การวินิจฉัยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่โดยวิธีสวนตรวจทวารด้วยแบเรียมเปรียบเทียบกับวีธีส่องกล้องลำไส้ใหญ่ ในโรงพยาบาลนครพิงค์
Main Article Content
บทคัดย่อ
ภูมิหลัง : การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (colonoscopy) ถือเป็นวิธีมาตรฐานในการวินิจฉัยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และ adenomatous polyp แต่ทำได้เฉพาะในโรงพยาบาลบางแห่ง ขณะที่การสวนตรวจทวารด้วยแบเรียม (doublecontrast barium enema, DCBE) ทำได้แพร่หลายกว่า ยังไม่เคยมีการศึกษาเปรียบเทียบผลการตรวจด้วย 2 วิธีนี้มาก่อนในโรงพยาบาลนครพิงค์
วัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษาความสามารถในการวินิจฉัยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และ adenomatous polyp ด้วยการตรวจ DCBE เปรียบเทียบกับ colonoscopy
วัสดุและวิธีการ : เป็นการศึกษาเชิงวินิจฉัยแบบตัดขวาง ในผู้ป่วยที่สงสัยว่ามีเนื้องอกลำไส้ใหญ่ที่ได้รับการตรวจทั้ง DCBE และ colonoscopy จำนวน 141 ราย ในโรงพยาบาลนครพิงค์ ระหว่างเดือนตุลาคม พ.ศ. 2549 ถึงเมษายน พ.ศ. 2554 เก็บข้อมูลย้อนหลังจากเวชระเบียน บันทึกข้อมูลทั่วไป ข้อมูลทางคลินิกและผลการตรวจวิเคราะห์ด้วยสถิติเชิงพรรณนา คำนวณดัชนีความแม่นยำในการวินิจฉัยของ DCBE เมื่อเทียบกับ colonoscopy เป็น reference standard
ผลการศึกษา : ผู้ป่วยมีอายุเฉลี่ย 58.0 ± 12.5 ปี (พิสัย 24 - 89) ร้อยละ 61.0 เป็นเพศหญิง ทั้ง DCBE และ colonoscopy พบมะเร็งลำไส้ใหญ่ 26 ราย (ร้อยละ 18.4) เท่ากัน ในขณะที่ DCBE ตรวจพบ diverticulosis ได้มากกว่า (29 vs 17 ราย) แต่ colonoscopy ตรวจพบพยาธิสภาพของ mucosa และ polyp ได้มากกว่า (10 vs 4 ราย และ 8 vs 3 รายตามลำดับ) โดยเฉพาะ polyp ที่มีขนาดไม่เกิน 10 มม. ผลการวินิจฉัยมะเร็งลำไส้ใหญ่ และ polyp จากการตรวจ DCBE เทียบกับ colonoscopy พบว่ามีความไวร้อยละ 80.6 ความจำเพาะร้อยละ 99.1 ค่าพยากรณ์บวกร้อยละ 96.7 ค่าพยากรณ์ลบร้อยละ 93.7 และ likelihood ratio for positive test 84.6
สรุป : DCBE มีความสามารถในการวินิจฉัยมะเร็งลำไส้ใหญ่และ polyp ที่มีขนาดตั้งแต่ 10 มม.ขึ้นไปได้ใกล้เคียงกับ colonoscopy จึงอาจใช้เป็นเครื่องมือหลักสำหรับการวินิจฉัยและคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ในโรงพยาบาลที่ขาดความพร้อมในการตรวจ colonoscopy ได้
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ส่งมาลงพิมพ์ต้องไม่เคยพิมพ์หรือกำลังได้รับการพิจารณาตีพิมพ์ในวารสารอื่น เนื้อหาในบทความต้องเป็นผลงานของผู้นิพนธ์เอง ไม่ได้ลอกเลียนหรือตัดทอนจากบทความอื่น โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ได้อ้างอิงอย่างเหมาะสม การแก้ไขหรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่กองบรรณาธิการ จะต้องเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยก่อนจะได้รับพิจารณาตีพิมพ์ และบทความที่ตีพิมพ์แล้วเป็นสมบัติ ของลำปางเวชสาร
เอกสารอ้างอิง
ปริญญา ทวีชัยการ. ตำรามะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก เล่ม 1. กรุงเทพฯ: อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง; 2554.
Hung KE, Chung DC. Colorectal cancer screening: today and tomorrow. South Med J 2006; 99(3):240-6.
Gore RM, Levine MS. Textbook of gastrointestinal radiology. 3rd edition. Philadelphia: Saunders Elsevier; 2008.
Grainger RG, Allison DJ. Grainger and Allison’s diagnostic radiology: a textbook of medical imaging. 3rd edition. New York: Churchill Livingstone; 1997.
Kung JW, Levine MS, Glick SN, Lakhani P, Rubesin SE, Laufer I. Colorectal cancer screening double-contrast barium enema examination in average-risk adults older than 50 years. Radiology 2006; 240(3):725-35.
Rex DK, Rahmani EY, Haseman JH, Lemmel GT, Kaster S, Buckley JS. Relative sensitivity of colonoscopy and barium enema for detection of colorectal cancer in clinical practice. Gastroenterology 1997; 112(1):17-23.
Winawer SJ, Stewart ET, Zauber AG, Bond JH, Ansel H, Waye JD, et al. A comparison of colonoscopy and double-contrast barium enema for surveillance after polypectomy. National Polyp Study Work Group. N Eng J Med 2000; 342(24):1766-72.
de Zwart IM, Griffioen G, Shaw MP, Lamers CB, de Roos A. Barium enema and endoscopy for the detection of colorectal neoplasia: sensitivity, specificity, complications and its determinants. Clin Radiol 2001; 56(5):401-9.