ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับทัศนคติการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างเรียนของผู้ที่จะเข้าเรียน หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิตชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยพยาบาลแห่งหนึ่งในภาคใต้
คำสำคัญ:
ทัศนคติ, เพศสัมพันธ์ระหว่างเรียน, หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต, วิทยาลัยพยาบาลบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงพรรณนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาทัศนคติของผู้ที่จะเข้าเรียนหลักสูตรพยาบาล ศาสตรบัณฑิตต่อการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างเรียน 2) ศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับทัศนคติการมีเพศสัมพันธ์ ระหว่างเรียน ของผู้ที่จะเข้าเรียนหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 125 คน ที่เข้ารับการอบรมในโครงการเตรียมความพร้อม ก่อนศึกษา 2 สัปดาห์ก่อนเป็นนักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต ปีการศึกษา 2559 วิทยาลัยพยาบาล แห่งหนึ่งในภาคใต้ เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลคือ แบบสอบถามทัศนคติการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างเรียน ตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 3 คน ได้ค่าความเชื่อมั่นสัมประสิทธิครอนบาท แอลฟา เท่ากับ .86 วิคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติร้อยละ ความถี่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและสถิติไคว์สแควร์ ผลการวิจัย พบว่า 1. ทัศนคติการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างเรียนโดยภาพรวมมีทัศนคติเห็นด้วยระดับน้อย ร้อยละ 84.8 (M= 3.38, SD=.18) 2. ปัจจัยด้านการดูสื่อเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์กับแฟน หรือคนรักและการอยู่ตามลำพังในที่ลับตาคน กับแฟน หรือคนรักมีความสัมพันธ์กับทัศนคติการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (c2 =6.268, p<0.01 ตามลำดับ)
Downloads
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
บท
License
1. บทความหรือข้อคิดเห็นใด ๆ ที่ปรากฏในวารสารเครือข่าย วิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้ ที่เป็นวรรณกรรมของผู้เขียน บรรณาธิการหรือเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและวิทยาลัยการสาธารณสุขภาคใต้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
2. บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้