The Predictive Factors Associated with Fall Prevention Behavior of Elderly People in Bang Khen Subdistrict Health Promoting Hospital Area, Nonthaburi Province

Main Article Content

Ruknirun Krearprasert
Mondha Kengganpanich
Alongkorn Pekale

Abstract

The increasing incidence of falls among the elderly in Thailand is a significant public health problem. This cross-sectional survey study aimed at identifying the predictive factors associated with falls prevention behavior among the elderly in the Bang Khen Sub-district Health Promoting Hospital, Mueang District, Nonthaburi Province. The health belief model was applied as a framework for the study. The sample included 250 elderly individuals aged 60 years and over, selected by a multi-stage random sampling method. Data were collected by interviews from October to November 2022. The statistical analysis used to determine the correlation between variables included chi-square, Pearson's correlation coefficient, and binary logistic regression analysis.


            The study found that the fall prevention behavior of elderly was mostly high level, 50.8 percent and statistically significance of three predictors (p < 0.05) of the preventive behavior against falls in older adults. These predictors included smooth flooring characteristics (p = 0.003), history of falls (p = 0.017), and perception of fall risk (p = 0.047). All of these factors contribute to explaining the variability of preventive behavior against falls in older adults by 25.1% (Nagelkerke R Square = 0.251, p < 0.001), and the overall predictive accuracy of the model was 72.4%. Therefore, healthcare units should provide fall assessment services to elderly individuals, conduct training to modify preventive behaviors related to falls among the elderly, promoting awareness of fall risk and give advice on being caution of risk areas. Furthermore, the capacity and skills development of healthcare personnel and community leaders involved in caring for the elderly in the area should be enhanced.

Article Details

Section
Research Article

References

World Health Organization. WHO Global Report on Falls Prevention in Older Age. [อินเทอร์เน็ต]. France; 2007. [cited 2021 November 15]. Available from: http://www.who.int/ageing/projects/falls_prevention_older_age/en/index.html

มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย (มส.ผส.). รายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุไทย ปี 2563. นครปฐม: อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์พับลิชชิ่ง; 2563.

กระทรวงสาธารณสุข, กองยุทธศาสตร์และแผนงาน. สรุปรายงานการป่วย พ.ศ. 2563 [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2564]. เข้าถึงได้จาก https://bps.moph.go.th/new_bps/sites/default/files/ill_2020_full_27092021%20v2.pdf

กรมควบคุมโรค, กองป้องกันการบาดเจ็บ. [อินเทอร์เน็ต]. สังคมสูงวัยใส่ใจพลัดตกหกล้ม; 2564 [เข้าถึงเมื่อ 25 สิงหาคม 2564]. เข้าถึงได้จาก https://ddc.moph.go.th/uploads/publish/1157520210624083452.pdf

มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย. ยากันล้ม คู่มือป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ. กรุงเทพมหานคร: มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย (มสผส.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.); 2558.

กรมควบคุมโรค, กองป้องกันการบาดเจ็บ. [อินเทอร์เน็ต]. ตารางแสดงจำนวนและอัตราการเสียชีวิตจากการพลัดตกหกล้มในผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ต่อประชากรแสนคน จำแนกรายจังหวัด ปี พ.ศ. 2559-2563. 2564, [เข้าถึงเมื่อ 22 พฤศจิกายน 2564]. เข้าถึงได้จาก https://ddc.moph.go.th/uploads/files/1662820210118045737.pdf

เยาวลักษณ์ คุมขวัญ, อภิรดี คำเงิน, อุษณีย์ วรรณลัย, นิพร ขัดตา. แนวทางการป้องกันการพลัดตกหกล้มที่บ้านในผู้สูงอายุบริบทของประเทศไทย. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข. 2561; 28(3): 10-22.

อรษา ภูเจริญ, อรรถพล รอดแก้ว, จิตศิริน ก้อนคง, รัตนวดี ทองบัวบาน. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการหกล้มในผู้สูงอายุ ตำบลหัวรอ อำเภอเมืองจังหวัดพิษณุโลก. PSRU Journal of Science and Technology. 2561; 3(2): 46-54.

อริสรา บุญรักษา. ปัจจัยที่มีผลต่อการหกล้มในผู้สูงอายุตำบลแม่อิง อำเภอภูกามยาว จังหวัดพะเยา. [ปริญญานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต]. พะเยา: มหาวิทยาลัยพะเยา; 2564.

นงนุช วงศ์สว่าง, ดนุลดา จีนขาวขำ, ชลธิชา บุญศิริ, สุรินทร์ มีลาภล้น, จารุนันท์ สมบูรณ์สิทธิ์, เพ็ญจมาศ คำธนะ และคณะ. ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมในบ้านต่อการพลัดตกหกล้มและอุบัติการณ์การพลัดตกหกล้มของผู้สูงอายุ. Veridian E-Journal,Silpakorn University. 2560; 10(3): 2492 – 2506.

Kim T, Choi SD, Xiong S. Epidemiology of fall and its socioeconomic risk factors in community-dwelling Korean elderly. PLoS ONE [Internet]. 2020; 15(6): 1-14. [cited 2021 November 15]. Available from: https://doi.org/10.1371/journal.pone.0234787.

วิชัย เอกพลากร. การสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2562-2563, (พิมพ์ครั้งที่ 6): สำนักพิมพ์อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์; 2564.

กระทรวงสาธารณสุข, กรมการแพทย์ สถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ . แนวทางเวชปฏิบัติการป้องกันและประเมินภาวะหกล้มในผู้สูงอายุ. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพ : สินทวีการพิมพ์; 2562.

Rosenstock IM, Stretcher VJ, Becker MH. Social learning theory and the health belief model. Health Education Quarterly. 1998; 15(2): 175–183.

อัจฉรา สาระพันธ์, ณัฐกฤตา ศิริโสภณ, ประเสริฐศักดิ์ กายนาคา, สมบัติ อ่อนศิริ, บุญเลิศ อุทยานิก, สุพัฒน์ ธีรเวชเจริญชัยและคณะ. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการป้องกันการหกล้มของผู้สูงอายุ. วารสารพยาบาลทหารบก. 2560; 18(ฉบับพิเศษ): 216-217.

กระทรวงสาธารณสุข, ฐานข้อมูลสุขภาพ HDC. รายงานการประเมินคัดกรองความสามารถในการดำเนินชีวิตประจำวัน (ADL). [อินเทอร์เน็ต]. 2564 [เข้าถึงเมื่อ 18 พฤษจิกายน 2564]. เข้าถึงได้จาก https://hdcservice.moph.go.th/hdc/reports/report.php

กระทรวงสาธารณสุข. ฐานข้อมูลสุขภาพ HDC สรุปจำนวนข้อมูลผู้ป่วยนอก ของ รพสต. [อินเทอร์เน็ต]. 2654 [เข้าถึงเมื่อ 24 ตุลาคม 2564]. เข้าถึงได้จาก https://hdcservice.moph.go.th/hdc/reports/so_report.php.

Daniel WW, Cross CL. Biostatistics: A Foundation for Analysis in the Health Sciences. 11st Ed. John Wiley & Sons; 2018.

สุนันทา ผ่องแผ้ว. ศึกษาปัจจัยทำนายพฤติกรรมป้องกันการหกล้มของผู้สูงอายุ จังหวัดนนทบุรี. [ปริญญานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (สาธารณสุขศาสตร์) สาขาวิชาเอกการพยาบาลสาธารณสุุข]. นครปฐม : มหาวิทยาลัยมหิดล, 2556.

ณัฐชยา พวงทอง. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการป้องกันการหกล้มของผู้สูงอายุอำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี. [ปริญญานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต]. พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร, 2564.

Bloom BS. Taxonomy of Educational Objectives: The Classification of Educational Goals Handbook 1: Cognitive Domain. New York: David McKay Company Inc.,; 1975.

Polit DF, Beck CT. The Content Validity Index: Are You Sure You Know What's Being Reported? Critique and Recommendations. Res Nurs Health. 2006; 29: 489-497.

ปราณี มีหาญพงษ์, กรรณิการ์ ฉัตรดอกไม้ไพร. การตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือวิจัยทางการพยาบาล. วารสารพยาบาลทหารบก. 2561; 19(1): 9-15.

ตวงรัตน์ อัคนาน, กันธิมา ศรีหมากสุก,ธงเทพ วงษ์ศรีสังข์, ชวนพิศ ศิริไพบูลย์, อิทธิพล ดวงจินดา, ศศิกานต์ พิลาภรณ์. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันการพลัดตกหกล้มของผู้สูงอายุไทยในชุมชนอำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี. วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 2564; 14(4): 72-89.

กมลรัตน์ กิตติพิมพานนท์, ผจงจิต ไกรถาวร. ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล ภาวะสุขภาพ และความรอบรู้ด้านสุขภาพเกี่ยวกับการหกล้มกับพฤติกรรมการป้องกันการหกล้มของผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในชุมชน. รามาธิบดีพยาบาลสาร. 2564; 27(3): 331-342.

มุทิตา มุสิการยกูล. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการป้องกันการหกล้มของผู้สูงอายุ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา.[ปริญญานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย]. กรุงเทพฯ:จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2563.

กนกวรรณ เมืองศิริ, นิภา มหารัชพงศ์, ยุวดี รอดจากภัย. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการป้องกันการหกล้มของผู้สูงอายุจังหวัดชลบุรี. Naresuan Univ. J. Sci. Tech. 2017; 25(4): 23-33.

สำนักอนามัยสิ่งแวดล้อม กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือการจัดสภาพแวดล้อม ที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ. สำนักงานกิจการโรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก; 2558.

นัทชา เขตเจริญ. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันการหกล้มของผู้สูงอายุในชุมชน จังหวัดหนองบัวลำภู. วารสารสุขภาพและสิ่งแวดล้อมศึกษา. 2563; 5(2): 155-165.

นภาพร เวสสุกรรม, ประทีป กาลเขว้า. ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยชีวสังคมและการรับรู้กับพฤติกรรมการป้องกันการหกล้มของผู้สูงอายุตำบลหลุมข้าว อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี. วารสารสภาการสาธารณสุขชุมชน. 2562; 1(1): 12-23.

สุภัสสร บุญกรับพวง, กิตติวรรณ จันทร์ฤทธิ์, ธนากร ธนวัฒน์. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ ตำบลท่าอิฐ อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์. วารสารวิชาการสาธารณสุขชุมชน. 2565; 8(4): 45-55.

Stretcher V, Rosenstock IM. The Health Belief Model. In: Glanz K, Lewis FM, Rimer BK, eds. Health Behavior and Health Education: Theory, Research and Practice. San Francisco: Jossey-Bass; 1997.