การวิจัยกึ่งทดลอง เปรียบเทียบระดับการรู้เท่าทันสื่อของนักศึกษาพยาบาลกลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุม ซึ่งเป็นนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ตรัง ที่ฝึกปฏิบัติวิชาปฏิบัติการสร้างเสริมสุขภาพ และป้องกันการเจ็บป่วย ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และ

บทคัดย่อ

การวิจัยกึ่งทดลอง เปรียบเทียบระดับการรู้เท่าทันสื่อของนักศึกษาพยาบาลกลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุม ซึ่งเป็นนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ตรัง ที่ฝึกปฏิบัติวิชาปฏิบัติการสร้างเสริมสุขภาพ และป้องกันการเจ็บป่วย ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และ โรงเรียน 4 แห่ง ใน จ.ตรัง โดยกลุ่มควบคุมฝึกปฏิบัติ ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และโรงเรียนแห่งที่ 1 และ 2 จำนวน 15 คน กลุ่มทดลองฝึกปฏิบัติ ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และ โรงเรียนแห่งที่ 3 และ 4 จำนวน 15 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ 1) แบบวัดความรู้ความเข้าใจ และ แบบประเมินตนเองด้านการรู้เท่าทันสื่อ ที่มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ .73, .75 ตามลำดับ 2) แผนการจัดการเรียนรู้แบบ เน้นประสบการณ์ในการฝึกปฏิบัติวิชาปฏิบัติการสร้างเสริมสุขภาพ และป้องกันการเจ็บป่วย เพื่อพัฒนาการรู้เท่าทันสื่อ ของนักศึกษาพยาบาล ที่มีค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ระหว่าง 0.67 - 1.00 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติค่าที ผลการ วิจัยพบว่า

 1. คะแนนประเมินตนเองก่อนและหลังทดลอง ของกลุ่มควบคุมอยู่ในระดับดี (M=3.63, SD=.29, M=3.54, SD=.35 ตามลำดับ) และความรู้ความเข้าใจก่อนและหลังทดลอง อยู่ในระดับน้อย (M=16.27, SD=4.80, M=16.25, SD=4.90 ตามลำดับ)

2. คะแนนประเมินตนเอง ก่อนและหลังทดลองของกลุ่มทดลอง อยู่ในระดับดีและดีมาก (M=3.68, SD=0.31, M=4.21, SD=0.38 ตามลำดับ) และความรู้ความเข้าใจ ก่อนและหลังทดลอง อยู่ในระดับน้อยและปานกลาง (M=16.27, SD=3.83, M=18.53, SD=3.23 ตามลำดับ)

3. กลุ่มทดลองมีระดับการรู้เท่าทันสื่อ ทั้งการประเมินตนเอง และความรู้ความเข้าใจหลังการทดลอง (M=4.21, SD=0.39, M=18.53, SD=3.23 ตามลำดับ) สูงกว่าก่อนทดลอง (M=3.68, SD=0.31, M=16.27, SD=3.83 ตามลำดับ) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ p<.05

4. กลุ่มทดลองมีระดับการรู้เท่าทันสื่อ ด้านการประเมินตนเองหลังการทดลอง (M=4.21, SD=.39) สูงกว่า กลุ่มควบคุม (M=3.54, SD=0.35) อย่างมีนัยสำทางสถิติที่ระดับ p<.05