ประสิทธิภาพของภาชนะ ice chamber สำหรับบรรจุตัวอย่างเลือดเพื่อส่งตรวจวิเคราะห์ก๊าซในเลือดแดง
Main Article Content
บทคัดย่อ
ภูมิหลัง : การเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อส่งวิเคราะห์ค่าก๊าซในเลือดแดง นิยมนำตัวอย่างเลือดใส่ลงในภาชนะที่บรรจุน้ำปนน้ำแข็ง อาจเกิดการรั่วซึมของน้ำปนเปื้อนกับตัวอย่างเลือดได้ ผู้วิจัยได้ประดิษฐ์ภาชนะแช่แข็งพร้อมใช้ (ice chamber) จากกระบอกฉีดยาและแก้วพลาสติก เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
วัตถุประสงค์ : เพื่อเปรียบเทียบผลการใช้งานและการวิเคราะห์ค่าก๊าซของตัวอย่างเลือดที่จัดเก็บในภาชนะ ice chamber กับภาชนะบรรจุน้ำแข็งแบบเดิม
วิธีการศึกษา : เป็นการศึกษาเชิงทดลองทางห้องปฏิบัติการ ในตัวอย่างเลือดของผู้ป่วยที่วิสัญญีแพทย์ส่งวิเคราะห์ค่าก๊าซในเลือดแดงระหว่างการผ่าตัดในโรงพยาบาลลำปาง จำนวน 25 ราย โดยแบ่งสิ่งส่งตรวจจากผู้ป่วยแต่ละรายเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มควบคุม เก็บกระบอกฉีดยาพลาสติกที่บรรจุตัวอย่างเลือดไว้ในภาชนะบรรจุน้ำแข็งป่น และกลุ่มทดลองเก็บไว้ใน ice chamber บันทึกระยะเวลาตั้งแต่เจาะเลือดจนถึงการตรวจวิเคราะห์และจำนวนตัวอย่างเลือดที่ปนเปื้อน เปรียบเทียบอุณหภูมิแกนกลางภาชนะในนาทีที่ 5, 10, 15, 30 และผลการวิเคราะห์ค่าก๊าซในเลือดแดงระหว่างกลุ่มโดยใช้ paired t–test
ผลการศึกษา : ค่าเฉลี่ยอุณหภูมิในภาชนะ ice chamber สูงกว่าภาชนะบรรจุน้ำแข็งในนาทีที่ 5 (0.28 ± 0.15 vs 0.09 ± 0.05 ºC) และ 10 (0.11 ± 0.08 vs 0.03 ± 0.03 ºC) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.001) แต่ในนาทีที่ 15 และ 30 ไม่แตกต่างกัน (p = 0.283 และ 0.076 ตามลำดับ) ระยะเวลาตั้งแต่เจาะเลือดจนถึงการตรวจวิเคราะห์เฉลี่ย 4.62 ± 1.40 นาที ค่าเฉลี่ยของ pH , PO2 , PCO2 , HCO3 และ base excess ของทั้ง 2 กลุ่มไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ไม่พบการปนเปื้อนน้ำของตัวอย่างเลือด
สรุป : ภาชนะ ice chamber ที่ประดิษฐ์ขึ้นมีประสิทธิภาพในการเก็บรักษาตัวอย่างเลือดที่บรรจุในกระบอกฉีดยาเพื่อตรวจวิเคราะห์ค่าก๊าซในเลือดไม่แตกต่างภาชนะบรรจุน้ำแข็งแบบเดิม
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ส่งมาลงพิมพ์ต้องไม่เคยพิมพ์หรือกำลังได้รับการพิจารณาตีพิมพ์ในวารสารอื่น เนื้อหาในบทความต้องเป็นผลงานของผู้นิพนธ์เอง ไม่ได้ลอกเลียนหรือตัดทอนจากบทความอื่น โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ได้อ้างอิงอย่างเหมาะสม การแก้ไขหรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่กองบรรณาธิการ จะต้องเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยก่อนจะได้รับพิจารณาตีพิมพ์ และบทความที่ตีพิมพ์แล้วเป็นสมบัติ ของลำปางเวชสาร
เอกสารอ้างอิง
Wiwanitkit V. Quality control in blood gas analysis. Yasothon Med J 1999; 2:160-6.
Ancic P, Munoz F. Importance of pre-analytical variables in the quality of arterial blood gas determination. Rev Med Chil 1997; 125:1045–8.
Wiwanitkit V. Glass syringe are better than plastic for preserving arterial blood gas for oxygen partial pressure determination: an explanation based on nanometerial composition. Int J Nanomedicine 2006; 1(2):223-4.
Smeenk FW, Janssen JD, Adrends BJ, Harff GA, van den Bosch JA, Schonberger JP, et al. Effects of four different methods of sampling arterial blood and storage time on gas tensions and shunt calculation in 100 % oxygen test. Eur Respir J 1997; 10(4):910-3.
Biswas CK, Ramos JM, Agroyannis B, Kerr DN. Blood gas analysis: effect of air bubbles in syringe and delay in estimation. Br Med J 1982; 284(6320):923-7.
Knowles TP, Mullin RA, Hunter JA, Douce FH. Effects of syringe material, sample storage time, and temperature on blood gases and oxygen saturation in arterialized human blood samples. Respir Care 2006; 51(7):732-6.
พงษ์ธารา วิจิตรเวชไพศาล. การวิเคราะห์ก๊าซในเลือด. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: พี.เอ.ลีฟวิ่ง; 2545.
วิโรจน์ ไววานิชกิจ. การตรวจวิเคราะห์ก๊าซในเลือด. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2551.
Beaulieu M, Lapointe Y, Vinet B. Stability of PO2, PCO2, and pH in fresh blood samples stored in a plastic syringe with low heparin in relation to various blood-gas and hematological parameters. Clin Biochem 1999; 32(2):101-7.
American Association for Respiratory Care. AARC Clinical Practice Guideline: blood gas analysis and hemoximetry: 2001 revision and update. Respir Care 2001; 46(5):498–505.