Effect of Health Promotion Program of Conjunction and Time Capsule Innovation for Uncontrolled Diabetic Type 2 Patients in Wangyai Sub-District Health Promotion Hospital, Phetchabun Province
Main Article Content
Abstract
Diabetes is a significant world health problem, and complications occur when uncontrolled. This research purpose is to study the effect of a health promotion program of conjunction and time capsule innovation on uncontrolled diabetic type 2 patients in Wangyai Sub-District Health Promotion Hospital, Phetchabun Province. This is quasi-experimental research with two groups of 70 people, consisting of 35 experimental groups and 35 compared groups. The experimental group received a program created by researchers. It takes 10 weeks to complete the experimental process, including media lecture activities, dining, and practice using Time capsules innovation for taking medicines. Stress management, exercise, maintaining personal hygiene, doctor's appointments, knowledge sharing, and the comparison group were treated as usual. The data was collected through questionnaires and analyzed using techniques such as the independent t-test and the paired t-test. The statistical significance level was set at 0.05.
The results found that: after the experiment, the experimental group had the mean scores of knowledge,perceived susceptibility, perceived severity, perceived beneficence, and self-care practices higher than before the experiment and were statistically significantly higher than the comparison group,
p < 0.001, and after the experiment The experimental group had lower mean blood sugar (FBS) than before the experiment, which was statistically significant (MD 28.80, 95% CI = 21.56 to 36.04; p < 0.001) and lower than the comparison group, which was statistically significant (MD 31.69, 95%CI = 26.46 to 36.91; p < 0.001). Therefore, the program can be used as a guideline for caring for diabetic patients. so that diabetic patients have appropriate self-care behaviors. As a result, the treatment is more effective.
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
References
กระทรวงสาธารณสาธารณสุข. ข้อมูลรายงาน HDC กระทรวงสาธารณสุข 3 ปีย้อนหลัง. [อินเทอร์เน็ต]. 2564 [เข้าถึงเมื่อ 20 มิถุนายน 2565], เข้าถึงได้จาก https://hdcservice.moph.go.th/hdc/main/index_pk
กระทรวงสาธารณสุข. ข้อมูลรายงาน HDC จำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานในเขตรับผิดชอบอำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์. [อินเทอร์เน็ต]. 2565 [เข้าถึงเมื่อ 1 สิงหาคม 2565], เข้าถึงได้จากhttps://pnb.hdc.moph.go.th/hdc/main/index_pk.php
สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย. แนวทางเวชปฏิบัติสำหรับโรคเบาหวาน 2560. ปทุมธานี: ร่มเย็น มีเดีย; 2560
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลวังใหญ่. ข้อมูลทะเบียนผู้ป่วยโรคเบาหวานในเขตพื้นที่รับผิดชอบของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลวังใหญ่ จังหวัดเพชรบูรณ์; 2565
บวรรัตน์ อังศุวัฒนากุล และสงวน ลือเกียรติบัณฑิต. การพัฒนาฉลากภาพสำหรับผู้ป่วยที่ไม่รู้หนังสือ ตอนที่ 1: วิธีการรับประทานยาเม็ด. วารสารเภสัชกรรมไทย [อินเทอร์เน็ต]. 2557 [เข้าถึงเมื่อ 14 มกราคม 2566]: 6, เข้าถึงได้จาก https://he01.tcithaijo.org/index.php/TJPP/article/view/169448/1219006.
Rosenstock, Irwin. M. The Health Belief Model and Prevention Health Behavior. Health Education Monographs, 1974; 2(b): 355-385.
House, J.S. Work Stress and Social Support. California : Addison Wesley Publishing;1981
สาวิตรี พรมกล และปาริชา นิพพานนทน์. ผลของโปรแกรมสุขศึกษาที่ประยุกต์ใช้แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ ร่วมกับแรงสนับสนุนทางสังคมเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2: กรณีศึกษาในผู้ป่วยที่ขึ้นทะเบียนกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านดอนสวรรค์ ตำบลกุดปลาดุก จังหวัดมหาสารคาม. วารสารวิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพ. 2559: 9 (3): 21-28
ดวงเดือน หันทยุง , วรพล แวงนอก, วรากร เกรียงไกรศักดา. ผลของการใช้โปรแกรมประยุกต์ทฤษฎีแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองของผู้ป่วยเบาหวาน ในเขตโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ตำบลเมืองไผ่วารสารวิจัยราชภัฏพระนคร สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. 2559: 11: 36 - 51
พรพิมล อุลิตผล. การใช้โปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ของผู้ป่วย เบาหวาน โดยใช้กรอบแนวคิดแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ และทฤษฎีการรับรู้ความสามารถในตนเองของผู้ป่วย เบาหวาน ชนิดที่ 2 โรงพยาบาลเขาพนม อำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่. วารสารการพัฒนาสุขภาพชุมชน [อินทอร์เน็ต]. 2558 [เข้าถึงเมื่อ 1 สิงหาคม 2565]: 3, เข้าถึงได้จาก https://chd.kku.ac.th/index.phpoption=com_content&view=category&id=39&Itemid=260&lang=th
สิริภา เอี่ยมวิจิตร์. ผลของโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพต่อพฤติกรรมการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวาน ตำบลคลองอุดมชลจร อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา. [อินทอร์เน็ต]. 2559 [เข้าถึงเมื่อ 1 สิงหาคม 2565]: เข้าถึงได้จาก http://www.govesite.com/uploads/201507231353166t5LR59/20180615105056_1_rPBm10U.pdf
วิระพล ภิมาลย์ และคณะ. การพัฒนาและประเมินระบบฉลากยารูปภาพสำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรังสูงอายุ. วารสารเภสัชศาสตร์อีสาน [อินทอร์เน็ต]. 2557 [เข้าถึงเมื่อ 15 มกราคม 2566]: 9: 109 – 115, เข้าถึงได้จาก https://he01.tcithaijo.org/index.php/IJPS/article/view/16326