รูปแบบการจัดการสิ่งปฏิกูลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตสุขภาพที่ 10 อุบลราชธานี
คำสำคัญ:
รูปแบบการจัดการสิ่งปฏิกูล, ระบบบำบัดสิ่งปฏิกูล, การมีส่วนร่วมของชุมชน, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปแบบการจัดการสิ่งปฏิกูลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตสุขภาพที่ 10 อุบลราชธานี และนำรูปแบบที่ได้ไปทดลองปฏิบัติการในพื้นที่ใหม่ มีการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงแบ่งเป็น 2 กลุ่มได้แก่ 1) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการพัฒนากระบวนการ ประกอบด้วย ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หัวหน้าส่วนที่เกี่ยวข้องในการจัดการสิ่งปฏิกูล ผู้นำชุมชน เจ้าหน้าสาธารณสุขจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อถอดบทเรียนในพื้นที่ต้นแบบในการจัดการสิ่งปฏิกูล 4 แห่ง จำนวน 36 คน 2) กลุ่มตัวอย่างที่เป็นพื้นที่ทดลองปฏิบัติการและเก็บรวบรวมข้อมูล 2 พื้นที่ จำนวน 50 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสนทนากลุ่ม แบบสังเกต แบบสอบถาม และแบบรายงานการประชุม วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยสถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยการวิเคราะห์เนื้อหา การดำเนินการวิจัยใช้กระบวนการ PAOR (P=Plan, A=Action O=Observe, R=Reflect) โดยดำเนินการ 2 รอบ ผลการวิจัย พบว่า รูปแบบการจัดการสิ่งปฏิกูลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตสุขภาพที่10 อุบลราชธานี ประกอบด้วย 4 ขั้นตอนได้แก่ ขั้นตอน 1) การเตรียมข้อมูลสถานการณ์ 2) สร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องการจัดการสิ่งปฏิกูลและโรคที่เกี่ยวข้องให้ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้เกี่ยวข้อง 3) สร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการสิ่งปฏิกูล 4) การกำกับติดตามในพื้นที่ ผลจากการใช้รูปแบบนี้ ทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่คัดเลือกเข้าร่วมการวิจัยทั้ง 2 แห่งมีการจัดการสิ่งปฏิกูลโดยมีการสร้างระบบบำบัดสิ่งปฏิกูล 1 แห่งส่วนอีก 1 แห่งอยู่ระหว่างการเลือกสถานที่บำบัดสิ่งปฏิกูลและรอจัดเวทีประชาคมอีกครั้ง รูปแบบการจัดการสิ่งปฏิกูลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในงานวิจัยนี้จะช่วยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถจัดการสิ่งปฏิกูลได้ตามบทบาทและหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด ลดปัญหาการร้องเรียนการลักลอบทิ้งสิ่งปฏิกูล และช่วยลดการป่วยตายด้วยมะเร็งตับและท่อน้ำดีได้ในทางอ้อม
Downloads
เอกสารอ้างอิง
ศูนย์บริหารกฎหมาย กรมอนามัย. คู่มือพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมชนสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทยจำกัด; 2561. 202.
วาทินี จันทร์เจริญ, ปิยมาภรณ์ ดวงมนตรี. การศึกษาการปนเปื้อนของไข่พยาธิ ตัวพยาธิจากตะกอนสิ่งปฏิกูลที่รถสูบส้วมนำไปทิ้งในที่สาธารณะหรือเอกชนในพื้นที่รอบอ่างเก็บน้ำลำปาวจังหวัดกาฬสินธุ์ในปี 2561.ศูนย์อนามันที่ 7 ขอนแก่น; 2561.
มหาวิทยาลัยขอนแก่น. ทศวรรษกำจัดพยาธิใบไม่ตับและมะเร็งท่อน้ำดีพ.ศ.2559-2568 [online]. แหล่งข้อมูล: https://cloud.cascap.in.th/ [เข้าถึงเมื่อ 20 ตุลาคม 2563].
สำนักงานสารสนเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. สธ.เดินหน้ายุทธศาสตร์ทศวรรษการกำจัดพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี ระยะที่ 2 [online]. แหล่งข้อมูล: https://pr.moph.go.th/?url=pr/detail/all/04/112799/ [เข้าถึงเมื่อ 25 ตุลาคม 2563].
กรมอนามัย กองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ. รายงานสถานการณ์สิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประเทศไทยปี 2557 [online]. แหล่งข้อมูล: https://hia.anamai.moph.go.th/download/hia/surveillance/document/report/report57_1.pdf [เข้าถึงเมื่อ 5 ตุลาคม 2563].
วิภา รุจจนากุล. แผนการดำเนินงานด้านการจัดการสิ่งปฏิกูลเพื่อลด/ป้องกันการแพร่กระจายจากการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับและหนอนพยาธิลำไส้อื่นๆ. การประชุมระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับมาตรการและแนวทางการใช้ส้วมและระบบการจัดการสิ่งปฏิกูลเพื่อลดและป้องกันการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับและหนอนพยาธิลำไส้อื่นๆ ณ คณะแพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2562.
สมรัตน์ นัยรัมย์. ศึกษาสถานการณ์จัดการสิ่งปฏิกูลในเขตเทศบาลพื้นที่เขตสุขภาพที่ 9. ศูนย์อนามัยที่ 9นครราชสีมา; 2559.
นิพนธ์ เสียงเพราะ. ศึกษาสถานการณ์จัดการสิ่งปฏิกูลในเขตเทศบาลพื้นที่เขตสุขภาพที่ 2. ศูนย์อนามัยที่ 2 พิษณุโลก; 2559.
สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคที่ 10. สคร.10 เดินหน้ายุทธศาสตร์คนอีสานร่วมใจต้านภัยโรคพยาธิใบไม้ตับ. [online] แหล่งข้อมูล: https://odpc10.ddc.moph.go.th/?p=3799 [เข้าถึงเมื่อ 20 ตุลาคม 2563].
ศูนย์อนามัยที่ 10 อุบลราชธานี. สรุปผลการดำเนินงานประจำปี; 2562.
Kemmis, S α Mc Taggart, R. The Action Research Planer (3rd ed.). Victria : Deakin University; 1988.
ศิริลักษณ์ มณีประเสริฐ. การพัฒนารูปแบบการจัดการขยะมูลฝอยและสิ่งปฏิกูลบนถนนสายหลัก จังหวัดสมุทรสาคร. วารสารวิชาการสาธารณสุข 2561; 27(1): 76-85.
ธัชพล ทีดี. รูปแบบการจัดการเมืองสะอาดอย่างยั่งยืนขอองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดลพบุรี. วารสารมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ 2561; 20(2): 1-13.
รังสรรค์ สิงหเลิศ และ นิภาภรณ์ จงวุฒิเวศย์. รูปแบบการพัฒนาชุมชนเพื่อพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน : กรณีศึกษาบ้านดอนแดง อำเอภกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม. วารสารการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม 2561; 5(1): 133-144.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กองบรรณาธิการไม่สงวนสิทธิ์ในการคัดลอกเพื่อการพัฒนางานด้านวิชาการ แต่ต้องได้รับการอ้างอิงที่ถูกต้องเหมาะสม