ปัจจัยเชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อยุทธศาสตร์การเรียนรู้ของนักศึกษาพยาบาล มหาวิทยาลัยของรัฐ

Main Article Content

ณิชาภัทร มณีพันธ์
จำลอง วงษ์ประเสริฐ
ปาริชาต รัตนราช

บทคัดย่อ

          การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาและสังเคราะห์ยุทธศาสตร์การเรียนรู้ของนักศึกษาพยาบาล มหาวิทยาลัยของรัฐ 2) เพื่อสร้างโมเดลสมการโครงสร้างยุทธศาสตร์การเรียนรู้ของนักศึกษาพยาบาล มหาวิทยาลัยของรัฐ และ 3)  เพื่อตรวจสอบความสอดคล้องของโมเดลสมการโครงสร้างยุทธศาสตร์การเรียนรู้ของนักศึกษาพยาบาล มหาวิทยาลัยของรัฐกับข้อมูลเชิงประจักษ์ ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยของรัฐ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 ภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 8 สถาบัน จำนวนห้องเรียน 8 ห้องเรียน และจำนวนนักศึกษา 480 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (multi-stage random sampling) ตัวแปรในการวิจัยครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1) ตัวแปรทำนาย 2) ตัวแปรตามยุทธศาสตร์การเรียนรู้ของนักศึกษาพยาบาล โดยใช้แบบสอบถามปัจจัยที่ส่งผลต่อยุทธศาสตร์การเรียนรู้ของนักศึกษาพยาบาล คลอบคลุม 20 ตัวแปรสังเกตได้ (Observed Variables) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โมเดลสมการโครงสร้าง (Structural Equation Model) แบบมีตัวแปรแฝง (Latent Variable)


           ผลการวิจัยพบว่า


1 องค์ประกอบของยุทธศาสตร์การเรียนรู้ของนักศึกษาพยาบาล มหาวิทยาลัยของรัฐ มี 3 องค์ประกอบ คือ 1) การระบุปัญหาและวางแผนการเรียน 2) การปฏิบัติกิจกรรมการเรียน และ 3) การประเมินผลและปรับปรุงแก้ไข


2 โมเดลความสัมพันธ์ของปัจจัยที่ส่งผลต่อยุทธศาสตร์การเรียนรู้ของนักศึกษาพยาบาล มหาวิทยาลัยของรัฐ พบว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อยุทธศาสตร์การเรียนรู้ของนักศึกษาพยาบาล มหาวิทยาลัยของรัฐ ที่มีอิทธิพลทางตรง คือ การรับรู้ความสามารถของตนเอง แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์และลักษณะมุ่งอนาคตที่มีอิทธิพลทางตรงและทางอ้อม คือ การรับรู้ความสามารถของตนเอง และที่มีอิทธิพลทางอ้อม คือ เจตคติต่อการเรียนและความภาคภูมิใจในสถาบัน


3.  ผลการตรวจสอบความตรงของโมเดล พบว่าโมเดลสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ โดยมีค่า  X2 = 94.963, df = 74, p = .051, CFI = .998, TLI = .994, RMSEA = .024, SRMR = .031 และ X2 / df = 1.283 เมื่อพิจารณาขนาดอิทธิพลของตัวแปรทำนายที่ส่งผลต่อยุทธศาสตร์การเรียนรู้ของนักศึกษาพยาบาล พบว่า ปัจจัยการรับรู้ความสามารถของตนเอง แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ และปัจจัยลักษณะมุ่งอนาคต มีอิทธิพลทางตรงต่อยุทธศาสตร์การเรียนรู้ของนักศึกษาพยาบาลอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และมีค่าสัมประสิทธิ์การทำนาย (R2 = .708) อธิบายได้ว่าตัวแปรทำนายทั้งสามสามารถอธิบายองค์ประกอบยุทธศาสตร์การเรียนรู้ของนักศึกษาพยาบาลได้ร้อยละ 70.80

Article Details

บท
บทความวิจัย (Research articles)

References

Farmer, G. L. (2000). Use of multilevel covariance structure analysis to evaluate the multilevel nature of theoretical constructs. Social Worker Research, 24, 180-191.

Fiedler, F. E., & Chemers, M. M. (1974). Leadership and effectiveness management. Glenville, IL: Scott.

Gauy, F., Mageau, A., & Vellerand, J. R. (2003). On the hierarchical of self-determined motivation: a test of top-down, bottom-up, reciprocal, and horizontal effect. Personality and Social Psychology Bulletin, 29, 992-1004

Hossler, D., & Stage, F. K. (1992). Family and high school experience influences on the postsecondary educational plans of ninth-grade students. American Educational Research, 29, 425-451.

Hox, J. J.(2002). Multilevel analysis: Techniques and applications. New Jersey: Lawrence Erlbaum Associates.

Kanchanawasi, S. (2007). Multilevel Analysis. 4th edition, Bangkok: Chulalongkorn University (in Thai).

Kertpit, P., & Chatsuphakun, K. (2000). Learning strategies and education of teenage students. Sector Academic Guidance and Educational Psychology Srinakharinwirot University: Bangkok. (in Thai).

Maddox, H. (1985). How to study. London: The English Language Book Society.