ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการมีส่วนร่วมของพยาบาลวิชาชีพในการพัฒนา คุณภาพโรงพยาบาลในโรงพยาบาลชุมชน จังหวัดปราจีนบุรี

บทคัดย่อ

การวิจัยเชิงสหสัมพันธ์นี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาระดับการมีส่วนร่วมของพยาบาลวิชาชีพในการพัฒนา คุณภาพโรงพยาบาล และศึกษาปัจจัยที่สัมพันธ์กับการมีส่วนร่วมของพยาบาลวิชาชีพในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล ในโรงพยาบาลชุมชน จังหวัดปราจีนบุรี กลุ่มตัวอย่างเป็นพยาบาลวิชาชีพจำนวน 134 คน ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาล ชุมชน จังหวัดปราจีนบุรี ได้จากการสุ่มแบบง่าย รวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ได้แก่ ความถี่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สันและการทดสอบค่าที กำหนดระดับนัยสำคัญที่ .05 ผลการวิจัยพบว่า (1) การมีส่วนร่วมของพยาบาลวิชาชีพในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล อยู่ในระดับปานกลาง ( =3.60, SD=.64) (2) อายุ ระยะเวลาปฏิบัติงานไม่มีความสัมพันธ์กับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล (3) พยาบาลวิชาชีพที่มีระดับการศึกษาปริญญาตรีและปริญญาโทมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลแตกต่างกัน พยาบาลกลุ่มที่เป็นและไม่เป็นคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพ และกลุ่มที่ได้รับและไม่ได้รับการอบรมการพัฒนาคุณภาพ ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติในการมีส่วนร่วมพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล (4) ปัจจัยจูงใจและปัจจัยค้ำจุน มีความสัมพันธ์ ทางบวกในระดับสูง กับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล (5) ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของหัวหน้าหอ ผู้ป่วย มีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับปานกลาง (r =.503) ส่วนการสนับสนุนจากหัวหน้าหอผู้ป่วยมีความสัมพันธ์ ทางบวกในระดับสูง (r =.661) กับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล

Factors Related to Participation of Professional Nurses in Hospital Quality Improvement in Community Hospitals, Prachinburi Province

The objectives of this research were: (1) to study the level of professionals participation in hospital quality improvement, and (2) to study the factors related to participation of professional nurses in hospital quality improvement at Prachinburi Province community hospitals. 134 professional nurses were selected by random sampling. Data were collected through questionnaires. The statistical method used were frequency, percentage, mean, standard deviation, Pearson’s product moment correlation and independent t-test with the data significant level set at .05.The findings revealed the following in relation to hospital quality improvement participation (1) professional nurses’ participation was at moderate level, (2) the participant’s age and work experience showed little significance, (3) significant difference between participating nurses holding Bachelor’s or Master’s degrees but no significant difference found between being or non-being committee members or belonging to the trained or untrained groups of professional nurses, (4) motivation factors and hygiene factors were highly significantly correlated (r =.600 and r =.599), and (5) transformational leadership of chief nurses significantly correlated at the moderate level (r =.503). Meanwhile, the relationship between support of chief nurses and participation was in the high strength (r =.661) at 05 level.