Development of Application on Smartphone for Health Communication, Prevention and Control of Dengue for grades 4-6 students in Nakhon Si Thammarat District Municipality
Main Article Content
Abstract
This study aimed to assess the situation and needs for Health communication related to dengue hemorrhagic fever and satisfaction with the use of the application developed through the LINE Official Account format for the communication of dengue prevention and control by using The Research and Development design in elementary school students in grades 4-6 in 5 schools located in Nakhon Si Thammarat municipality. The samples included school executives, 10 health education teachers, 40 student leaders, and 250 target students. Data collection was conducted through interviews, small group meetings, and questionnaires during October 2020 - September 2021.
The results of the study showed an average of 2-5 students in each school suffered from dengue fever per year. The community and temples surrounding the schools had the mosquito larval index exceeded the standard threshold. A half of the students are well versed in mosquito management. Smartphone ownership and use was at 100%. Most of them use Line App to communicate with teachers and friends. All have a desire to communicate about dengue fever with an application developed through the Line Official Account called Dek Kon Roo Tun Yung Lai that contains content, images and video clips with the capability to share pictures of students' mosquito larvae removal activities. The overall content satisfaction was at a high level ( =4.05, SD.=1.0), the overall function aspect wase moderate level ( = 3.10, SD. = 0.07), while the overall style aspect was high ( = 4.05, SD. = 0.23) and the benefits in risk communication was high ( = 4.18, SD. = 0.20). Suggestions: The functions should be developed to be more interesting and adding other disease and other health hazards issues. Local health authorities should propose as a policy for future development and implementation.
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่พิมพ์ในวารสารสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง ถือว่าเป็นผลงานวิชาการ งานวิจัยและวิเคราะห์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเอง ไม่ใช่ความเห็นของสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง หรือคณะบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนจำต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน
References
WHO. Dengue [serial on the Internet].2014[cited 2019Sep 21] Availablefrom:http:// www.wpro.who.int/mediacentre/factsheets/fs_09032012_Dengue/en.
สำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง กรมควบคุมโรค. ร่างแนวทางการปฏิบัติงานเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคไข้เลือดออก ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558. {ออนไลน์} เข้าถึงได้จาก; หน้า 1.
กลุ่มงานระบาดวิทยาและข่าวกรอง สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช. สรุปรายงานสถานการณ์ระบาดวิทยาโรคไข้เลือดออกปี 2558-2562. หน้า 1-2.
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 นครศรีธรรมราช. ใน: พรทิพย์ ใจเพชร, อนันต์ ดำแป้น, บรรณาธิการ. การประชุมราชการเพื่อประเมินสถานการณ์และกำหนดกรอบการพัฒนาด้านความ ร่วมมือของภาคีเครือข่ายด้านการป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออก : เทศบาลนครนครศรีธรรมราช; 12 กุมภาพันธ์ 2561;อุทยานการเรียนรู้ (CLP) เทศบาลนครนครศรีธรรมราช. นครศรีธรรมราช:สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 นครศรีธรรมราช; 2561. หน้า 4.
Rajiv N Rimal and Maria K Lapinsky. Why health communication is important in public health. Bulletin of the World Health Organization. 2009 Apr; 87(4): 247
เมธาวี จำเนียร และเมธี แก้วสนิท. การสื่อสารสุขภาพเพื่อสร้างเสริมสุขภาวะที่ดีของคนในชุมชน (บทความวิชาการ) .สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ปีที่ 24 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม-ธันวาคม 2561; กรุงเทพฯ: 155.
G. David Batty and Ian J. Deary. Health Communication, Intelligence, and Health Differentials. American Journal of Public health. Published Online: October 10, 2011.
กรมควบคุมโรค.กองยุทธศาสตร์ (อ้างถึงในประภัสสร ดำแป้น และคณะ. แผนปฏิบัติราชการเชิงยุทธศาสตร์ระยะ 5 ปี(พ.ศ. 2561-2565) กรมควบคุมโรค ภายใต้แผนพัฒนาด้านการป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพของประเทศ ระยะ 20 ปี(พ.ศ. 2561-2580) (แผนงานเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่อนำโดยยุงลาย). นนทบุรี: กรมควบคุมโรค; 2561.
พรพรรณ ประจักษ์เนตร. การสื่อสารสุขภาพในยุคดิจิตอล ทฤษฎี การวิจัย และการปฏิบัติ. คณะนิเทศศาสตร์นวัตกรรมและการจัดการสถาบันพัฒนบัณฑิตบริหารศาสตร์ (NIDA) พิมพ์ครั้งที่ 1; กรุงเทพฯ: 2563. หน้า 14-243.
Fam te Poel, Annemiek J. Linn, Susanne E. Baumgartner, Liset van Dijk and Eline S. Smit. Sick for Information? Information Needs and Media Use of the Dutch Public During the Covid-19 Pandemic. European Journal of Health Communication. European Journal of Health Communication 2021, Vol. 2(3) 24-43 CC BY 4.0. page 24.
Minh Hao Nguyen, Nadine Bol and Andy J. King. Customisation versus Personalisation of Digital Health Information Effects of Mode Tailoring on Information Processing Outcomes. European Journal of Health Communication 1(2020) 30-54 CC BY 4.0. page 30.
จริยา รองทอง และอภิชาต เหล็กดี. การพัฒนาแอปพลิเคชันการเรียนรู้สุขศึกษาสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์. วารสารโครงงานวิทยาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ปีที่ 3 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2560: หน้า 8-13.
ภาณุวัฒน์ วรพิทย์เบญจา จำรัส กลิ่นหนู และณรงค์ศักดิ์ ศรีสม. พัฒนาแอปพลิชันการจัดการเรียนการสอน ในห้องเรียนเสมือนจริงบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ในนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วารสารวิชาการคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฎลำปาง ปีที่ 8 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม 2558 – ธันวาคม 2558. หน้า 58-66.
ชินวัจน์ งามวรรณกร. การพัฒนาแอปพลิเคชันสื่อการเรียนรู้บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ เรื่อง ภาษาอังกฤษสำหรับนักสารสนเทศ. รายงานวิจัยประจำปี 2562 คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา: หน้า ก.
สุเมธ ปัจฉิมสุภาคม, จิรายุทธ รุ่งแสง, และสุวนิตย์ รุ่งราตรี. การพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อการเรียนรู้บนสมาร์โฟน เรื่องสัตว์มีกระดูกสันหลังสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวรดิตถ์วิทยาประสูทน์. วารสารแม่โจ้เทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ปีที่ 4 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม-ธันวาคม 2561. หน้า 46-49.