การเปรียบเทียบพฤติกรรมการดูแลผู้ป่วยอย่างเอื้ออาทรตามการรับรู้ของนักเรียนพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 และชั้นปีที่ 4 วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาพฤติกรรมการดูแลผู้ป่วยอย่างเอื้ออาทรตามการรับรู้
ของนักเรียนพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 3 และชั้นปีที่ 4 วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ และ 2) เปรียบเทียบ
พฤติกรรมการดูแลผู้ป่วยอย่างเอื้ออาทรตามการรับรู้ของนักเรียนพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 3 และชั้นปีที่ 4
โดยการนำกรอบแนวคิดพฤติกรรมการดูแลอย่างเอื้ออาทรของโรช 6 ด้าน ได้แก่ ด้านความเมตตา กรุณา
ด้านความสามารถ ด้านความเชื่อมั่น ด้านการมีจิตสำนึกทางจริยธรรม ด้านความยึดมั่นผูกพัน และด้าน
บุคลิกลักษณะ มาประยุกต์ใช้ กลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 92 คน เป็นนักเรียนพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 และ
ชั้นปีที่ 4 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 46 คนเท่ากัน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามพฤติกรรม
การดูแลผู้ป่วยอย่างเอื้ออาทรตามการรับรู้ของนักเรียนพยาบาลศาสตร์ มีค่าความเที่ยงของแบบสอบถาม
ทั้งฉบับเท่ากับ 0.85 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
และเปรียบเทียบพฤติกรรมการดูแลผู้ป่วยอย่างเอื้ออาทรด้วยสถิติ Independent t-test
ผลการวิจัย พบว่า
1. พฤติกรรมการดูแลผู้ป่วยอย่างเอื้ออาทรโดยรวมตามการรับรู้ของนักเรียนพยาบาลศาสตร์
ชั้นปีที่ 3 และชั้นปีที่ 4 อยู่ในระดับสูงมาก (X = 3.38, SD = 0.36) เมื่อจำแนกรายด้านพบว่า คะแนน
เฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านการมีจิตสำนึกทางจริยธรรม (X = 3.61, SD = 0.34) รองลงมา คือ ด้านความเชื่อมั่น
(X = 3.48, SD = 0.37) และต่ำสุด คือ ด้านความยึดมั่นผูกพัน (X = 3.13, SD = 0.36)
2. พฤติกรรมการดูแลผู้ป่วยอย่างเอื้ออาทรตามการรับรู้ของนักเรียนพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 3 และ
ชั้นปีที่ 4 ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
2. วรุณยุพา รอยกุลเจริญ. การปฏิบัติการพยาบาล: การดูแลด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์. วารสารสภาการพยาบาล 2550;22(3):5-8.
3. Roach MS. The Caring, the Human Mode of Being: A Blueprint for the Health Professions. 2nd ed. Ottawa: Canadian Healthcare Association Press; 2002.
4. ปรัศนียาภรณ์ ฤกษดายุทธ์. พฤติกรรมการดูแลแบบเอื้ออาทรของพยาบาลห้องผ่าตัดตามการรับรู้ของพยาบาลผ่าตัด. [วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการพยาบาลผู้ใหญ่]. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์; 2556.
5. วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ. หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2555. กรุงเทพมหานคร: วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ; 2555.
6. ปรียธิดา เชิดชูเกียรติสกุล, พุทธวรรณ ชูเชิด, เทวกาญจน์ รุ่งโรจน์. รายงานการวิจัยเรื่องการเอาใจใส่ดูแลนักศึกษาของอาจารย์พยาบาลในการสอนภาคปฏิบัติตามการรับรู้ของอาจารย์และนักศึกษา. กรุงเทพมหานคร: คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม; 2556.
7. พิมพรรณ รัตนโกมล, มณฑาทิพย์ สุรินทร์อาภรณ์. รายงานการวิจัยเรื่องพฤติกรรมการดูแลอย่างเอื้ออาทรของนักศึกษาพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ชัยนาท. ชัยนาท: วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ชัยนาท สถาบันพระบรมราชชนก สำนักงานปลัดกระทรวงกระทรวงสาธารณสุข; 2553.
8. สุดกัญญา ปานเจริญ, สกุลรัตน์ ศิริกุล. พฤติกรรมการดูแลผู้ป่วยอย่างเอื้ออาทรของนักศึกษาในการฝึกปฏิบัติการพยาบาลบนหอผู้ป่วย. วารสารการพยาบาลและการศึกษา 2553;3(3):64-74.
9. Yamane T. Statistics, An Introductory Analysis. 2nd ed. New York: Harper and Row; 1967.
10. สิวลี ศิริไล. จริยศาสตร์สำหรับพยาบาล. พิมพ์ครั้งที่ 11. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย; 2553.
11. ปริญญา แร่ทอง, ธีรนุช ห้านิรัติศัย. ประสบการณ์การเปลี่ยนบทบาทจากนักศึกษาพยาบาลสู่การเป็นพยาบาลวิชาชีพ. วารสารสภาการพยาบาล 2555;27(2):51-62.
12. กระทรวงศึกษาธิการ. เอกสารแนบท้ายประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง มาตรฐานคุณวุฒิระดับ บัณฑิตศึกษาสาขาพยาบาลศาสตร์ พ.ศ. 2555. [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 24 กันยายน 2558]. แหล่งที่มา: https:// www. mua.go.th/users/tqf-hed/news/FilesNews/FilesNews6/ nursegrad_m1.pdf.