The Effect of Health Belief Programme on Medicine used Behavior in Older Persons with Hypertension

Main Article Content

Nattanun Kumpiriyapong
Siriphan Sasat

Abstract

The purpose of this quasi-experimental research was to study the effect of health
belief programme on medicine use behavior in older persons with hypertension. Forty older
persons with hypertention admitted medication ward, the Thammasat university hospital. The
participants were assigned to the experimental and control groups (20 for each group). The
control group received a usual care while the experimental group received an intervention
regard to health belief programme, using the health belief of action influence health behaviors
according to the health belief model. The programme was conducted for 5 weeks. The
questionnaires consisted of demographic information, perceived health questionnaires, and
medicine use behavior questionnaires. The reliabilities of the perceived health questionnaires
and medicine use behavior questionnaires were 0.81 and 0.74, respectively. Percent, mean,
standard deviation, and independent t-test were used to analyze data. The results revealed
that:
1. The mean of medicine use behavior score, after participating in the health belief
programme, was significantly higher than that before participating in the programme at the
statistical level of .05
2. The mean of medicine use behavior score, after participating in the health belief
programme in the experiment group, was significantly higher than the control group participating
in the programme at the statistical level of .05

Article Details

Section
Research Article

References

World Health Organization (WHO). World Heath Statistics 2012. [Internet]. [cited 2014 January 13]. Available from: https://www.who.int.

สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข. สถิติสาธารณสุข ปี 2541-53. [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 13 มกราคม 2557]. แหล่งที่มา: https://bps.ops.moph.go.th/index. php?mod=bps%dos=5.

World Health Organization Regional Office for South-East Asia. Hypertension fact sheet: Department of sustainable development and healthy environment 2011. [Internet]. [cited 13 January 2014]. Available from: https://www.searo.who.int/entity/noncommunicable_diseases/media/non_communicable_diseases_hypertension_fs.pdf.

สํานักโรคไม่ติดต่อ. จํานวนและอัตราตายด้วยโรคไม่ติดต่อและการบาดเจ็บประจําปีปฏิทิน พ.ศ. 2558. [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 19 พฤษภาคม 2560]. แหล่งที่มา: https://thaincd.com/information-statistic/ non-communicable-diseasedata.php.

Hadi N, Rostami-Gooran N. Determinant factors of medication compliance in hypertensive patients of Shiraz, Iran. Arch Iranian Med 2004;7(4):292-6.

van Eijken M, Tsang S, Wensing M, de Smet PA, Grol RP. Interventions to improve medication compliance in older patients living in the community: A systematic review of the literature. Drugs Aging 2003;20(3):229-40.

Chapman RH, Benner JS, Petrilla AA, Tierce JC, Collins SR, Battleman DS, et al. Predictors of adherence with antihypertensive and lipid lowering therapy. Arch Intern Med 2005;165(10):1147-52.

วิชัย เอกพลากร. การสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2551-2552. นนทบุรี: เดอะกราฟิโก ซิสเต็มส์; 2553.

อำไพ อักษรศิริ. ผลของการใช้วิธี Directly Observed Therapy ต่อปัญหาการไม่ใช้ยาตามคำ แนะนำในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง. [วิทยานิพนธ์เภสัชศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเภสัชกรรมคลินิก]. สงขลา: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์; 2545.

วรารัตน์ เหล่านภากุล. เหตุผลในการขาดการรักษาและการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ที่ขาดการรักษาจากโรงพยาบาลโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา. [วิทยานิพนธ์สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2546.

สวัสดิ์ เที่ยงธรรม. แรงจูงใจและความร่วมมือในการรักษาด้วยยาของผู้ที่เป็นโรคจิตเภท. [วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสุขภาพจิตและการพยาบาลจิตเวช]. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2547.

Becker MH. The health belief model and sick role behavior. Health Education Monograph Winter 1974;2:409-19.

ประภา เพ็ญสุวรรณ, สวิง สุวรรณ. พฤติกรรมศาสตร์ พฤติกรรมสุขภาพและสุขศึกษา. กรุงเทพมหานคร: คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล; 2536.

สุมาลี วังธนากร, ชุติมา ผาติดำ รงกุล, ปราณี คาจันทร์. ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการรับประทานยา ในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง. สงขลานครินทร์เวชสาร 2551;26(6):539-47.

Pires CG, Mussi FC. Health beliefs for the control of arterial hypertension. Cien Saude Colet 2008;13(Suppl2):2257-67.

Joho AA. Factors affecting treatment compliance among hypertension patients in three district hospitals - dares Salaam. [Master’s Thesis]. Muhimbili University of Health and Allied Sciences; 2012.

พันทนีย์ สุวาสุนะ. ผลของตัวอย่างยาที่จัดไว้เฉพาะมื้อที่รับประทานต่อความร่วมมือในการใช้ยาของผู้ป่วยนอกโรคความดันโลหิตสูง โรงพยาบาลศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์. [วิทยานิพนธ์เภสัช มหาบัณฑิต สาขาวิชาเภสัชกรรมคลินิกและการบริหาร]. มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี; 2551.

สุภารัตน์ คลื่นแก้ว. ผลของโปรแกรมให้ความรู้ด้านสุขภาพต่อความรู้เรื่องโรคและการใช้ยาในผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง. [วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการพยาบาลผู้สูงอายุ] มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2552.

Gilbert PA, Heiser G. Salt and health: The CASH and BPA perspective. British Nutrition Foundation Nutrition Bulletin 2005;30:62-9.

วัลลา ตันตโยทัย. ทฤษฎีที่ใช้ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ. ใน สมจิต หนุเจริญกุล, วัลลา ตันตโยทัย, รวมพร คงกำเนิด, บรรณาธิการ. การส่งเสริมสุขภาพ. นครศรีธรรมราช: มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์; 2543. หน้า 29-46.

วันทนา รัตนมณี. ผลของโปรแกรมการให้ข้อมูลตามแนวคิดแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพต่อความร่วมมือในการรักษาของผู้ป่วยโรคต้อหิน. [วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาพยาบาลศาสตร์]. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2556.

กฤษณาพร ทิพย์กาญจนเรขา. ผลของโปรแกรมสร้างเสริมพฤติกรรมป้องกันโรคความดันโลหิตสูง โดยประยุกต์ใช้แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพในผู้สูงอายุที่มีภาวะเสี่ยง. [วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการพยาบาลผู้ใหญ่]. มหาวิทยาลัยบูรพา; 2549.

สุพัตรา บัวที. การพยาบาลกับการสนับสนุนการปฏิบัติตัวเพื่อควบคุมระดับความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา 2555;18(1):49-61.

Polit DF, Beck CT. Nursing research: principles and methods. 7th ed. New York: Lippincott Williams & Wilkins; 2004.

เยาวลักษณ์ การกล้า. การเสริมสร้างความร่วมมือในการรักษาด้วยยาของผู้ป่วยจิตเภท งานบริการผู้ป่วยนอก. [รายงานการศึกษาอิสระพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช]. มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2550.