ปัจจัยภายในที่สัมพันธ์กับระยะเวลาในการฝึกการดูดกลืนจนสำเร็จ ในทารกเกิดก่อนกำหนด โรงพยาบาลลำปาง

Main Article Content

จุรีพร พ่อนา

บทคัดย่อ

ภูมิหลัง : ทารกเกิดก่อนกำหนดมักพบปัญหาความยากลำบากในการกินนม นักกิจกรรมบำบัดมีบทบาท ในการกระตุ้นการดูดและกลืน ระยะเวลาในการฝึกจนทารกสามารถดูดกลืนด้วยตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นขึ้นกับหลายปัจจัย ยังไม่พบว่าเคยมีการศึกษาประเด็นนี้ในเด็กไทยมาก่อน
วัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษาปัจจัยภายในที่สัมพันธ์กับระยะเวลาในการฝึกการดูดกลืนจนสำเร็จในทารกเกิดก่อนกำหนด
วัสดุและวิธีการ : เป็นการศึกษาแบบ cross-sectional study ในทารกเกิดก่อนกำหนด 20 รายที่กุมารแพทย์ได้ส่งปรึกษา งานกิจกรรมบำบัด กลุ่มงานเวชกรรมฟื้นฟูรพ.ลำปาง เพื่อกระตุ้นการดูดกลืนและฝืกการกินทางปาก ในช่วง ม.ค.62 – ธ.ค.63 ประเมิน oral reflex, คะแนน Feeding Readiness Behaviour (FRB) และบันทึกระยะเวลาตั้งแต่วันแรกที่เริ่มฝึกกิจกรรมบำบัดจนถึงวันที่ทารกดูดกินนมได้เองทุกมื้อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างระยะเวลาฝึกจนสำเร็จกับปัจจัยภายในต่างๆ ได้แก่ คะแนน FRB, อายุของทารกในวันที่เริ่มฝึก, อายุครรภ์, อายุของมารดา, oral reflex และโรคร่วม ด้วย Pearson และ point biserial correlation coefficient
ผลการศึกษา : ทารกส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง (13 ราย, ร้อยละ 65) อายุครรภ์เฉลี่ย 30+4 สัปดาห์ (SD 3+4, พิสัย 25–36) ค่ามัธยฐานของน้ำหนักแรกเกิด 1,290 กรัม (IQR 1,163 , พิสัย 730–3,130) และอายุในวันที่เริ่มฝึก 60 วัน (IQR 60, พิสัย 3–180) โรคร่วมที่พบได้แก่ respiratory distress syndrome 14 ราย, patent ductus arteriosus 11 รายและ bronchopulmonary dysplasia (BPD) 9 ราย คะแนน FRB มีค่าเฉลี่ย 10.6 คะแนน (SD 1.1, พิสัย 8–12) ค่ามัธยฐานของระยะเวลาฝึก 9 วัน (พิสัย 3–43 วัน) ทารกทุกรายสามารถดูดนมมารดาได้ดีทุกมื้อก่อนจำหน่าย อายุของทารกในวันที่เริ่มฝึกแปรผกผันกับคะแนน FRB (r= -0.667, p=0.002) และอายุครรภ์ (r= -0.587, p=0.007) ระยะเวลาฝึกการดูดกลืนจนสำเร็จแปรผันตรงกับอายุของทารกในวันที่เริ่มฝึก (r=0.849, p=0.001) และภาวะ BPD (r=0.538, p=0.014)แต่แปรผกผันกับคะแนน FRB (r=-0.806, p=0.001)
สรุป: ระยะเวลาฝึกการดูดกลืนจนสำเร็จของทารกเกิดก่อนกำหนด แปรผันตรงกับอายุของทารกในวันที่เริ่มฝึกกิจกรรมบำบัดและการมีภาวะ BPD แต่แปรผกผันกับคะแนน FRB

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
พ่อนา จ. . (2022). ปัจจัยภายในที่สัมพันธ์กับระยะเวลาในการฝึกการดูดกลืนจนสำเร็จ ในทารกเกิดก่อนกำหนด โรงพยาบาลลำปาง. ลำปางเวชสาร, 42(2), 55–62. สืบค้น จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/LMJ/article/view/260066
ประเภทบทความ
นิพนธ์ต้นฉบับ

เอกสารอ้างอิง

มนตรี ตู้จินดา, วินัย สุวัตถี, อรุณ วงษ์จิราษฎร์, ประอร ชวลิตธำรง, พิภพ จิรภิญโญ, บรรณาธิการ. กุมารเวชศาสตร์ เล่ม 1. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์เรือนแก้วการพิมพ์; 2540.

การประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนและบูรณาการภารกิจด้านการพัฒนาสุขภาพสตรีตั้งครรภ์และเด็กปฐมวัยเขตสุขภาพที่ 1; วันที่ 27 พฤศจิกายน 2563; ณ ห้องประชุมกาสะลอง ศอ. 1 จังหวัดเชียงใหม่. เชียงใหม่: สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 1; 2563.

พรรณรัตน์ แสงเพิ่ม. ศูนย์ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และสุขภาพเด็กปฐมวัย. Breastfeeding & the special care baby [อินเทอร์เน็ต]. นครปฐม: คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล; 2021 [เข้าถึงเมื่อ15ธ.ค.2564]. เข้าถึงได้จาก: http://ns.mahidol.ac.th/breastfeeding/articles/breastfeeding_special_ care.html

White-Traut R, Pham T, Rankin K, Norr K, Shapiro N, Yoder J. Exploring factors related to oral feeding progression in premature infants. Adv Neonat Care. 2013;13(4):288-94.

ชุติวรรณ แก้วไสย, ผกาวรรณ สุทธิวงศ์, ดวงพร จองพิพัฒนพงษ์. คู่มือการฟื้นฟูสภาพในกิจกรรมการรับประทานอาหารสำหรับเด็กพิการทางสมอง. พิมพ์

ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย; 2552.

Kumari N, Jain A, Ramji S. Prediction of nutritive 62 ลำปางเวชสาร ปีที่ 42 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม - ธันวาคม 2564 sucking in preterm babies (<34 weeks) and preterm sucking readiness scale. Matern Health Neonatol Perinatol. 2019;5:18.

Mizuno K, Nishida Y, Taki M, Hibino S, Murase M, Sakurai M, et al. Infants with bronchopulmonary dysplasia suckle with weak pressures to maintain breathing during feeding. Pediatrics. 2007;120(4): e1035-42.

Hwang YS, Ma MC, Tseng YM, Tsai WH. Association among perinatal factors and age of achievement of full oral feeding in very preterm infants. Pediatr Neonatol. 2013;54(5):309–14.

Osman A. Oral feeding readiness and premature infant outcomes. Journal of Neonatal Nursing. 2019;25(3):111–5.

Griffith T, Rankin K, White-Traut R. The relationship between behavioral states and oral feeding efficiency in preterm infants. Adv Neonat Care. 2017;17(1):E12–9.

White-Traut RC, Berbaum ML, Lessen B, McFarlin B, Cardenas L. Feeding readiness in preterm infants.

MCN Am J Matern Child Nurs. 2005;30(1):52–9.