ปัจจัยที่สัมพันธ์กับความเครียดของผู้ปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่ดอยพระบาท จังหวัดลำปาง
Main Article Content
บทคัดย่อ
ภูมิหลัง: ดอยพระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง ประสบปัญหาหมอกควันจากไฟป่าเป็นประจำทุกปี การแก้ไขปัญหาไฟป่าเป็นงานที่หนักและเสี่ยงอันตรายต่อชีวิต ก่อให้เกิดความเครียดแก่ผู้ปฏิบัติงาน
วัตถุประสงค์: เพื่อประเมินระดับความเครียดและปัจจัยที่มีผลต่อความเครียดของผู้ปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาไฟป่า ดอยพระบาท จ.ลำปาง
วัสดุและวิธีการ: เป็นการวิจัยเชิงสำรวจในผู้ปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่ดอยพระบาท คัดเลือกแบบเจาะจง 240 ราย โดยใช้แบบสอบถามและแบบประเมินความเครียด SPST–20 ของกรมสุขภาพจิต ในช่วง 7–31 มีนาคม พ.ศ.2562 ให้กลุ่มตัวอย่างตอบแบบสอบถามและทำแบบประเมินความเครียดด้วยตนเอง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างคะแนนความเครียดกับปัจจัยส่วนบุคคลด้วยสถิติไคสแควร์
ผลการศึกษา: กลุ่มตัวอย่างอายุเฉลี่ย 48.7 (SD 12.6) ปี (พิสัย 15–72 ปี) เป็นเพศชาย ร้อยละ 73.8 สองในสามเป็นอาสาสมัครป้องกันไฟป่าและร้อยละ 44.2 ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ตลอดเวลา ร้อยละ 57.9 มีความวิตกกังวลในการปฏิบัติงาน โดยร้อยละ 40.4 มีความเครียดสูงและร้อยละ 28.8 มีความเครียดปานกลาง ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความเครียด ได้แก่ การมีความวิตกกังวล ระยะเวลาที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ ปัญหาสุขภาพจากการทำงาน การบาดเจ็บจากการพลัดตกหกล้มและการได้รับข่าวสารสถานการณ์ไฟป่า (p=0.001) การได้รับอุปกรณ์ในการทำงานและป้องกันตนเองไม่พอเพียง (p=0.002) ปัญหาสัมพันธภาพการทำงานในทีม (p=0.004) การขาดขวัญและกำลังใจในการทำงาน (p=0.013)
สรุป: ความวิตกกังวล ระยะเวลาในการปฏิบัติงาน สัมพันธภาพในทีมทำงาน ผลกระทบทางสุขภาพที่ได้รับ การสนับสนุนด้านอุปกรณ์และขวัญกำลังใจ เป็นปัจจัยที่สัมพันธ์กับความเครียดของผู้ปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาไฟป่าดอยพระบาท
Article Details
บทความที่ส่งมาลงพิมพ์ต้องไม่เคยพิมพ์หรือกำลังได้รับการพิจารณาตีพิมพ์ในวารสารอื่น เนื้อหาในบทความต้องเป็นผลงานของผู้นิพนธ์เอง ไม่ได้ลอกเลียนหรือตัดทอนจากบทความอื่น โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ได้อ้างอิงอย่างเหมาะสม การแก้ไขหรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่กองบรรณาธิการ จะต้องเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยก่อนจะได้รับพิจารณาตีพิมพ์ และบทความที่ตีพิมพ์แล้วเป็นสมบัติ ของลำปางเวชสาร
เอกสารอ้างอิง
อัจฉรีย์ ทิพธนธรณินทร์. แนวทางการแก้ปัญหาหมอกควันสำหรับจังหวัดเชียงใหม่. วารสารด้านการบริหารรัฐกิจและการเมือง. 2558;4(1):73-105.
Aisbett B, Phillips M, Sargeant M, Gilbert B, Nichols D. Fighting with fire -- how bushfire suppression can impact on fire fighters’ health. Aust Fam Physician. 2007;36(12):994-7.
Aisbett B, Nichols D. Fighting fatigue whilst fighting bushfire: an overview of factors contributing to firefighter fatigue during bushfire suppression. Aust J Emerg Manag. 2007;22(3):31-9.
Armstrong DM. Investigating well-being and mental health in Queensland fire-fighters [dissertation]. Brisbane: Queensland University of Technology; 2014.
สุวัฒน์ มหัตนิรันดร์กุล, วนิดา พุ่มไพศาลชัย, พิมพ์มาศ ตาปัญญา. การสร้างแบบวัดความเครียดสวนปรุง. วารสารสวนปรุง. 2540;13(3):1-20.
Thromton RP, Wright LJ, editors. The stress of fire fighting: implications for long term health outcomes. Proceedings of Bushfire CRC & AFAC Conference Reseasrch Forum; 2012 Aug 28; Perth convention & exhibition center. Melbourne, Australia: Bushfire CRC; 2012.
Harvey SB, Milligan-Saville JS, Paterson HM, Harkness EL, Marsh AM, Dobson M, et al. The mental health of fire-fighters: An examination of the impact of repeated trauma exposure. Aust N J Psychiatry. 2016;50(7):649-58.
Bastug G, Ergul-Topcu A, Ozel-Kizil ET, Ergun OF. Secondary traumatization and related psychological outcomes in firefighters. J Loss Trauma. 2019;24(2):143-58.
Hytten K, Hasle A. Fire fighters: a study of stress and coping. Acta Psychiatr Scand Suppl. 1989;355:50-5.
Hwang J, Taylor R, Macy G, Cann CM, Golla V. Comparison of use, storage, and cleaning practices for personal protective equipment between career and volunteer firefighters in northwestern Kentucky in the United States. J Environ Health. 2019;82(5):8-14.
Dahlan A. Malek M, Mearns K, Flin R. Stress and psychological well‐being in UK and Malaysian fire fighters. Burke RJ, editor. Cross Cult Manag Int J. 2010;17(1):50–61.
Jahnke SA, Poston WSC, Haddock CK, Murphy B. Firefighting and mental health: experiences of repeated exposure to trauma. Work Read Mass. 2016;53(4):737-44.