ผลของโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูงในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านนายาง ตำบลนายาง อำเภอสบปราบ จังหวัดลำปาง
คำสำคัญ:
โปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ, กลุ่มเสี่ยง, โรคความดันโลหิตสูงบทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้เป็นวิจัยกึ่งทดลองแบบกลุ่มเดียววัดก่อนและหลังการทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูงต่อความรู้และพฤติกรรมการดูแลสุขภาพ กลุ่มตัวอย่างคือ ประชาชนที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ที่มีระดับค่าความดันโลหิต ≥ 130/85- 139/89 ในพื้นที่ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านนายาง อำเภอสบปราบ จังหวัดลำปาง โดยขนาดกลุ่มตัวอย่างคำนวณจาก power analysis กำหนดค่า effect size ระดับปานกลางซึ่งเป็นที่ยอมรับได้ในการศึกษาทางการพยาบาลเท่ากับ 0.6 ระดับนัยสำคัญเท่ากับ 0.05 และค่าอำนาจการทดสอบทางสถิติ (power analysis) เท่ากับ 0.8 เปิดตารางได้ ขนาดกลุ่มตัวอย่าง 24 คน คำนวณเพื่อป้องกันข้อมูลไม่ครบถ้วนร้อยละ 20 ได้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 30 คน เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง เครื่องมือวิจัย แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 เครื่องมือในการทดลอง ได้แก่ โปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพในกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง และ ส่วนที่ 2 เครื่องมือในการรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย แบบสอบถามความรู้ พฤติกรรมการดูแลสุขภาพของตนเองเกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูง และแบบวัดระดับการบริโภคความเค็มในอาหาร ผู้วิจัยได้พัฒนามาจากแนวความคิด เรื่องความรอบรู้ทางสุขภาพ (Health literacy) ใช้เวลาในการจัดกิจกรรมทั้งหมด 12 สัปดาห์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ สถิติเชิงพรรณนา และ Paired t- test
ผลการศึกษาพบว่า หลังเข้าร่วมโปรแกรม กลุ่มตัวอย่างมีคะแนนเฉลี่ยความรู้ และพฤติกรรมการดูแลตนเองเกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูง สูงกว่าก่อนเข้าร่วมโปรแกรม และมีระดับความเค็มในการบริโภคอาหารต่ำกว่าก่อนเข้าโปรแกรม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P <.001)
ข้อสรุปโปรแกรมฯ นี้สามารถนำไปใช้สำหรับการปรับพฤติกรรมสุขภาพในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงเพื่อให้เกิดผลในการลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูงได้
References
Chormai, P.,Panpawit, A. (2015). Effect of Health Promotion Program for Promoting Health
Behavior Change in Groups at High Risk of High Blood Pressure at Bankhaodin Health
Promotion Hospital, Khaopanom District, Krabi Provinc. The journal of graduate school,
pitchayatat, ubon ratchathani rajabhat university (Humanities and Social Sciences).
(1): 15-24.
Health Data Center, Ministry of Public Health. (2020). The statistics of hypertension in Ban Na
Yang sub-district top 5. Retrieved from https://hdcservice.moph.go.th/hdc/reports,
(2020, 2 April). (in Thai).
Hosutisima, P. (2019). The Effectiveness of Health Education Program on Hypertension
Prevention Among High Risk Groups in Jorrakeahin Sub district Khonburi District
Nakhonratchasima Province. Thai health science journals. 25(2): 56-66
Jugsingto, C. (2017). Effectiveness Of Health Behavior Modification Program In High Risk Group
for Diabetes Hypertansion and Obesity. Rajabhat rajanagarindra university. 86-104.
Nakkling, Y., Tudsr, P. (2017). Effect of Self–Efficacy Enhancement Program on Health Behaviors
among Older Adults with Uncontrolled Hypertension. Association of private higher
education institutions of thailand under the patronage of her royai highness princess
mahachakri sirnddhorn. 6(1): 27-35.
Phichayapongsopon, P., Sota, C. (2018). The Effectiveness of Health Education Program for
Health Behavior among Pre-Hypertension, Muang District, Nakornratchasima Province.
Thailand journal Of health promotion and environmental health. 36(3): 56-69.
Punmung, N., Yulertlob, A., Landti, S. (2019). World Hypertension day 2019. Nonthaburi:
Division of Non Communicable Diseases.
Sriswan, J., Tongtang, P. (2019). Effects of Self-Management Support Programs in Elderly
Diseases high blood pressure. Ramathibodi nursing journal. 20(2): 179-192. (in Thai)
Thipanukroh, K. (2018). Effects of self-care programs for hypertensive patients Rattaphum
Hospital Province Songkhla. Retrieved from https://www.skho.moph.go.th, (2020, 2 April). (in Thai).
Downloads
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2021 วารสารวิชาการสุขภาพภาคเหนือ
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวารสารวิชาการสุขภาพภาคเหนือ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวารสารวิชาการสุขภาพภาคเหนือ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักอักษรจากวารสารวารสารวิชาการสุขภาพภาคเหนือก่อนเท่านั้น
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิชาการสุขภาพภาคเหนือถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
อนึ่ง ข้อความและข้อคิดเห็นต่างๆ เป็นของผู้เขียนบทความนั้นๆ ไม่ถือเป็นความเห็นของวารสารฯ และวารสารฯ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับข้อความและข้อคิดเห็นใดๆ ของผู้เขียน วารสารฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาตีพิมพ์ตามความเหมาะสม รวมทั้งการตรวจทานแก้ไขหรือขัดเกลาภาษาให้ถูกต้องตามเกณฑ์ที่กำหนด