กำรศึกษาระบาดวิทยาโรคมะเร็งตับในประชากรอำเภอบ้านหลวง จังหวัดน่าน ปี พ.ศ.2554-2556

Main Article Content

กัลยาณี อัครชิโนเรศ

บทคัดย่อ

ภูมิหลัง: โรคมะเร็งตับเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของประชากร อ.บ้านหลวง จ.น่าน และพบอุบัติการณ์สูงสุดในเขตภาคเหนือ
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาระบาดวิทยาโรคมะเร็งตับในปี พ.ศ.2554-2556 และเปรียบเทียบข้อมูลกับการศึกษาครั้งก่อนในปี พ.ศ.2548
วัสดุและวิธีการ: เป็นการศึกษาแบบพรรณนาย้อนหลัง ในประชากร อ.บ้านหลวง จ.น่าน ที่ได้รับการวินิจฉัยเป็นโรคมะเร็งตับ ระหว่าง 1 มกราคม 2554 - 31 ธันวาคม 2556 จากฐานข้อมูลผู้ป่วยโรคมะเร็ง ระดับประชากรของศูนย์ข้อมูล รพ.บ้านหลวง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา วิเคราะห์อัตราอุบัติการณ์อย่างหยาบและอัตราอุบัติการณ์ปรับอายุมาตรฐาน (age-standardized incidence rate, ASR)
ผลการศึกษา: พบผู้ป่วยเฉลี่ย 25 รายต่อปี เพศชายต่อหญิง 3:2 อายุเฉลี่ย 58.2 ปี (พิสัย 38-84 ปี) ส่วนใหญ่เป็นชนิดมะเร็งท่อน้ำดี ร้อยละ 77.3 มะเร็งตับไม่ระบุชนิด ร้อยละ 18.7 และมะเร็งเซลล์ตับ ร้อยละ 4.0 วินิจฉัยโดยผลพยาธิวิทยาร้อยละ 45.3 อุบัติการณ์อย่างหยาบเฉลี่ยในเพศชาย 245.5 และเพศหญิง 169.8 ต่อแสนประชากรต่อปี อัตราอุบัติการณ์ ASR ในเพศชาย 189.2 และเพศหญิง 107.0 ต่อแสนประชากรต่อปี พบมากที่สุดใน ต.บ้านฟ้า รองลงมาคือ ต.ป่าคาหลวง ต.สวด และ ต.บ้านพี้ ตามลำดับ                                                                            สรุป: โรคมะเร็งตับในปี พ.ศ.2554-2556 พบทุกตำบล มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นใน ต.บ้านฟ้า ต.สวด และ ต.บ้านพี้ ส่วนใหญ่เป็นมะเร็งท่อน้ำดี ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากการวินิจฉัยโรคได้ในระยะเริ่มแรก

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
อัครชิโนเรศ ก. (2019). กำรศึกษาระบาดวิทยาโรคมะเร็งตับในประชากรอำเภอบ้านหลวง จังหวัดน่าน ปี พ.ศ.2554-2556. ลำปางเวชสาร, 39(1), 10–17. สืบค้น จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/LMJ/article/view/180898
ประเภทบทความ
นิพนธ์ต้นฉบับ

เอกสารอ้างอิง

1. สมเกียรติ ลลิตวงศา, ดลสุข พงษ์นิกร. รายงานสรุปผลการศึกษาอุบัติการณ์โรคมะเร็งภาคเหนือ ปี พ.ศ.2551-2555 [อินเทอร์เน็ต]. 2558 [เข้าถึงเมื่อ 18 ก.พ.2560]. เข้าถึงได้จาก: http://www.lpch.go.th/lpch/lpch_attachment/20151016085144134377.pdf
2. พจมาน ศิริอารยาภรณ์. ระบาดวิทยาของโรคมะเร็งตับในอ?ำเภอบ้านหลวง จังหวัดน่าน. นนทบุรี: สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข; 2548.
3. พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์. ความคืบหน้าของการแก้ปัญหามะเร็งท่อน?้ำดี ที่อ?ำเภอบ้านหลวง จังหวัดน่าน. วารสารคลินิก 2558;361:111-6.
4. พวงรัตน์ ขจิตวิชยานุกูล. การวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างศักยภาพหน่วยงานท้องถิ่นในการจัดการและป้องกันการปนเปื้อนของสารพิษบนพื้นที่ต้นน?้ำน่าน. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ; 2556.
5. พวงรัตน์ ขจิตวิชยานุกูล. การวิจัยเชิงบูรณาการโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนเกษตรกรเพื่อลดผลกระทบของสารเคมีทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการเปลี่ยนรูปสารเคมีในกระบวนการผลิตน้ำสะอาด: กรณีศึกษาจังหวัดน่าน. กรุงเทพมหานคร: ฐานข้อมูลโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี; 2559.
6. โรงพยาบาลจุฬาภรณ์, สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์, โรงพยาบาลบ้านหลวง, โรงพยาบาลน่าน, สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน. โครงการศึกษาและบำบัดโรคมะเร็งเซลล์ตับและมะเร็งท่อน้ำดีในกลุ่มประชากร อำเภอบ้านหลวง จังหวัดน่าน [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2560]. เข้าถึงได้จาก: http://www.cccthai.org/l-th/images/stories/New-Toppic03/2555-03-28_Nan_advanceProject/2555-03-28_Nan_advanceProject.pdf
7. ระวิศักดิ์ จันทร์วาสน์, สุพัตรา รักเอียด, วิษณุ ปานจันทร์, อาคม ชัยวีระวัฒนะ, วีรวุฒิ อิ่มสำราญ,บรรณาธิการ. แนวทางการตรวจคัดกรอง วินิจฉัยและรักษาโรคมะเร็งตับและท่อน้ำดี. กรุงเทพมหานคร: โฆษิตการพิมพ์; 2559.
8. Sungkasubun P, Siripongsakun S, Akkarachinorate K, Vidhyarkorn S, Worakitsitisatorn A, Sricharunrat T, et al. Ultrasound screening for cholangiocarcinoma could detect premalignant lesions and early-stage diseases with survival benefits: a population-based prospective study of 4,225 subjects in an endemic area. BMC Cancer 2016;16:346.
9. แนวโน้มอุบัติการณ์โรคมะเร็งในภาคเหนือปี พ.ศ.2536-2555 [อินเทอร์เน็ต]. 2558 [เข้าถึงเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2560]. เข้าถึงได้จาก: http://www.lpch.go.th/lpch/uploads/20160223085239372554.pdf