ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยการปฏิบัติงานกับการบาดเจ็บซ้ำซาก ในผู้ประกอบอาชีพแกะสลักเครื่องเงินวัวลาย จังหวัดเชียงใหม่
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
ภูมิหลัง: ปัญหาด้านสุขภาพที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบอาชีพ มีแนวโน้มสูงขึ้นในประเทศไทย อาชีพแกะสลักเครื่องเงินมีลักษณะการทำงานที่ต้องใช้ส่วนของร่างกายซ้ำๆ อาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บของระบบกล้ามเนื้อและโครงร่าง
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของปัจจัยเกี่ยวกับการทำงานกับการบาดเจ็บซ้ำซากในผู้ประกอบอาชีพแกะสลักเครื่องเงินวัวลาย จ.เชียงใหม่
วัสดุและวิธีการ: เป็นการวิจัยเชิงความสัมพันธ์ด้านการทำนายผล ในผู้ประกอบอาชีพแกะสลักเครื่องเงินในชุมชนหมื่นสารบ้านวัวลายและชุมชนวัดศรีสุพรรณ ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ คัดเลือกกลุ่มตัวอย่าง 58 ราย โดยวิธีเฉพาะเจาะจง เก็บข้อมูลในช่วงเดือน ต.ค. 2557 -ก.ย. 2558 โดยใช้แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป ตำแหน่งของร่างกายและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดอาการบาดเจ็บซ้ำซาก วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและหาความสัมพันธ์ด้านการทำนายด้วยสถิติ multiple regression
ผลการศึกษา: กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศชาย (ร้อยละ 65.5) อายุเฉลี่ย 43.4 ± 7.7 ปี (พิสัย 25-59 ปี) แกะสลักเครื่องเงินมานานเฉลี่ย 18.8 ± 6.9 ปี (พิสัย 3-28 ปี) ปัจจัยทำนายการเกิดการบาดเจ็บซ้ำซากบริเวณส่วนคอได้แก่ บิดเอี้ยวลำตัวไปด้านข้างเป็นประจำและก้มเงยศีรษะหรือลำคอเป็นเวลานาน, ส่วนไหล่ คือ ก้มเงยศีรษะหรือลำคอเป็นเวลานาน, มือและข้อมือ คือ งอหรือกระดกข้อมือซ้ำๆ, หลังส่วนบน คือ บิดเอี้ยวลำตัวไปด้านข้างเป็นประจำและทำงานล่วงเวลาในช่วงกลางคืน, หลังส่วนล่าง คือ นั่งทำงานด้วยท่าเดิมเป็นเวลานาน, สะโพกและต้นขา คือ นั่งทำงานด้วยท่าเดิมเป็นเวลานานและทำงานล่วงเวลาในช่วงกลางคืน สรุป: ปัจจัยในการปฏิบัติงานมีความสัมพันธ์กับการบาดเจ็บซ้ำซากในผู้ประกอบอาชีพแกะสลักเครื่องเงิน การให้ความรู้และสร้างความตระหนักถึงวิธีการทำงานให้ถูกหลักการยศาสตร์ จะช่วยป้องกันและลดปัญหาดังกล่าวได้
Article Details
บทความที่ส่งมาลงพิมพ์ต้องไม่เคยพิมพ์หรือกำลังได้รับการพิจารณาตีพิมพ์ในวารสารอื่น เนื้อหาในบทความต้องเป็นผลงานของผู้นิพนธ์เอง ไม่ได้ลอกเลียนหรือตัดทอนจากบทความอื่น โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ได้อ้างอิงอย่างเหมาะสม การแก้ไขหรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่กองบรรณาธิการ จะต้องเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยก่อนจะได้รับพิจารณาตีพิมพ์ และบทความที่ตีพิมพ์แล้วเป็นสมบัติ ของลำปางเวชสาร
เอกสารอ้างอิง
2. สมศักดิ์ เทียมเก่า. การบาดเจ็บซ่ำซากจากงานซ้ำๆ (Repetitive strain injury) [อินเทอร์เน็ต]. 2558 [เข้าถึงเมื่อ 1 กรกฎาคม 2558]. เข้าถึงได้จาก http://haamor.com/th/การบาดเจ็บซ้ำซากจากงานซ้ำ.
3. Rogers B. Occupational and environmental health nursing concept and practice. Philadelphia: Saunders; 2003.
4. Rongo LM, Barten F, Msamanga GI, Dolmans WM. Occupational exposure and health problems in small-scale industry worker in Dar es Salaam, Tanzania: a situation analysis. Occup Med (Lond) 2004;54,42-6.
5. ประไพศรี กาบมาลา. ปัจจัยคุกคามสุขภาพจากการท?ำงานและภาวะสุขภาพตามความเสี่ยงของ แรงงานนอกระบบแกะสลักไม้. [ปริญญานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลอาชีวอนามัย]. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2554.
6. จันทร์ทิพย์ อินวงษ์, ฉันทนา จันทวงศ์, รุ่งรัตน์ ศรีสุริยเวศน์. ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคกลุ่มอาการอุโมงค์คาร์ปัลในพนักงานอุตสาหกรรมและสลักหิน จังหวัดชลบุรี. วารสารวิชาการสาธารณสุข 2552;18,428-35.
7. วิวัฒน์ สังฆะบุตร. ความผิดปกติทางระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อในแรงงานนอกระบบกลุ่มดัดเหล็กปลอกเสาระบบมือโยก: การศึกษาน?ำร่อง. ศรีนครินทร์เวชสาร 2556;26,225-32.
8. ชวพรพรรณ จันทร์ประสิทธิ์, ธานี แก้วธรรมานุกูล, วันเพ็ญ ทรงค?ำ, ญาดา ทิพย์เจริญทรัพย์. การชี้บ่งปัจจัยคุกคามสุขภาพภาวะสุขภาพการบาดเจ็บและเจ็บป่วยที่เกี่ยวเนื่องกับการทำงาน: การวิเคราะห์สถานการณ์ในอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม. วารสารพยาบาลสาร 2553;37,11-4.
9. วิลาวัลย์ ชัยแก่น. ปัจจัยด้านการยศาสตร์และอัตราความชุกของอาการปวดทางระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อในคนงานโรงงานผลิตชิ้นส่วนสารกึ่งตัวนำในนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ. [วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลอาชีวอนามัย]. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2550.
10. นงลักษณ์ ทศทิศ. ความชุกของความผิดปกติทางระบบกระดูกและกล้ามเนื้อในกลุ่มอาชีพตัดเย็บ จังหวัดขอนแก่น. [วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชากายภาพบำบัด]. ขอนแก่น :มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2554.
11. Arendt-Nielsen L, Svensson P. Referred muscle pain: basic and clinical findings. Clin J Pain 2001;17:11-9.
