ปฏิสัมพันธ์ระหว่างประสบการณ์การฝึกภาคปฏิบัติและประสบการณ์การจัดกิจกรรมของสโมสรนักศึกษาที่มีผลต่อความสามารถด้านการคิดเชิงวิเคราะห์ของนักศึกษาพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สงขลา

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้ เป็นการวิจัยเชิงพรรณามีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถด้านการคิดเชิงวิเคราะห์ของนักศึกษาพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สงขลา จำแนกตามประสบการณ์การฝึกภาคปฏิบัติ และประสบการณ์การจัดกิจกรรมของสโมสร และ 2) เพื่อศึกษาปฏิสัมพันธ์ระหว่างประสบการณ์การฝึกภาคปฏิบัติ และประสบการณ์การจัดกิจกรรมของสโมสรนักศึกษา ที่มีผลต่อความสามารถด้านการคิดเชิงวิเคราะห์ของนักศึกษาพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สงขลา ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักศึกษาพยาบาล หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สงขลาทุกชั้นปี ที่ศึกษาในปีการศึกษา 2558 จำนวน 128 คน สุ่มแบบชั้นภูมิตามสัดส่วน โดยการคำนวณสัดส่วนของกลุ่มตัวอย่าง กำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่าง โดยใช้โปรแกรม G* Power เครื่องมือที่ใช้คือแบบสอบถาม ผ่านการหาค่าความเชื่อมั่นโดยสูตรสัมประสิทธิ์แอลฟ่าของครอนบาค เท่ากับ .84
วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ความแปรปรวนสองทาง (Twoway ANOVA) ผลการศึกษา พบว่า

1.   นักศึกษาพยาบาลวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สงขลา ที่มีประสบการณ์การฝึกภาคปฏิบัติต่างกัน มีความสามารถด้านการคิดเชิงวิเคราะห์ไม่แตกต่างกัน (F = .274, Sig = .602)

2.   นักศึกษาพยาบาลวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สงขลา ที่มีประสบการณ์การจัดกิจกรรมของสโมสรนักศึกษาต่างกัน มีความสามารถด้านการคิดเชิงวิเคราะห์แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (F=4.336, Sig= .039)

3.   ไม่มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างประสบการณ์การฝึกภาคปฏิบัติ และประสบการณ์การจัดกิจกรรมของสโมสรนักศึกษา ที่มีผลต่อความสามารถด้านการคิดเชิงวิเคราะห์ของนักศึกษาพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สงขลา (F= .029, Sig= .865)

ดังนั้น ควรสอดแทรกทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์ในการฝึกภาคปฏิบัติ โดยเน้นการมอบหมายงานศึกษาผู้ป่วยเฉพาะรายเป็นรายบุคคล และส่งเสริมให้นักศึกษาการจัดโครงการตามความต้องการอย่างแท้จริง

 คำสำคัญ: ความสามารถด้านการคิดเชิงวิเคราะห์, นักศึกษาพยาบาล, ประสบการณ์การฝึกภาคปฏิบัติ ประสบการณ์การจัดกิจกรรมของสโมสรนักศึกษา