การพัฒนารูปแบบการฝึกแปรงฟันในเด็กที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นโรงเรียนการศึกษาคนตาบอดแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทคัดย่อ
ความเป็นมา
ปัญหาสุขภาพช่องปากในเด็กโรงเรียนการศึกษาคนตาบอดแม่สาย พบมีโรคเหงือกอักเสบ ร้อยละ 100 และโรคฟันผุ ร้อยละ 85 สภาวะอนามัยช่องปากอยู่ในระดับเป็นปัญหา เพราะไม่สามารถขจัดคราบจุลินทรีย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การแปรงฟันที่มีประสิทธิภาพจะช่วยลดความรุนแรงของปัญหาดังกล่าวได้
วัตถุประสงค์
เพื่อพัฒนารูปแบบการฝึกแปรงฟันในเด็กที่มีความบกพร่องทางการมองเห็น และประเมินรูปแบบการแปรงฟันที่ได้โดยการวัดสภาวะอนามัยช่องปากและสภาวะเหงือกอักเสบ
วิธีการศึกษา
เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง ระหว่างเดือนธันวาคม 2560 –มีนาคม 2561 ประชากรที่ศึกษา นักเรียนจำนวน 19 คน ครูจำนวน 5 คนและผู้ดูแลเด็ก จำนวน 3 คนในโรงเรียนการศึกษาคนตาบอดแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยใช้วิธีการสนทนากลุ่มและการสัมภาษณ์เชิงลึกเพื่อหารูปแบบการฝึกแปรงฟันที่เหมาะสมและทดลองนำไปปฏิบัติ ประเมินรูปแบบการแปรงฟันโดยการวัดสภาวะอนามัยช่องปากและสภาวะเหงือกอักเสบก่อนและหลังการฝึกแปรงฟัน 4 สัปดาห์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหาและสถิติประเภท non parametic Wilcoxson signed ranks test
ผลการศึกษา
วิธีการสอนแปรงฟันที่เหมาะสมในเด็กกลุ่มนี้ควรแบ่งเด็กออกเป็นสองกลุ่มคือ 1.กลุ่มเด็กที่มีความบกพร่องทางการมองเห็น สามารถแปรงฟันได้ด้วยตนเอง ให้ทันตแพทย์สอนแปรงฟัน เทคนิคการแปรงฟันแบบสครับแนวนอนแบบแปรงแห้ง ร่วมกับการใช้เทคนิค ATP 2. เด็กที่มีภาวะแทรกซ้อนทางสติปัญญาหรืออื่นๆร่วมด้วยให้ครู/ผู้ดูแลเด็กเป็นผู้แปรงฟันให้โดยใช้เทคนิคการแปรงฟันแบบสครับแนวนอน การแปรงแห้ง พบว่า หลังการใช้รูปแบบการฝึกแปรงฟันดังกล่าว เด็กทั้งสองกลุ่มมีสภาวะอนามัยช่องปากและสภาวะเหงือกอักเสบดีขึ้น (p<0.05)
สรุปและข้อเสนอแนะ
รูปแบบในการฝึกแปรงฟันที่เหมาะสมสำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นคือเทคนิคการแปรงฟันแบบสครับแนวนอน การแปรงแห้งร่วมกับการใช้เทคนิค ATP หลังการฝึกแปรงฟันตามรูปแบบที่ได้เป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ พบว่าเด็กทั้งสองกลุ่มมีสภาวะอนามัยช่องปากและสภาวะเหงือกอักเสบดีขึ้น (p < 0.05)