ผลของโปรแกรมส่งเสริมการดูแลตนเองต่อพฤติกรรมการปฏิบัติตัวและระดับน้ำตาล ในเลือดของหญิงที่เป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ โรงพยาบาลเกาะคา จังหวัดลำปาง

บทคัดย่อ

          การวิจัยกึ่งทดลอง แบบสองกลุ่มวัดหลังการทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบ พฤติกรรมการปฏิบัติตัวและระดับน้ำตาลในเลือดของหญิงที่เป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ที่เข้าร่วมโปรแกรมกับกลุ่มที่ได้รับการพยาบาลตามปกติ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ที่เป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ เลือกแบบเจาะจง จำนวน 54 คน แบ่งเป็นกลุ่มควบคุม จำนวน 27 คน และกลุ่มทดลองจำนวน 27 คน เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ โปรแกรมส่งเสริมการดูแลตนเองของหญิงที่เป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ คู่มือส่งเสริมการดูแลตนเอง เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถามข้อมูลทั่วไปของหญิงตั้งครรภ์ แบบสอบถามพฤติกรรมการปฏิบัติตัวขณะตั้งครรภ์ และแบบบันทึกระดับน้ำตาลในเลือด แบบสอบถามพฤติกรรมการปฏิบัติตัวขณะตั้งครรภ์ วิเคราะห์ดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ได้ค่าอยู่ในช่วง 0.67-1.00 มีค่าความเชื่อมั่นสัมประสิทธิ์แอลฟ่าของครอนบาค เท่ากับ 0.78 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรรณา ไคว์สแควร์ ฟิชเชอร์ แมนท์วิทนีย์ และสถิติทดสอบที
          ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยคะแนนพฤติกรรมการปฏิบัติตัวขณะตั้งครรภ์สูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (t = 3.157, p = .003) 2) และกลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหาร ต่ำกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ .05 (p=0.049) ดังนั้นโปรแกรมส่งเสริมการดูแลตนเองต่อพฤติกรรมการปฏิบัติตัวและระดับน้ำตาลในเลือดของหญิงที่เป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการพยาบาลเพื่อส่งเสริมให้หญิงที่เป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ให้สามารถมีพฤติกรรมดูแลตนเองที่ดี และส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง