การใช้โปรแกรมฟื้นฟูสมรรถภาพปอดร่วมกับการสนับสนุนของครอบครัวเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
Main Article Content
บทคัดย่อ
ภูมิหลัง : โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังเป็นโรคที่มีอัตราการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสูงเป็นอันดับต้นๆ ของแผนกอายุรกรรม รพ.ลำปาง ผู้ป่วยมักมีอาการกำเริบเป็นระยะๆ ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ด้อยลง การฟื้นฟูสมรรถภาพปอดเป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วย
วัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษาผลของการใช้โปรแกรมฟื้นฟูสมรรถภาพปอดที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น ร่วมกับการสนับสนุนของครอบครัว ในการลดอาการหายใจลำบากและเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
วัสดุและวิธีการ : เป็นการศึกษาแบบกึ่งทดลอง ในผู้ป่วยคลินิกโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง รพ.ลำปาง ตั้งแต่เดือนกันยายน 2549 - พฤษภาคม 2550 จำนวน 30 ราย เป็นชาย 18 ราย หญิง 12 ราย อายุ 54 - 79 ปี เฉลยี่ 68 ปี มคี วามรนุ แรงของโรคระดบั 3 และ 4 โดยเปรยี บเทยี บการหายใจลำบาก และคุณภาพชีวิตก่อน
และหลังเข้าร่วมโปรแกรมการฟื้นฟูสมรรถภาพปอด ร่วมกับการสนับสนุนของครอบครัวเป็นเวลา 8 สัปดาห์ ประเมินคะแนนอาการหายใจลำบาก และวัดดัชนีคุณภาพชีวิต สำรวจจำนวนครั้งที่ผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาที่ห้องฉุกเฉิน หรือต้องรับตัวไว้ใน รพ.ภายหลังจากเข้าร่วมโปรแกรมไปแล้ว 1 ปี วิเคราะห์ข้อมูล
โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และ pair t-test
ผลการศึกษา : ภายหลังได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพปอดร่วมกับการสนับสนุนของครอบครัว ผู้ป่วยมีอาการหายใจลำบากลดลง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.001) ภายหลังจากเข้าร่วมโปรแกรมไปแล้ว 1 ปี ผู้ป่วยร้อยละ 76.67 มีความถี่ในการเข้ารับการรักษาอาการหอบเหนื่อยที่ห้องฉุกเฉิน
ลดลง และร้อยละ 46.67 มีจำนวนครั้งที่ต้องรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาลลดลง เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
สรุป : โปรแกรมฟื้นฟูสมรรถภาพปอดที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น ร่วมกับการสนับสนุนของครอบครัวอย่างเหมาะสมช่วยลดอาการหายใจลำบากและเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติควรมีการนำโปรแกรมนี้ไปใช้และติดตามการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ส่งมาลงพิมพ์ต้องไม่เคยพิมพ์หรือกำลังได้รับการพิจารณาตีพิมพ์ในวารสารอื่น เนื้อหาในบทความต้องเป็นผลงานของผู้นิพนธ์เอง ไม่ได้ลอกเลียนหรือตัดทอนจากบทความอื่น โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ได้อ้างอิงอย่างเหมาะสม การแก้ไขหรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่กองบรรณาธิการ จะต้องเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยก่อนจะได้รับพิจารณาตีพิมพ์ และบทความที่ตีพิมพ์แล้วเป็นสมบัติ ของลำปางเวชสาร
เอกสารอ้างอิง
จันทร์เพ็ญ ชูประภาวรรณ. สถานะสุขภาพคนไทย. กรุงเทพฯ: อุษาการพิมพ์; 2543. หน้า. 252-60.
ศูนย์ข้อมูลสารสนเทศ โรงพยาบาลลำปาง. สถิติโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง; 2547.
สมาคมอรุเวชช์แห่งประเทศไทย. แนวทางการวินิจฉัยและการรักษาโรคปอดอุดตันเรื้อรังในประเทศไทย. กรุงเทพฯ: เรือนแก้วการพิมพ์; 2539. หน้า. 5-16.
American Association of Cardiovascular and Pulmonary Rehabilitation (AACVPR). Guidelines for pulmonary rehabilitation 2nd ed. Champaign:Human Kinetics; 1998.
American Thoracic Society (ATS). Pulmonary rehabilitation. Am J Respir Crit Care Med 1999;159:1666-82.
กมลวรรณ จันตระกูล. ผลของการฟื้นฟูสมรรถภาพปอดร่วมกับการสนับสนุนของครอบครัวต่อคุณภาพชีวิตผู้ที่เป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง. [วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต]. สาขาวิชาการพยาบาลผู้ใหญ่, บัณฑิตวิทยาลัย, เชียงใหม่ : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2547.
ธิดารัตน์ เกตุสุริยา. แบบการดำเนินชีวิตที่ส่งเสริมสุขภาพและการสนับสนุนทางสังคมของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังที่เข้ารับการรักษาซ้ำในแผนกอายุรกรรม โรงพยาบาลลำปาง [การค้นคว้าแบบอิสระพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต]. สาขาวิชาการพยาบาลผู้ใหญ่, บัณฑิตวิทยาลัย, เชียงใหม่ : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2547.
Cobb S. Social support as a moderator of life stress. Psychosom Med 1976; 38:300-14.
Schaefer C, Coyne JC, Lazarus RS. The health related functions of social support. J Behav Med 1981;4:381-406.
Polit DF, Hungler BP. Nursing research: principles and methods. Philadelphia: J.B. Lippincott; 1983. p. 427.
American lung association. Chronic obstructive pulmonary disease. In: Dudley LD, Glaser ME, Jorgenson NB, Logan LD. Psychosocial concomitants to rehabilitation in chronic obstructive pulmonary disease: part 1 psychosocial and psychological consideration. Chest 1980; 77:413-19.
Gift AG. Clinical measurement of dyspnea. Dimens Crit Care Nurs 1989; 4:210-6.
นิรามัย ใช้เทียมวงค์. แรงสนับสนุนทางสังคม การดูแลตนเอง และคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง [วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต]. สาขาพยาบาลศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย, กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยมหิดล; 2535.
Wedzicha JA. Exacerbation: etiology and pathophysiologic mechanisms. Chest 2002; 121 Suppl 5:136-41.
Sullivan SD, Ramsey SD, Lee TA. The economic burden of COPD. Chest 2000;117 Suppl 2:5-9.
Padilla GV, Grant M. Quality of life as a cancer nursing outcome variable. Adv Nurs Sci 1985; 8:45-60.
McSweeny JA, Grant I, Heation KR, Adams MK, Timms MR. Life quality of patients with chronic obstructive pulmonary disease. Arch Intern Med 1982;142:473-8.
Global Initiative for Chronic Obstructive Pulmonary Disease (GOLD). Global strategy for the diagnosis, management, and prevention of chronic obstructive pulmonary disease. [cited 2004 Sep 23]. Available from: URL: http://www.goldcopd.com/Guidelineitem.asp?l1=2&l2=1&intId=989