ปัจจัยเสี่ยงต่อการล้มแล้วกระดูกสะโพกหัก ของผู้สูงอายุที่รักษาในโรงพยาบาลอุดรธานี

Main Article Content

อนุชา เศรษฐเสถียร
ดาวเรือง ข่มเมืองปักษ์

บทคัดย่อ

ภูมิหลัง : การล้มจนกระดูกสะโพกหักในผู้สูงอายุสามารถป้องกันได้หากทราบปัจจัยเสี่ยงและมีกระบวนการป้องกัน ตามบริบทของแต่ละภูมิภาค
วัตถุประสงค์ : เพื่อหาสาเหตุของการหกล้มจนกระดูกสะโพกหักในผู้สูงอายุที่มานอนรักษาในรพ.อุดรธานี และศึกษาถึงปัจจัยเสี่ยงที่สัมพันธ์ต่อการหกล้ม ทั้งจากสภาพร่างกายของผู้ป่วยเองและจากสิ่งแวดล้อมภายนอก
วัสดุและวิธีการ : เป็นการศึกษาเชิงสำรวจแบบ case-control study แบ่งประชากรเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มศึกษา ได้แก่ ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไปที่หกล้มแล้วกระดูกข้อสะโพกหักและมารับการรักษาใน รพ.อุดรธานี ระหว่างเดือน มิ.ย.2549 – พ.ค.2550 จำนวน 43 ราย กลุ่มควบคุมได้แก่ ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในชุมชนเดียว กับผู้ป่วยกลุ่มศึกษาที่เคยหกล้มแต่สะโพกไม่หักจำนวน 74 ราย มีสภาพความเป็นอยู่และสิ่งแวดล้อมใกล้เคียงกัน คัดเลือกประชากรแบบเฉพาะเจาะจง เก็บข้อมูลทั่วไป ภาวะสุขภาพ โภชนาการ พฤติกรรมขณะหกล้มและสภาพแวดล้อมของที่อยู่อาศัย วิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปด้วยสถิติเชิงพรรณนา วิเคราะห์ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการล้มจนกระดูกสะโพกหักโดยใช้ Chi-square test หาปัจจัยทำนายโดยใช้การวิเคราะห์ถด
ถอยพหุโลจิสติก
ผลการศึกษา : ประชากรร้อยละ 54.7 มีอายุอยู่ในช่วง 60–69 ปี เป็นเพศชายร้อยละ 53.5 ส่วนใหญ่มีสถานภาพสมรสคู่ (ร้อยละ 60.7) และมีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) >20 (ร้อยละ 65.8) การล้มส่วนใหญ่เกิดในรั้วบ้าน โดยร้อยละ 32.5 เกิดจากการลื่น ร้อยละ 28.2 เกิดจากการสะดุด ประชากรร้อยละ 70.1 สวมรองเท้า
แตะไม่มีดอกยาง สภาพภายในบ้านร้อยละ 48.7 พื้นบ้านมีความลื่น ร้อยละ 37.6 มีขั้นสะดุดได้ โดยส่วนใหญ่มีแสงสว่างภายในบ้านเพียงพอ (ร้อยละ 75.2) และมีสัตว์เลี้ยงในบ้าน (ร้อยละ 60.7) สำหรับสภาพนอกบ้านเกือบทุกหลังมีพื้นลาดเอียง หรือเป็นหลุมบ่อ ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการล้มจนกระดูกสะโพกหักอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่ อายุ ค่า BMI สถานภาพสมรส ความสามารถทางกายภาพ (ADL)ประวัติการเคยหกล้มภายใน 1 ปีที่ผ่านมาและการดื่มชากาแฟ เมื่อวิเคราะห์ถดถอยพหุโลจิสติก เพื่อหาปัจจัยที่ทำนายการล้มจนกระดูกสะโพกหักในผู้สูงอายุ พบว่ามี 5 ปัจจัยคือ อายุ, ค่า BMI, ระดับ ADL, การมี
โรคประจำตัวและประวัติการเคยหกล้มภายใน 1 ปีที่ผ่านมา (OR= 2.84, 4.35, 4.38, 3.27 และ 0.19ตามลำดับ)
สรุป : ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการล้มจนกระดูกสะโพกหักในผู้สูงอายุได้แก่ อายุ 70 ปีขึ้นไป ค่าดัชนีมวลกายน้อยกว่า 20 มีโรคประจำตัว มีความสามารถทางกายภาพและการดำรงชีวิตที่ต่ำ ส่วนปัจจัยที่ลดความเสี่ยงคือ ประวัติการเคยหกล้มในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
เศรษฐเสถียร . อ., & ข่มเมืองปักษ์ ด. . (2022). ปัจจัยเสี่ยงต่อการล้มแล้วกระดูกสะโพกหัก ของผู้สูงอายุที่รักษาในโรงพยาบาลอุดรธานี. ลำปางเวชสาร, 30(3), 154–162. สืบค้น จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/LMJ/article/view/259937
ประเภทบทความ
นิพนธ์ต้นฉบับ

เอกสารอ้างอิง

Gullberg B, Johnell O, Kanis JA. Worldwide projections for hip fractures. Osteoporos Int 1997; 7:407-13.

Fuller GF. Falls in the elderly. Am Fam Physician 2000; 61:2159-68, 2173-4.

Rojanasthien S, Luevitoonvechkit S. Epidemiology of hip fracture in Chiang Mai. J Med Assoc Thai 2005;88 Suppl 1:105-9.

Wolinsky FD, Fitzgerald JF, Stump TE. The effect of hip fracture on mortality hospitalization and functional status. Am J Public Health 1997;87:398-403.

Tinetti ME. Preventing falls in elderly persons. N Engl J Med 2003;348:42-9.

Steinberg M, Cartwright C, Peel N, Williams G. A sustainable programme to prevent falls and near falls in community dwelling older people: a randomized trial. J Epidemiol Community Health 2000;54:227-32.

Jitapankul S, Yuktanandana P. Consequences of hip fracture among Thai woman age 50 years and over: a prospective study. J Med Assoc Thai 2000; 83:1447-51.

อรุณ จิรวัฒน์กุล, มาลินี เหล่าไพบูลบ์, จิราพร เขียวอยู่, ยุพา ถาวรพิทักษ์, บัณฑิต ถิ่นคำลพ, นิคม ถนอมเสียง และคณะ. การคำนวณขนาดตัวอย่าง. ใน:อรุณ จิรวัฒน์กุล, บรรณาธิการ. ชีวสถิติ. พิมพ์ครั้งที่ 3. ขอนแก่น:คลังนานาวิทยา; 2544. หน้า 273-8.

กนกรัตน์ นันทิรุจ, ฐิตเวทย์ ตุมราศวิน, บุญเอก จันศิริมงคล, พันธุ์จง หาญวิวัฒนกุล, สมชาย เอื้อรัตนวงศ์, สูงชัย อังธารารักษ์ และคณะ. แนวทางเวชปฏิบัติภาวะกระดูกพรุน (Osteoporosis). กรุงเทพฯ: สมาคมรูมาติสซั่มแห่งประเทศไทย; 2547.

สำนักพัฒนาวิชาการแพทย์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. แนวทางเวชปฏิบัติเรื่องโรคกระดูกพรุน. นนทบุรี: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย; 2548. หน้า 1-30.

Cole S, Pugh J, Hudson B. Fall Prevention for the elderly. [cited 2002 Jul 9] Available from:URL:

http://www.angelo.edu/dept/physical_therapy/documents/student_projects Fall_Prevention_for_the _Elderly.pdf