ผลการพัฒนารูปแบบการส่งเสริมสุขภาพหญิงตั้งครรภ์ และการคลอดที่ปลอดภัย ในพื้นที่ทุรกันดาร จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ผู้แต่ง

  • หทัยรัตน์ ทองเขียว สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน

คำสำคัญ:

รูปแบบการส่งเสริมสุขภาพ, หญิงตั้งครรภ์, การคลอดที่ปลอดภัย, พื้นที่ทุรกันดาร

บทคัดย่อ

จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีพื้นที่ทุรกันดารในหลายอำเภอ ทำให้หญิงตั้งครรภ์มีความยากลำบากในการเข้าถึงบริการรักษาพยาบาล เสี่ยงต่อการตายของมารดา และบุตร ต้องการพัฒนารูปแบบการส่งเสริมสุขภาพหญิงตั้งครรภ์ และการคลอดที่ปลอดภัยในพื้นที่ทุรกันดาร เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่มารดาและบุตรจากการตั้งครรภ์และการคลอด จึงได้มีการวิจัยเชิงปฏิบัติการ เพื่อพัฒนารูปแบบการส่งเสริมสุขภาพหญิงตั้งครรภ์ และการคลอดที่ปลอดภัย ศึกษาผลการพัฒนารูปแบบ และเปรียบเทียบความพึงพอใจต่อรูปแบบที่ได้พัฒนาขึ้นกับแบบเดิม ในพื้นที่ทุรกันดาร กลุ่มตัวอย่างเป็นหญิงตั้งครรภ์ที่คลอดที่บ้าน / โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 28 สัปดาห์ขึ้นไป อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ทุรกันดาร ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงจากการตั้งครรภ์และการคลอด จำนวน 80 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบ กลุ่มละ 40 คน กลุ่มทดลอง ใช้รูปแบบการส่งเสริมสุขภาพที่พัฒนา กลุ่มเปรียบเทียบใช้การดูแลแบบเดิม เครื่องมือวิจัยประกอบด้วย รูปแบบการส่งเสริมสุขภาพหญิงตั้งครรภ์ และการคลอดที่ปลอดภัยที่พัฒนา และรูปแบบเดิม แบบสัมภาษณ์ และแบบบันทึกการตั้งครรภ์ การฝากครรภ์ การคลอด และภาวะสุขภาพ เก็บข้อมูลในเดือนกันยายน และธันวาคม 2567 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา การทดสอบไคสแควร์/การทดสอบของฟิสเชอร์ และการทดสอบที

ผลการศึกษาพบว่า รูปแบบการส่งเสริมสุขภาพหญิงตั้งครรภ์ และการคลอดที่ปลอดภัยที่พัฒนาขึ้น ประกอบด้วย1) การพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ 2) การส่งเสริมสุขภาพหญิงตั้งครรภ์ และการคลอดที่ปลอดภัย 3) การติดตามและประเมินผล ผลการใช้รูปแบบการส่งเสริมสุขภาพที่พัฒนา พบว่า ทำให้หญิงตั้งครรภ์มีความรู้เกี่ยวกับการตั้งครรภ์เพิ่มมากขึ้น มีพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพหญิงตั้งครรภ์ที่ดีขึ้น และดีกว่าการดูแลแบบเดิม สุขภาพของมารดา และน้ำหนักทารกแรกคลอด มีความปกติมากกว่าการดูแลแบบเดิม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แต่ทารกมีสุขภาพหลังคลอดไม่แตกต่างกับการดูแลแบบเดิม ทั้งนี้ รูปแบบที่พัฒนานี้ทำให้หญิงตั้งครรภ์มีความพึงพอใจมากกว่าการดูแลแบบเดิม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

จากผลการศึกษา ควรนำรูปแบบการส่งเสริมสุขภาพที่พัฒนาขึ้นนี้ไปใช้ในพื้นที่ทุรกันดารในจังหวัดแม่ฮ่องสอน และจังหวัดอื่น ๆ ต่อไป

เอกสารอ้างอิง

ฐิติมา หาญสมบูรณ์. การประเมินผลการฝากครรภ์ ภาวะสุขภาพมารดาและทารก อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร. ว. โรงพยาบาลมหาสารคาม. [อินเตอร์เน็ต]. 2565 [เข้าถึงเมื่อ 11 มีนาคม 2568]; 19(1): 23-33. เข้าถึงได้จาก: https:// he02.tci-thaijo.org/index.php/MKHJ/ article/view/255712 ]

สำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือการฝากครรภ์สำหรับบุคลากรสาธารณสุข. กรุงเทพฯ: สำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. 2565.

เกษมศรี ศรีสุพรรณดิฐ. การคลอดปกติทางช่องคลอด. [อินเตอร์เนต]. 2567 [เข้าถึงเมื่อ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568]. เข้าถึงได้จาก https://w1. med.cmu.ac.th/obgyn/lessons/normal-labor/

พิมลพรรณ ต่างวิวัฒน์, ฐิติภรณ์ ตวงรัตนานนท์, จุฬาวรรณ เขมทอง. การวิเคราะห์สถานการณ์ แนวทางการฝากครรภ์ในประเทศไทย. ว. วิชาการสาธารณสุข. [อินเตอร์เน็ต]. 2565 [เข้าถึงเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2567]; 31(5):809-825. เข้าถึงได้จาก: https://thaidj.org/index.php/JHS/article/view/12784/10589

มุกดา สนจีน, อังสินี กันสุขเจริญ. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการฝากครรภ์ครั้งแรกไม่ครบตามเกณฑ์ของหญิงตั้งครรภ์ที่มาคลอดบุตรที่โรงพยาบาลแก่งกระจาน. ว. วิทยาลัยพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี. [อินเตอร์เน็ต]. 2565 [เข้าถึงเมื่อ 10 มกราคม 2568]; 5(3): 39-52. เข้าถึงได้จาก: https://he01.tci-thaijo.org/ index.php/pck/article/ view/260206

อนุสรา ก๋งอุบล. การประเมินผลการฝากครรภ์ ภาวะสุขภาพมารดาและทารก อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี. ว. วิชาการแพทย์เขต 11. [อินเตอร์เน็ต]. 2560 [เข้าถึงเมื่อ 10 มกราคม 2568]; 31(1): 109-119. เข้าถึงได้จาก:https://he02.tci-thaijo.org/index.php/Reg11MedJ/article/download/166818/120433/466700

ศูนย์อนามัยกลุ่มชาติพันธุ์ ชายขอบ และแรงงานข้ามชาติ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. รายงานสรุปผล การประชุมเชิงปฏิบัติการ “แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ยกระดับการเข้าถึงบริการส่งเสริมสุขภาพและจัดการการคลอดที่ปลอดภัย กลุ่มเปราะบางและด้อยโอกาสทางสังคมในพื้นที่ทุรกันดารห่างไกล” กรุงเทพฯ: กระทรวงสาธารณสุข. 2566

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ. สปสช. ยกระดับการให้บริการฝากครรภ์ เน้นคุณภาพเท่าเทียม. [อินเตอร์เน็ต]. 2565 [เข้าถึงเมื่อ วันที่ 10 ธันวาคม 2567]. เข้าถึงได้จาก https://www.nhso.go.th/th/communicate-th/thnewsforperson/News_3451

กระทรวงสาธารณสุข. นโยบายการฝากครรภ์คุณภาพสำหรับประเทศไทย พ.ศ.2565. [อินเตอร์เน็ต]. 2565 [เข้าถึงเมื่อ วันที่ 5 สิงหาคม 2567]. เข้าถึงได้จาก https://www.thaiperinatal.com/news/1-40-นโยบายการฝากครรภ์คุณภาพสำหรับประเทศไทย-พ.ศ.-2565

สุวชัย อินทรประเสริฐ. การตั้งครรภในวัยรุน ในสูติศาสตรรามาธิบดี. กรุงเทพมหานคร : โฮลิสติกพับลิชชิ่ง. 2559.

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน. รายงานผลการตรวจราชการ จังหวัดแม่ฮ่องสอน. แม่ฮ่องสอน: สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน. 2567.

Kemmis, S., & McTaggart, R. The action research reader. Geelong. Victoria: Deakin University Press: John Wiley & Son. 1988.

Cohen J. Statistical power analysis for the behavioral sciences. Hillsdale NJ.: Lawrence Erl¬baum Associate. 1988.

Pender, N. Health promotion in nursing practice. (2nd ed.) Norwalk: Appleton & Lange. 1996.

นันทนา จุลจงกล, ดวงกมล คงบํารุงค์ และอารยา ข้อค้า. พฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์ที่มารับบริการฝากครรภ์ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลบ้านม่าหนิกและศรีสุนทร อําเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ระหว่างเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม พ.ศ. 2563. [อินเตอร์เน็ต]. 2564 [เข้าถึงเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ 2568]; 63(2): 287-300.เข้าถึงได้จาก: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ dmsc/article/view/2486822564;63(2):287-300.

ระนอง เกตุดาว, ปาริชาติสาขามุละ, ฉวีวรรณ ศรีดาวเรือง. การพัฒนากระบวนการดูแลหญิงตั้งครรภ์เสี่ยงสูงรูปแบบอุดร 7 ขั้นตอน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลจังหวัดอุดรธานี. [อินเตอร์เน็ต]. 2564 [เข้าถึงเมื่อ 1 มีนาคม 2568]; 63(2): 1-13. เข้าถึงได้จาก: https:// he02.tci-thaijo.org/index.php/RDHSJ/article/ view/252805

Green, L. W. & Kreuter, M. W. Health Program Planning: An Educational and Ecological Approach (4th ed). McGraw-Hill: New York. 2015.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

04/21/2025

รูปแบบการอ้างอิง

ทองเขียว ห. (2025). ผลการพัฒนารูปแบบการส่งเสริมสุขภาพหญิงตั้งครรภ์ และการคลอดที่ปลอดภัย ในพื้นที่ทุรกันดาร จังหวัดแม่ฮ่องสอน. วารสารการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมล้านนา, 15(1), 237–252. สืบค้น จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/lannaHealth/article/view/277453

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย