การพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลเพื่อป้องกันการตกเลือดในระยะ 2 ชั่วโมงแรกหลังคลอด โรงพยาบาลร้องกวาง จังหวัดแพร่

ผู้แต่ง

  • จินนา รสเข้ม โรงพยาบาลร้องกวาง อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ 1*,2,3
  • ศรีรัตน์ อินถา โรงพยาบาลร้องกวาง อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่
  • จินตนา เหลี่ยมศรี โรงพยาบาลร้องกวาง อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่

คำสำคัญ:

แนวปฏิบัติการพยาบาล, การตกเลือดในระยะ 2 ชั่วโมงแรกหลังคลอด

บทคัดย่อ

ภาวะตกเลือดหลังคลอดเป็นภาวะฉุกเฉินทางสูติศาสตร์ที่พบบ่อยที่สุด และเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตในมารดาทั่วโลกโดยเฉพาะในช่วง 2 ชั่วโมงแรกหลังคลอด การวิจัยนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา
มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลเพื่อป้องกันการตกเลือดในระยะ 2 ชั่วโมงแรกหลังคลอดโรงพยาบาลร้องกวาง จังหวัดแพร่ และศึกษาผลของการใช้แนวที่พัฒนาขึ้น ดำเนินการวิจัยเป็น 3 ระยะ คือ
1) ศึกษาหลักฐานเชิงประจักษ์โดยใช้รูปแบบและขั้นตอนการปฏิบัติการพยาบาลตามหลักฐานเชิงประจักษ์ของ IOWA Model 4 ขั้นตอนในการพัฒนาแนวปฏิบัติ ผ่านการประเมินคุณภาพของแนวปฏิบัติโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 5 ท่าน ด้วยเครื่องมือ AGREE II ได้คะแนนในแต่ละหมวดมากกว่าร้อยละ 80 ได้ค่า CVI เท่ากับ 0.96 และแบบประเมินความคิดเห็นของพยาบาลวิชาชีพต่อการใช้แนวปฏิบัติการพยาบาลเพื่อป้องกันการตกเลือดในระยะ
2 ชั่วโมงแรกหลังคลอด โรงพยาบาลร้องกวาง จังหวัดแพร่ ได้ค่า CVI เท่ากับ 1.00 2) การนำแนวปฏิบัติที่พัฒนาขึ้นไปทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่มคือ (1) พยาบาลวิชาชีพงานการพยาบาลผู้คลอดจำนวน 7 คน และ (2)ผู้คลอดที่มาคลอดบุตรทางช่องคลอด โรงพยาบาลร้องกวาง ระหว่างเดือนตุลาคม 2567 ถึง เดือน มีนาคม 2568 กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างได้ 30 คน แบ่งเป็นกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลองกลุ่มละ 15 คน  3) ประเมินผลการใช้แนวปฏิบัติที่พัฒนาขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลด้วยความถี่ ร้อยละ เปรียบเทียบปริมาณเลือดออกทางช่องคลอดในระยะหลังคลอดระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมโดยใช้สถิติทีอิสระ (independent t-test) ผลการศึกษา พบว่ากลุ่มทดลองมีปริมาณเลือดออกน้อยกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติทั้งในช่วง 2 ชั่วโมงและ 24 ชั่วโมงแรกหลังคลอด โดยไม่พบภาวะตกเลือดในกลุ่มทดลอง ขณะที่กลุ่มควบคุมพบอุบัติการณ์ตกเลือดร้อยละ 6.7 พยาบาลวิชาชีพมีความคิดเห็นต่อการใช้แนวปฏิบัติอยู่ในระดับเห็นด้วยมากที่สุด ส่งผลต่อแนวโน้มที่ดีในการช่วยลดอุบัติการณ์การตกเลือดในระยะ 2 ชั่วโมงแรกหลังคลอด จึงสามารถนำมาใช้เป็นแนวปฏิบัติการพยาบาลเพื่อป้องกันการตกเลือดในระยะ 2 ชั่วโมงแรกหลังคลอดได้

เอกสารอ้างอิง

คณะอนุกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ. 2562-2564. แนวทางเวชปฏิบัติของราชวิทยาสูตินรีแพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การป้องกันและรักษาภาวะตกเลือดหลังคลอด RTCOG Clinical Practice Guideline Prevention and Management of Postpartum Hemorrhage. แนวทางเวชปฏิบัติของราชวิทยาลัยสูตินรีแทย์แห่งประเทศไทย. [ออนไลน์]. 2563[เข้าถึงเมื่อ วันที่ 1 พ.ค. 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://www.rtcog.or.th/photo/cpg/OB-63-020.pdf

กลุ่มอนามัยมารดาและเด็กปฐมวัย กรมอนามัย. วิเคราะห์สถานการณ์การตายมารดาของประเทศไทยปีงบประมาณ 2567. [ออนไลน์]. 2567[เข้าถึงเมื่อ วันที่ 2 ม.ค. 2568] เข้าถึงได้จาก:https://hp.anamai.moph.go.th/web-upload/4xceb 3b571ddb70741ad132d75876bc41d/tinymce/OPDC/OPDC2568F/IDC32/OPDC2568_IDC3-2_01-1.pdf

ระบบสารสนเทศสนับสนุนงานส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม กรมอนามัย. อัตราส่วนการตายมารดาไทยต่อการเกิดมีชีพแสนคน. [ออนไลน์]. 2566[เข้าถึงเมื่อวันที่ 9.พ.ค. 2567] เข้าถึงได้จาก:https://dashboard.anamai.moph.go.th/dashboard/mmr/index?year=2023

Michelet D, et al. Emergency hysterectomy for life-threatening postpartum hemorrhage: Risk factors and psychological impact Gynecol Obstet Fertil. 2015;43(12):773-779.

World Health Organization. WHO recommendations for the prevention and treatment of postpartum haemorrhage. WHO handbook for guideline development. Geneva, World Health Organization. [Online].2012[cited 2024 May 1]. Available from:https://iris.who.int/bitstream/handle/10665/75411/9789241548502_eng.pdf

ธีระ ทองสง, สุพัตรา ศิริโชติยะกุล. สูติศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ลักษมีรุ่ง; 2564.

World Health Organization. WHO recommendation on Uterine balloon tamponade for the treatment of postpartum haemorrhage. [Online]. 2021[cited 2024 May 9]. Available from: https://iris.who.int/bitstream/ handle/10665/340796/9789240013841-eng.pdf? sequence=1

Gallos I, et al. Randomized Trial of Early Detection and Treatment of Postpartum Hemorrhage. The New England Journal of Medicine. [Online]. 2023[cited 2024 May 24]; 389(1): [11-21] Available from:https://www.nejm.org/doi/pdf/10.1056/NEJMoa2303966

งานการพยาบาลผู้คลอด โรงพยาบาลร้องกวาง. สถิติรายเดือนปี 2564-2566. (ม.ป.ท.)

Titler, M G. Kleiber, F C, Steelman, V. J, Rakel, B. A, Budreau G, Everett O, et al The Iowa model of evidence-based practice to promote quality care. Critical Care Nursing Clinics of North America. [Online].2001[cited 2024 May 24]; 13(4): [497-509] Available from:https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S0899588518300170?via%3Dihub

Hosseini MS, et al. Formulating research questions for evidence-based studies. Journal of Medicine, Surgery, and Public Health. [Online]. 2024[cited 2024 Sep 2]; 2(100046): [1-5] Available from: https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S2949916X23000464?via%3Dihub

สถาบันวิจัยและประเมินเทคโนโลยีทางการแพทย์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. เครื่องมือการประเมินคุณภาพแนวทางปฏิบัติสำหรับการวิจัยและการประเมินผล (Appraisal of Guideline for Research & Evaluation II; AGREE II). [ออนไลน์]. 2556[เข้าถึงเมื่อ 9 พ.ค. 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://www.agreetrust.org/wp-content/uploads/ 2013/09/Thai-AGREE-II.pdf

Bingham D, Melsop K, Main E. CMOCC OB Hemorrhage care Guidelines Checklist. OB Hemorrhage Toolkit. [Online]. 2010[cited 2024 May 24]: Available from: https://pqcnc-documents.s3.amazonaws.com/aim/aimexpert/PQCNCOBHCMQCCObstetricHemorrhageImplementationGuide2010.pdf

DiCenso A Guyatt G, Ciliska D. Evidence-Based Nursing: A Guide to Clinical Practice. [Online]. 2005[cited 2024 May 1]: Available from: https://books.google.is/books?id=7Z5AWUuT9zwC&printsec=frontcover&hl=is&source=gbs_ge_summary_r&cad=0#v=onepage&q&f=false

Joanna Briggs Institute. JBI Levels of Evidence. [Online]. 2013[cited 2024 May 24]: Available from:https://jbi.global/sites/default/files/2019-05/ JBI-Levels-of-evidence_2014_0.pdf

ภคินี ขุนเศรษฐ์. การพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลในการป้องกันการตกเลือดหลังคลอดระยะแรกในมารดาที่คลอดทางช่องคลอด โรงพยาบาลสงขลา. วารสารวิจัยการพยาบาลและสาธารณสุข. [ออนไลน์]. 2564 [เข้าถึงเมื่อ วันที่ 9 ก.ค. 2567];2(1): [83-99] เข้าถึงได้จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/jnphr/article/view/252220/171701

ศิริโสภา คำเครือ, ทัศนีย์ ศรีสุวรรณ, รุณราภรณ์ แก้วบุญเรือง. การพัฒนาแนวปฏิบัติการป้องกันการตกเลือดหลังคลอดระยะแรกในห้องคลอดโรงพยาบาลลำพูน. วารสารส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมล้านนา.[ออนไลน์]. 2561 [เข้าถึงเมื่อ วันที่ 9 ก.ค. 2567];8(1): [46-57] เข้าถึงได้จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/ lannaHealth/article/view/244139/165772

สุทธิพร พรมจันทร์, น้องขวัญ สมุทรจักร, จรรยา แก้วใจบุญ. ผลการใช้แนวปฏิบัติทางการพยาบาลเพื่อป้องกันภาวะตกเลือด 2 ชั่วโมงหลังคลอด. วารสารวิจัยการพยาบาลและสุขภาพ. [ออนไลน์]. 2564 [เข้าถึงเมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2567];22(2): [69-81] เข้าถึงได้จาก https://he01.tci-thaijo. org/index.php/bcnpy/article/view/250225/169706

สุพนิต ปัญญาภู และคณะ. การพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลเพื่อป้องกันการตกเลือดหลังคลอด 2 ชั่วโมงแรกในห้องคลอดโรงพยาบาลเลย. ชัยภูมิเวชสาร. [ออนไลน์]. 2565 [เข้าถึงเมื่อ วันที่ 9 ส.ค. 2567];42(2): [105-117] เข้าถึงได้จาก https://thaidj.org/index.php/CMJ/article/view /12822/10808

วรรณี แก้วคงธรรม. ประสิทธิผลของการใช้แนวปฏิบัติการพยาบาลทางคลินิกเพื่อป้องกันการตกเลือดหลังคลอดระยะแรก โรงพยาบาลพัทลุง. วารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยทักษิณ. [ออนไลน์]. 2563 [เข้าถึงเมื่อ วันที่ 9 ก.ค. 2567];2(3): [37-47] เข้าถึงได้จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/HSJT/article/view/247204/168544

ฐปนพ ธนสมทบชนมน, สาธิดา จันทนวิลัย, ภัทรพร ตั้งกีรติชัย. การวางประคบเย็นบริเวณหน้าท้องส่วนล่างหลังคลอดทารกเพื่อลดการสูญเสียเลือดในมารดาที่คลอดบุตรทางช่องคลอด: การศึกษาแบบสุ่มมีกลุ่มเปรียบเทียบ. Thai Journal of Obstetrics and Gynaecology. [ออนไลน์]. 2565 [เข้าถึงเมื่อ วันที่ 9 ส.ค. 2567];30(3): [162-168] เข้าถึงได้จาก https://doi.nrct.go.th/admin/doc/doc_624372.pdf

ปทุมมา กังวานตระกูล และอ้อยอิ่น อินยาศรี. การพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลเพื่อป้องกันการตกเลือดในระยะ 2 ชั่วโมงแรกหลังคลอดในห้องคลอดโรงพยาบาลอุดรธานี. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กรุงเทพ. [ออนไลน์]. 2560 [เข้าถึงเมื่อ วันที่ 9 พ.ค. 2567];33(2): [121-134] เข้าถึงได้จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/bcnbangkok/article/view/110352/86547

จรรยาพร วิเชียรชัย. การพัฒนาแนวปฏิบัติทางการพยาบาลเพื่อป้องกันการตกเลือดในระยะ 2 ชั่วโมงแรกหลังคลอด ห้องคลอด โรงพยาบาลกมลาไสย. วารสารวิชาการทางการพยาบาลและวิทยาศาสตร์สุขภาพ. [ออนไลน์]. 2566 [เข้าถึงเมื่อ วันที่ 9 พ.ค. 2567];3(3): [396-404] เข้าถึงได้จาก https://he04.tci-thaijo.org/index.php/AJNHS/article/ view/678/307

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

10/10/2025

รูปแบบการอ้างอิง

รสเข้ม จ., อินถา ศ., & เหลี่ยมศรี จ. . (2025). การพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลเพื่อป้องกันการตกเลือดในระยะ 2 ชั่วโมงแรกหลังคลอด โรงพยาบาลร้องกวาง จังหวัดแพร่. วารสารการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมล้านนา, 15(2), 140–154. สืบค้น จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/lannaHealth/article/view/279589

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย