การศึกษาผู้ป่วยติดเชื้อของเยื่อหุ้มชั้นลึกบริเวณคอ 127 รายในโรงพยาบาลน่าน
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
ภูมิหลัง : การติดเชื้อของเยื่อหุ้มชั้นลึกบริเวณคอเป็นปัญหาสำคัญสำหรับโสต ศอ นาสิกแพทย์ เพราะสามารถเกิดโรคแทรกซ้อนที่รุนแรงหรือเสียชีวิตได้
วัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษาถึงสาเหตุ การวินิจฉัย การรักษาและภาวะแทรกซ้อนของผู้ป่วยติดเชื้อของเยื่อหุ้มชั้นลึกบริเวณคอ ในโรงพยาบาลน่าน
วัสดุและวิธีการ : เป็นการศึกษาเชิงพรรณนาแบบย้อนหลัง ของผู้ป่วยติดเชื้อของเยื่อหุ้มชั้นลึกบริเวณคอ
ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลน่าน ระหว่างเดือนมกราคม พ.ศ. 2551 ถึงธันวาคม พ.ศ. 2553 จำนวน 127 ราย บันทึกตำแหน่งการติดเชื้อ ผลการตรวจเพาะเชื้อ การรักษาและภาวะแทรกซ้อน วิเคราะห์ ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของเชื้อสาเหตุและลักษณะต่างๆ ของผู้ป่วยโดยวิธี
logistic regression
ผลการศึกษา : ผู้ป่วยร้อยละ 57.5 เป็นเพศชาย อายุเฉลี่ย 41.6 ± 21.4 ปี (พิสัย 1 - 84 ) ช่วงอายุที่พบมากที่สุดคือ 41 - 50 ปี (ร้อยละ 23.6) มีโรคประจำตัวร้อยละ 37.8 โดยเป็นเบาหวานร้อยละ 10.2 ธาลัสซีเมียร้อยละ 3.9 ตำแหน่งที่พบติดเชื้อมากที่สุดคือ submandibular space (ร้อยละ 27.6) รองลงมาคือ buccal space (ร้อยละ 15.0) สาเหตุการติดเชื้อเกิดจากฟันมากที่สุด (ร้อยละ 41.7) เชื้อสาเหตุที่พบมากที่สุดคือ Streptococcus viridans (ร้อยละ 15.4) และ Staphylococcus aureus (ร้อยละ 10.8) อุบัติการณ์ของเชื้อ Klebsiella pneumoniae ในผู้ป่วยเบาหวานไม่แตกต่างจากผู้ป่วยที่ไม่เป็นเบาหวาน (20% vs 7.3%, p = 0.643) แต่พบในผู้ป่วย retropharyngeal abscess สูงกว่าตำแหน่งอื่น (50% vs 5.4%, p = 0.025) ผู้ป่วยร้อยละ 74 ได้รับการผ่าตัดระบายหนอง ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้แก่ ทางเดินหายใจอุดตัน 3 ราย (ร้อยละ 2.4), ช็อค 3 ราย (ร้อยละ 2.4 ) และ mediastinitis 2 ราย (ร้อยละ 1.6) มีผู้ป่วยเสียชีวิต 1 ราย (ร้อยละ 0.8)
สรุป : การติดเชื้อของเยื่อหุ้มชั้นลึกบริเวณคอในโรงพยาบาลน่าน มีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการติดเชื้อที่เกิดจากฟัน ตำแหน่งที่ติดเชื้อ เชื้อก่อโรค ภาวะทรกซ้อนและอัตราตายใกล้เคียงกับการศึกษาอื่น การวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง รวดเร็ว ช่วยลดภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายแก่ชีวิตได้
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ส่งมาลงพิมพ์ต้องไม่เคยพิมพ์หรือกำลังได้รับการพิจารณาตีพิมพ์ในวารสารอื่น เนื้อหาในบทความต้องเป็นผลงานของผู้นิพนธ์เอง ไม่ได้ลอกเลียนหรือตัดทอนจากบทความอื่น โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ได้อ้างอิงอย่างเหมาะสม การแก้ไขหรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่กองบรรณาธิการ จะต้องเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยก่อนจะได้รับพิจารณาตีพิมพ์ และบทความที่ตีพิมพ์แล้วเป็นสมบัติ ของลำปางเวชสาร
เอกสารอ้างอิง
Oliver ER, Gillespie MB. Deep neck infections. In : Flint PW, Haughey BH, Lund VJ, et al, eds. Cummings otolaryngology head & neck surgery, 5th ed. Philadelphia: Mosby Elsevier; 2010. p.207-8.
Lee YQ, Kanagalingam J. Deep neck abscesses: the Singapore experience. Eur Arch Otorhinolaryngol 2011; 268(4):609-14.
Lee JK, Kim HD, Lim SC. Predisposing factors of complicated deep neck infection: an analysis of 158 cases. Yonsei Med J 2007; 48(1):55-62.
สาธิต ก้านทอง. การศึกษาย้อนหลังอุบัติการณ์และผลการรักษาการติดเชื้อเป็นฝีหนองที่คอและช่องใบหน้า ผู้ป่วย 491 รายที่โรงพยาบาลชัยภูมิตั้งแต่ พ.ศ. 2542-2550. ขอนแก่นเวชสาร 2551; 32: 153-64.
ชูเกียรติ วงศ์นิจศีล. การศึกษาผู้ป่วยติดเชื้อและมีฝีหนองของเยื่อหุ้มชั้นลึกบริเวณคอในโรงพยาบาลขอนแก่น. ขอนแก่นเวชสาร 2551; 32: 5-12.
บุญชัย วิรบุญชัย. การติดเชื้อบริเวณลำคอส่วนลึก. วารสารการแพทย์โรงพยาบาลศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ 2552; 1:173-80.
Agarwal AK, Sethi A, Sethi D, Mrig S, Chopra S. Role of socioeconomic factors in deep neck abscess: a prospective study of 120 patients. Br J Oral Maxillofac Surg 2007; 45(7):553-5.
จักรพงศ์ คล้ายคลึง, ลลิดา เกษมสุวรรณ, บุญชู กุลประดิษฐารมณ์. Deep neck abscess: clinical review in Ramathibodi Hospital. วารสาร หู คอ จมูก และใบหน้า 2543; 1:43-7.
Afolabi OA, Fadare JO, Oyewole EO, Ogah SA. Fish bone foreign body presenting with an acute fulminating retropharyngeal abscess in a resource-challenged center: a case report. J Med Case Reports 2011; 5(1):165.
Srivanitchapoom C, Sittitrai P, Pattarasakulchai T, Tananuvat R. Deep neck infection in northern Thailand. Eur Arch Otorhinolaryngol 2011; Epub Mar 24.
Suehara AB, Gonçalves AJ, Alcadipani FA, Kavabata NK, Menezes MB. Deep neck infection - analysis of 80 cases. Braz J Otorhinolaryngol 2008; 74(2):253-9.
Eftekharian A, Roozbahany NA, Vaezeafshar R, Narimani N. Deep neck infections: a retrospective review of 112 cases. Eur Arch Otorhinolaryngol 2009; 266(2):273-7.
Regueiro Villarín S, Vázquez Barro JC, Herranz González-Botas J. Deep neck infections: etiology, bacteriology and treatment. Acta Otorninolaryngol Esp 2006; 57(7):324-8.
Marioni G, Rinaldi R, Staffieri C, Marchese-Ragona R, Saia G, Stramare R, et al. Deep neck infection with dental origin: analysis of 85 consecutive cases (2000-2006). Acta Otolaryngol 2008; 128(2):201-6.
Huang TT, Lui TC, Chen PR, Tseng FY, Yeh TH, Chen YS. Deep neck infection: analysis of 185 cases. Head Neck 2004; 26(10):854-60.
Parhiscar A, Har-E1 G. Deep neck abscess: a retrospective review of 210 cases. Ann OtoRhinol Laryngol 2001; 110(11):1051-4.
Johnson RF, Stewart MG, Wright CG. An evidence-based review of the treatment of peritonsillar abscess. Otolaryngol Head Neck Surg 2003; 128(3):332-43.
Ito K, Chitose H, Koganemaru M. Four cases of acute epiglottitis with a peritonsillar abscess. Auris Nasus Larynx 2011 ; 38(2):284-8.
บุญเลิศ เพียรสกุลรัตน์. ฝีหนองบริเวณโพรงข้างคอหอย ในโรงพยาบาลลำปาง. วารสารโรงพยาบาลมหาสารคาม 2553; 6(4):19-25.
Lee YQ, Kanagalingam J. Bacteriology of deep neck abscesses: a retrospective review of 96 consecutive cases. Singapore Med J 2011; 52(5):351-5.
