ปัจจัยทำนายพฤติกรรมความเสี่ยงปัญหาทางเพศและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในวัยรุ่นที่มีประสบการณ์ทางเพศในกลุ่มรักร่วมเพศในประเทศไทย

Main Article Content

กฤษฎา สารทอง
พรพนา สมจิตร
กิ่งกนก รักษนาเวศ
ธันยากร ต้นชลขันธ์

บทคัดย่อ

ความเป็นมา  การเปลี่ยนแปลงในสังคม มีอิทธิพลต่อการแสดงออกถึงอัตลักษณ์ทางเพศมากขึ้น ทำให้สัดส่วนกลุ่มประชากรรักร่วมเพศมีแนวโน้มสูงขึ้น และพบอุบัติการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในกลุ่มรักร่วมเพศที่สูงขึ้นพร้อมกับพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศที่สูงขึ้นต่อเนื่อง มีการศึกษาในประเทศไทยน้อยมาก


วัตถุประสงค์  เพื่อศึกษาปัจจัยทํานายพฤติกรรมความเสี่ยงปัญหาทางเพศและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในวัยรุ่นกลุ่มรักร่วมเพศ


วิธีการศึกษา การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงพรรณนาภาคตัดขวาง ทำการศึกษาในกลุ่มวัยรุ่นรักร่วมเพศชาย ช่วงอายุ 18-21 ปี ในช่วงระหว่างเดือนเมษายน - มิถุนายน 2564 ณ มหาวิทยาลัยพะเยา เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลได้แก่ 1) แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป 2) แบบประเมินความเชื่อพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศและการรับรู้ความสามารถของตนเอง Sexual Risk Behavior Beliefs And Self-Efficacy (SRBBS) และ 3) แบบประเมินอาการซึมเศร้า Beck depression inventory II (BDI-II Thai version) วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรรณนา และเชิงอนุมานสำหรับข้อมูลปัจจัยเสี่ยง เป็นค่า Odds ratio กับ 95% Cl with multiple conditional logistics regression: Forward Stepwise.


ผลการศึกษา ผู้เข้าร่วมวิจัย 199 คน พบว่า ส่วนใหญ่มีรสนิยมทางเพศ(เกย์) ร้อยละ 54.77 ช่วงอายุอยู่ที่ 18-20 ปี ร้อยละ 32.2 รูปแบบการเลี้ยงดูของครอบครัวจะเลี้ยงดูแบบเอาใจใส่ (Authoritative Parenting Style) ร้อยละ 27.2 ส่วนช่องทางในการสร้างสัมพันธภาพผ่าน Facebook ร้อยละ 27.6 ระดับพฤติกรรมเสี่ยงปัญหาทางเพศและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ SRBBS จุดตัด 9 คะแนน ส่วนใหญ่ระดับต่ำ ร้อยละ 90.5 ปัจจัยที่สัมพันธ์กับการเกิดระดับพฤติกรรมความเสี่ยงปัญหาทางเพศและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่สูง พบว่า ประสบการณ์การถูกคุกคามในครอบครัวสูงถึง 27.68 เท่า [OR = 27.684 ; (95% Cl, 3.545-216.217)] และการถูกคุกคามด้านร่างกายสูงถึง 4.17 เท่า [OR = 4.165 ; (95% Cl, 1.130-15.355)] แต่ทั้งนี้พบว่า รสนิยมทางเพศ : เกย์ เป็นปัจจัยปกป้องการเกิดพฤติกรรมทางเพศสูงถึง 27 เท่า [OR = 0.345 ; (95% Cl, 0.120-0.990)] ซึ่งค่าที่ทำนายร้อยละ 24 (Pseudo R2=0.236)


อภิปรายผล ควรมุ่งเน้นส่งเสริมการรับรู้ของสังคมให้เข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับความเสี่ยงของการตกเป็นเหยื่อการใช้ความรุนแรงด้านร่างกายในครอบครัว นอกจากนั้นควรมีมาตราการแทรกแซงในการป้องการตกเป็นเหยื่อความรุนแรงในครอบครัว ควรมีการตรวจคัดกรองความรุนแรงเป็นประจำและมีมาตราการส่งต่อได้ในกรณีที่เกิดความรุนแรง


 

Article Details

บท
นิพนธ์ต้นฉบับ
Author Biography

กฤษฎา สารทอง, สาขาวิชาอนามัยชุมชน คณะสาธาณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา

อาจารย์กฤษฎา สารทอง KRITSADA SARNDHONG

อาจารย์สาขาวิชาอนามัยชุมชน
Phone: +66 544-666-66 Ext.3322

ติดต่อประสานงาน : 0861822940 (คุณหญิง)
E-mail: kritsada.cole11@gmail.com

ประวัติการศึกษา ปริญญาตรี: สาธารณสุขศาสตรบัณฑิต (หลักสูตรภาคภาษาอังกฤษ) เกียรตินิยมอันดับสอง ปริญญาโท: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสุขภาพจิตในหัวข้อวิทยานิพนธ์เรื่อง ”The Comparative Study Of Self-Esteem And Achievement Motivation Between Vocational Training School And High School” สาขาวิชาที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ 1. Development of mental health in children, adolescent and LGBT 2. Self-esteems development in children’s life 3. Depression in children 4. Psychotherapy: Cognitive Behavioral Therapy (CBT), Interpersonal Behaviour Therapy (I-CBT), Psychotherapy Based on Satir Model 5. Health Belief in Tribal group ประวัติการทำงาน พ.ศ. 2561 – ปัจจุบัน - อาจารย์ผู้รับผิดชอบสาขาวิชาอนามัยชุมชน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา - รองหัวหน้าสาขาวิชาอนามัยชุมชน ฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และกิจการพิเศษ - คณะกรรมการบริหารงานศูนย์ส่งเสริมสุขภาพจิตนิสิตมหาวิทยาลัยพะเยา สังกัดกองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยพะเยา พ.ศ. 2558 – 2560 - นักวิจัย สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ (International Health Policy Program : IHPP) กระทรวงสาธารณสุข ประเทศไทย - นักวิจัย (กลุ่มงานประกันคุณภาพและวิเทศสัมพันธ์ ) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประเทศไทย รายวิชาที่สอน* และร่วมสอน** 1. อนามัยครอบครัว (Family health) 2. จิตวิทยาเบื้องต้นทางการแพทย์ (General medical psychology) 3. การส่งเสริมสุขภาพจิต (Mental Health Promotion) 4. วิทยาการระบาดวิทยา (Epidemiology) 5. การสาธารณสุข (Public health) 6. วิจัย (Research methodology) ผลงานวิชาการ 1. Sarndhong K, Pittarattanasatian N. (2015)“The comparative study of self-esteem and Achievement motivation between vocational training school and high school” Chula Med J Vol. 59 No. 2015 2. Kaewthep R, Keawta S ,Sarndhong K. (2018) “Stress and Coping Behavior among the Paramedic Student in a State University” Proceedings of the 5th National and 3rd International Conference on education (NICE) 2018 “Education, Leadership, and Innovation in Learning Society 5-7 July, 2018” Faculty of Education, Prince of Songkla University, Thailand, and ISBN: 978-1-922069-46-7 3. Sarndhong K, Tonchonlakun T, Khamruang W (2018) “Health Protective Behaviors and Mental Health among Type-II DM Palients at Doi Luang Area, Chaing Rai, Thailand” International Conference On Advancement In Health Sciences Education And Professions (IHSEP2019) : Synergy and Reform for Better Health, Miracle Gland Hotel, Bangkok, Thailand, November 11-13, 2019 การฝึกอบรม/การศึกษาดูงาน/การเจรจาความร่วมมือทางวิชาการ 1. ปี 2556 อบรมหลักสูตร Personality development and self-perception จัดโดยภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ ภูลักธร รีสอร์ท จังหวัดนครนายก ประเทศไทย 2. ปี 2560 อบรมหลักสูตร จริยธรรมการวิจัยในมนุษย์แบบเข้มข้น จัดโดย คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา ณ มหาวิทยาลัยพะเยา จังหวัดพะเยา ประเทศไทย 3. ปี 2561 อบรมหลักสูตร สร้างนักวิจัยรุ่นใหม่ (ลูกไก่) จัดโดย ซึ่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ณ ห้องประชุมทองกวาว สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประเทศไทย จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย 4. ปี 2562 อบรมหลักสูตร แนวทางการเขียน จัดพิมพ์ เผยแพร่ตำราและหนังสือวิชาการ จัดโดย สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (สพจ.CUP) ณ โรงแรมแมนดาริน แมนเนจ บาย เซ็นเตอร์ พ้อยท์ จังหวัดกรุงเทพฯ ประเทศไทย 5. ปี 2563 อบรมหลักสูตร ทักษะพื้นฐานจิตบำบัดความคิดและพฤติกรรม : Basic Skills in CBT Workshop จัดโดย ศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายบริหารโครงการณ โรงแรมคีรีธารา จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย  

References

1. Kinsey AC, Pomeroy WR, Martin CE. Sexual behavior in the human male. American journal of public health. 2003;93(6):894-8.
2. Fay RE, Turner CF, Klassen AD, Gagnon JH. Prevalence and patterns of same-gender sexual contact among men. Science. 1989;243(4889):338-48.
3. González-Guzmán M, Santos-Ortíz MDC, Dávila-Torres RR, Toro-Alonso J. Attitudes towards homosexual and lesbians among Puerto Rican Public Health graduate students. Puerto Rico health sciences journal. 2007;26(3).
4. Arnold O, Voracek M, Musalek M, Springer-Kremser M. Austrian medical students’ attitudes towards male and female homosexuality: A comparative survey. Wiener Klinische Wochenschrift. 2004;116(21):730-6.
5. De Cuypere G, Van Hemelrijck M, Michel A, Carael B, Heylens G, Rubens R, et al. Prevalence and demography of transsexualism in Belgium. European psychiatry. 2007;22(3):137-41.
6. ดำรงชัย บัวล้อมใบ. การศึกษาเปรียบเทียบปัญหาสุขภาพจิต ของชายรักร่วมเพศกับชายปกติ [วิทยานิพนธ์]. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ 2535.
7. Johns M, Lowry R, Andrzejewski J, Barrios LC, Demissie Z, McManus T, et al. Transgender Identity and Experiences of Violence Victimization, Substance Use, Suicide Risk, and Sexual Risk Behaviors Among High School Students 19 States and Large Urban School Districts, 2017. Morbidity and Mortality Weekly Report. 2019;68:67 - 71.
8. Marks G, Bingman CR, Duval TS. Negative affect and unsafe sex in HIV-positive men. AIDS and Behavior. 1998;2(2):89-99.
9. Rosario M, Hunter J, Maguen S, Gwadz M, Smith R. The coming-out process and its adaptational and health-related associations among gay, lesbian, and bisexual youths: Stipulation and exploration of a model. American journal of community psychology. 2001;29(1):133-60.
10. HIV/AIDS JUNPo. 2008 report on the global AIDS epidemic: Unaids; 2008.
11. The United Nations Children’s Fund (UNICEF). Situation of Patients with AIDS on1st December 2019 [cited 2020 1 February ]. Available from: http://news.thaipbs.or.th/conten/6414.
12. กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. เรียนรู้เข้าใจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์. กรุงเทพมหานคร:; 2551.
13. Rotheram-Borus MJ, Marelich WD, Srinivasan S. HIV risk among homosexual, bisexual, and heterosexual male and female youths. Archives of Sexual Behavior. 1999;28(2):159-77.
14. Saewyc E, Skay C, Richens K, Reis E, Poon C, Murphy A. Sexual orientation, sexual abuse, and HIV-risk behaviors among adolescents in the Pacific Northwest. American journal of public health. 2006;96(6):1104-10.
15. Goodenow C, Netherland J, Szalacha L. AIDS-related risk among adolescent males who have sex with males, females, or both: Evidence from a statewide survey. American journal of public health. 2002;92(2):203-10.
16. Benotsch EG, Kalichman S, Cage M. Men who have met sex partners via the Internet: prevalence, predictors, and implications for HIV prevention. Archives of sexual behavior. 2002;31(2):177-83.
17. Basen-Engquist K, Edmundson EW, Parcel GS. Structure of health risk behavior among high school students. Journal of Consulting and Clinical Psychology. 1996;64(4):764.
18. Davis CM, Yarber WL, Bauserman R, Schreer G, Davis SL. Handbook of sexuality-related measures: Sage; 1998.
19. Ahrold TK, Farmer M, Trapnell PD, Meston CM. The relationship among sexual attitudes, sexual fantasy, and religiosity. Archives of sexual behavior. 2011;40(3):619-30.
20. Brown A, Finkelhor D. Impact of Child Sexual Abuse. A Review of the Research. Psychological Bulletin. 1986.
21. Carballo-Dieguez A, Dolezal C. Association between history of childhood sexual abuse and adult HIV-risk sexual behavior in Puerto Rican men who have sex with men. Child Abuse & Neglect. 1995;19(5):595-605.
22. O'leary A, Purcell D, Remien R, Gomez C. Childhood sexual abuse and sexual transmission risk behaviour among HIV-positive men who have sex with men. AIDS care. 2003;15(1):17-26.
23. Paul JP, Catania J, Pollack L, Stall R. Understanding childhood sexual abuse as a predictor of sexual risk-taking among men who have sex with men: The Urban Men’s Health Study. Child abuse & neglect. 2001;25(4):557-84.
24. Fergusson DM, Horwood LJ, Beautrais AL. Is sexual orientation related to mental health problems and suicidality in young people? Archives of general psychiatry. 1999;56(10):876-80.
25. Russell ST, Driscoll AK, Truong N. Adolescent same-sex romantic attractions and relationships: Implications for substance use and abuse. American journal of public health. 2002;92(2):198-202.
26. Konrad K, Firk C, Uhlhaas PJ. Brain development during adolescence: neuroscientific insights into this developmental period. Deutsches Ärzteblatt International. 2013;110(25):425.
27. Franz N, Poon C. Making Choices: Sex, Ethnicity, and BC Youth: a Project of The McCreary Centre Society: Report: McCreary Centre Society; 2000.
28. Saewyc E, Bearinger L, Heinz P, Blum R, Resnick M. Gender differences in health and risk behaviors among bisexual and homosexual adolescents. Journal of Adolescent Health. 1998;23(3):181-8.
29. Holmes WC, Slap GB. Sexual abuse of boys: Definition, prevalence, correlates, sequelae, and management. Jama. 1998;280(21):1855-62.
30. Stokes JP, Peterson JL. Homophobia, self-esteem, and risk for HIV among African American men who have sex with men. AIDS education and prevention. 1998.
31. Savin-Williams RC. An exploratory study of pubertal maturation timing and self-esteem among gay and bisexual male youths. Developmental Psychology. 1995;31(1):56.
32. Rosario M, Schrimshaw EW, Hunter J. A model of sexual risk behaviors among young gay and bisexual men: Longitudinal associations of mental health, substance abuse, sexual abuse, and the coming-out process. AIDS Education & Prevention. 2006;18(5):444-60.