Depression and related factors among part time youth workers in Chon Buri Province
Keywords:
Depression, Health literacy, Part time job, YouthAbstract
The cross-sectional analytic research meant for the determination of depression and the factors related to depression among part-time youth workers in Chon Buri province. The samples were part-time youth workers aged between 15-24 years old. The sample size was 234 which was sampled by a systematic sampling method in working place. A self-administered questionnaire was used to collect data from January 2019 to February 2019. Data were analyzed by descriptive statistics, and correlation analysis was analyzed by Chi-square test. The results showed that 62.0 percent of the sample group were female youths, with 77.8 percent aged 15-19 years. More than half had insufficient income and needed to borrow money (53.4 percent). About 88.9 percent had a very good relationship with their family and 22.7 percent had a low level of health literacy in which 23.1 percent of youth are classified as depression. Factors that significantly correlated with depression of part-time youth workers were relationship with family (p < 0.01) and communication skills (p < 0.01). Therefore, employers, institutes, and stakeholders need to conduct depression screening for all youths and should provide the activities for caring of the youths by focusing on a relationship with family and communication skills for a better quality of life.
References
2. ตฏิลา จำปาวัลย์. แนวคิดและทฤษฎีภาวะซึมเศร้าทางจิตวิทยา. วารสารพุทธจิตวิทยา. 2560;2(2):1-11.
3. World Health Organization. Depression and other common mental disorders: global health estimates. Geneva, Switzerland: World Health Organization; 2017.
4. สถบันราชานุกูล. “Depression, Let’s talk : ซึมเศร้า...เราคุยกันได้” นนทบุรี: กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข; 2560 [Available from: https://th.rajanukul.go.th.
5. วารุณี ฟองแก้ว. การป้องกันเอชไอวีในวัยรุ่น ประเด็นท้าทาย และแนวทางการแก้ไข. เชียงใหม่ นนทบุรีการพิมพ์.; 2554.
6. Brown GW, Harris T. Social origins of depression: a reply. Psychological medicine. 1978;8(4):577-88.
7. William GC. Sampling techniques. third edition ed. United States of America John Wiley & Sons, Inc. ; 1977. 442 p.
8. วงเดือน ปั้นดี. ความชุกและปัจจัยของความซึมเศร้าใน เด็กวัยรุ่นตอนปลาย : ศึกษาเฉพาะนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ. วารสารสาธารณสุขศาสตร์. 2558;45(3):298-309.
9. กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ. การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน (อายุ 7-14 ปี) กลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ฉบับปรับปรุง ปี 2561. นนทบุรี กระทรวงสาธารณสุข; 2561.
10. อุมาพร ตรังคสมบัติ, วชิระ ลาภบุญทรัพย์, ปิยลัมพร หะวานนท์. การใช้ CES-D ในการคัด กรองภาวะซึมเศร้าในวัยรุ่น. วารสารสมาคมจิตเวชแห่งประเทศไทย. 2540;42(1):2-13.
11. DeVellis RF. Scale development: Theory and applications. Chapel Hill, USA: Sage publications; 2016.
12. รุ้งมณี ยิ่งยืน. ความชุกของภาวะซึมเศร้า และปัจจัยที่เกี่ยวข้องในเยาวชนที่กระทำผิดกฎหมายและไม่ได้กระทำผิดกฎหมายในจังหวัดอุบลราชธานี. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2538.
13. สุนันท์ เสียงเสนาะ, ดวงใจ วัฒนสินธุ์, ภรภัทร เฮงอุดมทรัพย์, เวทิส ประทุมศรี. อิทธิพลของปัจจัยด้านสัมพันธภาพระหว่างบุคคลต่อภาวะซึมเศร้าของวัยรุ่นตอนปลาย. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กรุงเทพ. 2560;33(3):59-69.
14. รัตนา ภรณ์ชูทอง, ภควัต วิวัฒนวรเศรษฐ์, ณภัค วรรตบัวทอง, ยุพา หนูทอง, ชาตินันท์ อยู่สุข, ณัฐกุล รุ่งเรือง และคณะ. ภาวะสุขภาพ จิตสภาพ และการปฏิบัติหน้าที่ของครอบครัวในนักศึกษาระดับปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งภาคใต้ของประเทศไทย. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย 2. 2562;64(4):337-50.
15. Cooper CL, Straw A. Successful stress management in a week. 2 ed: Headway; 1993.
16. ขวัญพนมพร ธรรมไทย, ชาลินี สุวรรณยศ, รจเรข อินทโชติ ซากาโมโต, ณรงค์ มณีทอน, อัศวิน นาคพงศ์พันธุ์, ยุพา พรรณศิริอ้าย และคณะl. การถอดบทเรียนการพัฒนาสื่อประสมเพื่อการป้องกันโรคซึมเศร้าในวัยรุ่นไทย. วารสามสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย. 2562;64(3):235-44.
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กองบรรณาธิการไม่สงวนสิทธิ์ในการคัดลอกเพื่อการพัฒนางานด้านวิชาการ แต่ต้องได้รับการอ้างอิงที่ถูกต้องเหมาะสม