อให้บุคลากรสาธารณสุขสามารถนำไปประยุคใช้ในการดูแลผู้สูงอายุที่เป็นโรคเบาหวาน
เอกสารอ้างอิง
กรมควบคุมโรค. (2562). รายงานสถานการณ์โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง. สำนักพิมพ์อักษรดีไซค์. สืบค้นเมื่อ 30 กันยายน 2567 จาก https://ddc.moph.go.th/uploads/publish/1035820201005073556.pdf
กองยุทธศาสตร์และแผนงาน. (2567). รายงานการป่วย ปี พ.ศ. 2565. กลุ่มข้อมูลและสารสนเทศสุขภาพ กองยุทธศาสตร์และแผนงาน. สืบค้นเมื่อ 30 กันยายน 2567 จาก https://n9.cl/e18o8
เกรียงศักดิ์ นิรัติพัฒนะศัย. (2566). พัฒนาทักษะการโค้ชผู้บริหารแบบมืออาชีพ. สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ.
จุไรรัตน์ สกุลจีน. (2568). ผลการรักษาแบบการแพทย์ทางไกลผ่านการวีดีโอคอลต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองและระดับน้ำตาลสะสมในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานไทยมุสลิม. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยและการสาธารณสุขภาคใต้. 12(2), 1-14.
ณัฐภัสสร เดิมขุนทด, สว่างจิต สุรอมรกูล, รัชนีวรรณ ขวัญเจริญ และชาญวัฒน์ ชวนตันติกมล. (2022). ผลของการให้ความรู้และสนับสนุนการจัดการตนเองของผู้เป็นเบาหวาน ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมไม่ดี. วชิรสารการพยาบาล, 24(1), 1–24.
นุชษญากร คณาภรณ์ทิพย์. (2561). พฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยเบาหวานที่มารับบริการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโพสะ อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง. วารสารสถาบันบำราศนราดูร, 12(2), 60–69.
เทศบาลเมืองสะเตงนอก. (2025). รายงานสรุปผลการดำเนินงานด้านสาธารณสุข ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568. สืบค้นเมื่อ 30 กันยายน 2567 จาก https://www.satengnok.go.th/report/2025-public-health-summary
ประภาเพ็ญ สุวรรณ. (2564). การฝึกส่วนตัวเพื่อวิถีชีวิตสุขภาวะ: สิ่งท้าทายของสังคมไทย: (Health Lifestyle Coaching: A Challenge of Thai Sociaey)”. ใน เอกสารวิชาการนำเสนอในประชุมวิชาการและเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ ครั้งที่19 มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น. (105–117).
สรินฎา ปุติ. (2561). ความสัมพันธ์ระหว่างความเชื่อด้านสุขภาพกับการเข้าถึงบริการสุขภาพในกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังของประชาชนห้าจังหวัดชายแดนใต้ ประเทศไทย. วารสารพยาบาลสงขลานครินทร์, 6(4), 114–127.
สันต์ ใจยอดศิลป์ และพิจิกา วัชราภิชาต. (2566). คัมภีร์สุขภาพดี สุขภาพดีได้ง่ายๆ ด้วยตนเอง. กรีนไลฟ์พริ้นติ้งเฮ้า จำกัด.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา. (2567). รายงานข้อมูลจำนวนผู้ป่วยเบาหวานรายใหม่ ประจำเดือน พฤษภาคม. Health Data Center (HDC). สืบค้นเมื่อ 12 พฤษภาคม 2568 จาก https://hdc.moph.go.th/yla/public/standard-report-etail/150edaa99ecbe538378b8150e0776763
สุนันทา กาญจนพงศ์. (2566). การพัฒนารูปแบบการสร้างสุขภาพดี วิถีใหม่ วิถีธรรม วิถีไทย วิถีเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานที่นับถือศาสนาอิสลาม. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 32(เพิ่มเติม1), 86 – 101.
Ahmann, E., Saviet, M., Conboy, L., Smith, K., Iachini, B., & DeMartin, R. (2023). Health and wellness coaching and sustained gains: A rapid systematic review. American Journal of Lifestyle Medicine, 18(2), 162–180. doi.org/10.1177/15598276231180117
Association for Coaching. (2003). A Position on Health Coaching and Chronic Disease Management. Retrieved March 25, 2025 from https://www.associationforcoaching.com/page/CoachingDefine
Cohen, J. (1977). Statistical Power Analysis for The Behavioral Sciences. Academic Press.
Cohen, J. (1988). Statistical Power Analysis For The Behavioral Sciences (2nd ed.). Lawrence Erlbaum Associates. doi.org/10.4324/9780203771587
Crabtree, B. F., & Miller, W. L. (1992). The Analysis of Qualitative Data in Primary Care Research. In B. F. Crabtree & W. L. Miller (Eds.), Doing Qualitative Research (pp. 33-47). Sage Publications.
Faul, F., Erdfelder, E., Lang, A. G., & Buchner, A. (2007). G*Power 3: A flexible statistical power analysis program for the social, behavioral, and biomedical sciences. Behavior Research Methods, 39(2), 175–191. doi.org/10.3758/BF03193146
Huang, L. C., Chang, Y.-T., Chen, R.-Y., & Yang, S. H. (2021). Effectiveness of health coaching in diabetes control and lifestyle improvement: A randomized-controlled trial. Nutrients, 13(3878), 1–10.
Hyman, M. A., Ornish, D., & Roizen, M. (2009). Lifestyle medicine: Treating the causes of disease.
Alternative Therapies in Health and Medicine, 15(6), 12–14.
James, F. W. (2019). Introduction to Lifestyle Medicine: Evidence-based Clinical Practice. Lifestyle Medicine Institute.
Tan, C. C. L., Cheng, K. K. F., Hwang, S. W., Zhang, N., Holroyd, E., & Wang, W. (2020). Effect of a diabetes self-efficacy enhancing program on older adults with type 2 diabetes: A randomized controlled trial. Clin Nurs Res, 29(5), 293-303. doi: 10.1177/1054773818792480.
World Health Organization. (2023). Health Service Delivery Framework for Prevention and Management of Obesity. Retrieved September 30, 2024 from https://n9.cl/qnpe9
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. บทความหรือข้อคิดเห็นใด ๆ ที่ปรากฏในวารสารเครือข่าย วิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้ ที่เป็นวรรณกรรมของผู้เขียน บรรณาธิการหรือเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและวิทยาลัยการสาธารณสุขภาคใต้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
2. บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้

