มะเร็งปากมดลูกในโรงพยาบาลลำปางในช่วงเวลา 39 เดือน
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
ได้ทำการศึกษาผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกรายใหม่ในกลุ่มงานพยาธิวิทยากายวิภาคโรงพยาบาลลำปางตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2545 ถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2548 รวมเป็นเวลาทั้งหมด 39 เดือน พบผู้ป่วยทั้งสิ้น 588 ราย เฉลี่ยพบผู้ป่วยรายใหม่เท่ากับ 180.92 รายต่อปี อายุที่พบตั้งแต่ 24-86 ปี อายุเฉลี่ย 46.76 ปี ช่วงอายุที่พบมากที่สุด คือ 40-49 ปี จำนวน 132 ราย (ร้อยและ 22.44) เมื่อแบ่งผู้ป่วยตาม FIGO states เป็นมะเร็งปากมดลูกระยะไม่ลุกลาม (stage 0) และระยะลุกลามขั้นที่ 1-4 (stage I-IV) พบผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกระยะไม่ลุกลามทั้งหมด จำนวน 263 ราย (ร้อยละ 44.73) เฉลี่ย 80.92 รายต่อปี ซึ่งแบ่งย่อยตามผลตรวจทางพยาธิวิทยาเป็นชนิด CIS จำนวน 242 ราย (ร้อยละ 92.02) ชนิด AIS จำนวน 19 ราย (ร้อยละ 7.22) และชนิด CIS&AIS จำนวน 2 ราย (ร้อยละ 0.76) พบผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกระยะลุกลาม จำนวน 325 ราย (ร้อยละ 5.27) เฉลี่ย 100 รายต่อปี ซึ่งแบ่งย่อยเป็นชนิด squamous cell carcinoma จำนวน 279 (ร้อยละ 85.85) ชนิด adenocarcinoma จำนวน 42 ราย (ร้อยละ 12.92) และชนิดอื่น ๆ 4 ราย (ร้อยละ 0.62) ระยะลุกลามส่วนใหญ่เป็น Stage I จำนวน 184 ราย (ร้อยละ 31.29) ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดลำปาง จำนวน 255 ราย คิดเป็นร้อยละ 43.36
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ส่งมาลงพิมพ์ต้องไม่เคยพิมพ์หรือกำลังได้รับการพิจารณาตีพิมพ์ในวารสารอื่น เนื้อหาในบทความต้องเป็นผลงานของผู้นิพนธ์เอง ไม่ได้ลอกเลียนหรือตัดทอนจากบทความอื่น โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ได้อ้างอิงอย่างเหมาะสม การแก้ไขหรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่กองบรรณาธิการ จะต้องเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยก่อนจะได้รับพิจารณาตีพิมพ์ และบทความที่ตีพิมพ์แล้วเป็นสมบัติ ของลำปางเวชสาร
เอกสารอ้างอิง
Well SM, Nesland JM, et al. Tumors of the uterine cervix. 1n:Tavassoli FA, Devilee P, editors. World Health Organization Classification of tumours. Pathology and Genetics Tumors of the breast and Female genital organs. Lyon:IARC Press;2003.P259-89.
Pongnikorn S, Martin N, Pate1 N, Daoprasert K, editors. Cancer mortality in Lampang 1990-2000. Lampang:Lampang Regional Cancer Center;2003.
Vatanasapt V, Martin N, Sriplung H, Chindavijak K, Sontipong S, Sriamporn S, Parkin DM, Ferlay J, editors. Cancer in Thailand 1988-1991. Kh0nKaen:Siriphan Press;1993.
El-Senoussi M, Bakri Y, Amer MH, DeVol EB. Carcinoma of the uterine cervix in Saudi Arabia: experience in the management of 164 patients with stage-I & -II disease. Int J Radiat Oncol Biol Phys. 1998 Aug 1;42(1):91-100.
Cheah PL, Looi LM, Sivanesaratnam V. Recent trends in histological pattern of cervical carcinoma among three ethnic groups in Malaysia. J Obstet Gynaecol Res. 1999 Dec;25(6): 401-6.
Chen RJ, Lin YH, Chen CA, Huang SC, Chow SN, Hsieh CY. Influence of histologic type and age on survival rates for invasive cervical carcinoma in Taiwan. Gynecol Oncol. 1999 May;73(2):184-90.
Yang RC, Mills PK, Riordan DG. Cervical cancer among Hmong women in California,
to 2000. Am J Prev Med. 2004 Aug;27(2):132-8.
