Survey of health status of migrant workers in Bangkok
Main Article Content
Abstract
The purpose of this study was to examine the health status of migrant workers in the Bangkok. The sample was 1,458 migrants who live in various communities and work in establishments and markets from five districts in Bangkok compose with Bang Khen, Khlong Sam Wa, Phaya Thai, Khlong Toei, and Chom Thong. The data collection instrument in this study was an interview form which encompassed personal and health-related information. The data analysis employed descriptive statistics, involving the determination of frequency and percentage values.
The results from personal data survey among migrant workers was found that almost 64.00% of gender was male, 82.60% of those was age between 21-40 year and about 75.00% was Myanmar and 61.10% completed primary education. The 88.00% of most primary occupation was daily wage labor. Around 61.70% of migrant workers live in Thailand for 1-5 years and 44.00% of those could speak and understand Thai language. It was found that 83.00% of accommodation was rental apartment or house and shared with another person. The meeting places for these migrant workers were flea markets and temples for 20.90% and 20.40%, respectively.
The information regarding healthcare right and health behavior among migrant workers was found that 56.00% lack of healthcare rights. In case of illness, they visited clinics or purchased medication on their own. The second dose of COVID-19 vaccination history was 45.30% and 95.00% had no chronic diseases. Among those with chronic diseases of high blood pressure and diabetes were 27.00% and 23.00%, respectively. Less than 1 day per week of exercise activity was observed in 75.00%. Smoking and alcohol consumption indicated that did not smoke and did not drink alcohol, or drank very occasionally with 86.00% and 83.00%, respectively.
The analysis results from this survey was found that the majority of migrant workers who work in Bangkok engage in general daily wage occupation, Cost of living was included rent, expenses for purchasing health insurance or social security cards. The most of workers are in their working age. They have never undergone health check-ups. They believe that they do not have any health issues and then do not see the importance of health monitoring and disease prevention. The lack of access to health welfare, including both social security and basic health insurance system, leads to significant challenge for most migrant workers in accessing proper health care. Although the policy and grant effort of health right for migrant workers in Thailand is occurred, there is still gaps that prevent them from fully entering the designed healthcare system as intended. Advocating through the media or creating appropriate channels through volunteer leaders from the same nationality can build trust and enable effective communication of beneficial information to migrant workers. This is crucial for developing suitable models and maximizing the benefits in terms of disease surveillance and prevention at both the local and national levels.
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่พิมพ์ในวารสารสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง ถือว่าเป็นผลงานวิชาการ งานวิจัยและวิเคราะห์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเอง ไม่ใช่ความเห็นของสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง หรือคณะบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนจำต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน
References
ชัยรัตน์ เวชพานิช, บรรณาธิการ. สถานการณ์แรงงานข้ามชาติในประเทศไทย ผลกระทบเชิงบวกและลบที่เกี่ยวโยงกับระบบสาธารณสุขของประเทศ. การเสวนา เรื่อง แรงงานข้ามชาติกับการเปิดประเทศสู่ประชาคมอาเซียน ทิศทาง แนวโน้มของการพัฒนางานวิจัยและการบริการสุขภาพที่สอดคล้องและเกื้อหนุนกับการพัฒนาระบบสาธารณสุขของประเทศไทย; 21 มีนาคม 2556; มหาวิทยาลัยมหิดล. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยมหิดล, คณะพยาบาลศาสตร์; 2556.
พรพิทักษ์ พันธ์หล้า, ภัคนี สิริปูชะกะ, นัฐวุฒิ แก้วสมบัติ, ณัฐธิดา ชำนิยันต์, วรางคณา แจ้งธรรมมา, ณัฏฐ์ชาภา คะระวานิช, บรรณาธิการ. แนวทางการดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565. นนทบุรี: อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์ จำกัด; 2564.
วาสินี ชลิศราพงศ์, บรรณาธิการ. การเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค ในแรงงานต่างด้าว. การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของคนต่างด้าวในการดูแลสุขภาพตนเอง/ชุมชนและการป้องกันการค้ามนุษย์; 26 มกราคม 2566; โรงแรมอมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต. กรุงเทพฯ; 2566.
สร้อยสุดา เกสรทอง, รณภูมิ สามัคคีคารมย์, รัชนีวรรณ คุณูปกร. ปัญหาสุขภาพจากการทำงานในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ(แรงงานต่างด้าว) จังหวัดสมุทรสาคร. วารสารควบคุมโรค. 2560;43(3):255-69.
นิติรัตน์ พูลสวัสดิ์, แก้วใจ มาทอง, ธารทิพย์ เหลืองตรีชัย, ธัญญา รอดสุข. การพัฒนารูปแบบความร่วมมือของอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว ในการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคระบาดร้ายแรง. วารสารสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง. 2566;8(1):150-66.
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ [อินเตอร์เน็ต]. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; c2015. การสุ่มตัวอย่างเพื่อการวิจัย; 2563 [เข้าถึงเมื่อ 1 กรกฎาคม 2565]; [ประมาณ 7 น.]. เข้าถึงได้จาก: https://plan.eng.cmu.ac.th/wp-content/uploads/2015/07/sampling.pdf
พีพีทีวี36 [อินเตอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด; c2020. เปิดตัวเลขแรงงานต่างด้าว 2.5 ล้าน อยู่ที่ไหน ทำอะไร โฟกัส กทม. - สมุทรปราการ พื้นที่ไข่แดงติดสมุทรสาคร; 2563 [เข้าถึงเมื่อ 25 ธันวาคม 2566]; [ประมาณ 1 น.]. เข้าถึงได้จาก: https://www.pptvhd36.com/news/เศรษฐกิจ/138715)
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ [อินเตอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: สำนักงาน; c2019. ล่ามชุมชน ตัวกลางเชื่อมกลุ่มชาติพันธุ์; 2562 [เข้าถึงเมื่อ 26 ธันวาคม 2566]; [ประมาณ 1 น.]. เข้าถึงได้จาก https://www.thaihealth.or.th/?p=230720
ณิชารัศม์ ปัญจโพธิวัฒน์, อุษาวดี ไพรราม, ณพสิษฐ์ จักรพาณิชย์, ปฐมพงศ์ มโนหาญ. การศึกษาปัญหาและอุปสรรคต่อการเข้าถึงบริการสุขภาพของแรงงานต่างด้าวในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดเชียงราย อำเภอแม่สาย เชียงแสนและเชียงของ. วารสารพยาบาลศาสตร์และสุขภาพ. 2564;44(1):88-99.
อัชวัฒน์ คำหวาน, ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์. การเข้าถึงบริการสุขภาพของแรงงานข้ามชาติ กรณีศึกษา อำเภอเชียงคาน. วารสารการพัฒนาสุขภาพชุมชน มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 2559;4(3):359-74.
พยาม การดี, วราภรณ์ บุญเชียง. การดูแลสุขภาพแรงงานต่างด้าวในบริการปฐมภูมิ: ความท้าทายในบทบาทพยาบาล. วารสารพยาบาลสาธารณสุข. 2562;33(3):146-62.
Hfocus เจาะลึกระบบสุขภาพ [อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: สำนักข่าวออนไลน์ Hfocus; c2022. เมื่อคนไทยมีภูมิคุ้มกันหมู่เพิ่มขึ้น ยังต้อง บูสเตอร์เข็ม 5 เข็ม 6 หรือควรรอวัคซีนรุ่นใหม่?; 2565 [เข้าถึงเมื่อ 26 ธันวาคม 2566]; [ประมาณ 1 น.]. เข้าถึงได้จาก: https://www.hfocus.org/content/2022/09/25892
HiTAP โครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ [อินเทอร์เนต]. นนทบุรี: กรมอนามัย; c2021. เสียงของแรงงานต่างด้าวในไทยต่อความต้องการ วัคซีนโควิด 19; 2564 [เข้าถึงเมื่อ 26 ธันวาคม 2566]; [ประมาณ 4 น.]. เข้าถึงได้จาก: https://www.hitap.net/wp-content/uploads/2021/07/PB-94_MigrantVaccine-RGB.pdf
ทรงชัย ทองปาน. องค์ความรู้ว่าด้วยแรงงานข้ามชาติกับสุขภาพ: ผลการสังเคราะห์งานวิจัยว่าด้วยแรงงานข้ามชาติในประเทศไทย. วารสารสุขศึกษา. 2563;43(2):1-17.
สมัชชาสุขภาพ [อินเทอร์เนต]. นนทบุรี: สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ(สช.); c2022. มติสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็นว่าด้วยการเข้าถึงสิทธิด้านสุขภาพของแรงงานข้ามชาติ; 2565 [เข้าถึงเมื่อ 27 พฤศจิกายน 2566]; [ประมาณ 2 น.]. เข้าถึงได้จาก: https://www.samatcha.org/site/issues/a2b58e70-a5af-4c88-be49-2214377c9733/detail
Kullatida Phookung, Somsak Charoenpoon. The Study on Impact from the Alcohol Consumption of Alien Labors in 3 Nationalities (Myanmar, Laos and Cambodia) to the Living of General People in Communities: A Case Study of Chonburi Province. VeridianE-Journal,Silpakorn University. 2016;9(1):1190-207.
เดโช แขน้ำแก้ว. การดูแลสุขภาพของแรงงานข้ามชาติผู้ชายสัญชาติพม่า :กรณีศึกษาจังหวัดนครศรีธรรมราช. วารสารบัณฑิตแสงโคมคำ. 2563;2(2):258-75.