ความสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบการเลี้ยงดูของผู้ปกครองกับพัฒนาการของเด็กก่อนวัยเรียน อายุ 2-4 ปี ในเขตเทศบาลนครลำปาง จังหวัดลำปาง
คำสำคัญ:
รูปแบบการเลี้ยงดู, พัฒนาการของเด็ก, เด็กก่อนวัยเรียนบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษารูปแบบการเลี้ยงดูเด็กก่อนวัยเรียน อายุ 2-4 ปี ของผู้ปกครอง ในเขตเทศบาลนครลำปาง จังหวัดลำปาง 2) เพื่อศึกษาระดับพัฒนาการเด็กก่อนวัย เรียน อายุ 2-4 ปี ในเขตเทศบาลนครลำปาง จังหวัดลำปาง 3) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบการเลี้ยงดูของผู้ปกครองกับพัฒนาการของเด็กก่อนวัยเรียน อายุ 2-4 ปี ในเขตเทศบาลนคร ลำปาง จังหวัดลำปาง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ เด็กก่อนวัยเรียนที่มีอายุ 2-4 ปี 107 คนใน เขตเทศบาลนครลำปาง จังหวัดลำปาง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 3 ตอน คือ 1) แบบสอบถาม ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป 2) แบบสอบถามเกี่ยวกับรูปแบบการเลี้ยงดูของผู้ปกครอง และ 3) แบบสอบถามพัฒนาการประเมินพัฒนาการเด็กตาม คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริพัฒนาการเด็กปฐมวัย ของกระทรวงสาธารณสุข (DSPM) โดยวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป สถิติที่ ใช้คือ ร้อยละ, ค่าเฉลี่ย, ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสัมประสิทธิสหสัมพันธแบบเพียรสัน (Pearson product-moment correlation coefficient)
ผลการวิจัย พบว่า รูปแบบการเลี้ยงดูแบบประชาธิปไตยของผู้ปกครองมีความสัมพันธ์กับพัฒนาการเด็กก่อนวัยเรียนอายุ 2-4 ปี ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ .01 (r=0.98 ,p=.00) ส่วนรูปแบบการเลี้ยงดูแบบอำนาจควบคุมของผู้ปกครอง รูปแบบการเลี้ยงดูแบบตามใจของผู้ปกครอง และ รูปแบบการเลี้ยงดูแบบทอดทิ้งของผู้ปกครองไม่มีความสัมพันธ์กับพัฒนาการเด็กก่อนวัยเรียนอายุ 2-4 ปี ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ .01 ดังนั้นรูปแบบการเลี้ยงดูแบบประชาธิปไตยของผู้ปกครองจึงมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับระดับพัฒนาการของเด็กก่อนวัยเรียน อายุ 2-4 ปี
References
ArunSri, K., et al. (2018). Effect of participation in supporting language development programtowards knowledge and self-efficacy of pre-school care giver. Vajira Nursing Journal. 20(1).1.(in Thai).
Carl R. Rogers. (1972). Child Development Theories: Carl Rogers. American Psychologist, 28(1), 71– 74.
Department of Health, Bureauof Health Promotion. (2017).Survey of early childhood health report Nonthaburi: Department of Health. (in Thai).
Khemintarakorn Buapetch. (2015). Risk behaviors and prevention of Nomophobia occurring Amongst Adolescent in Songkhla [Online], Available: http://rd.hu.ac.th/Download%20File/Full%20Text%20Research/600932.pdf. (2018,1 December). (in Thai).
Lampang Provincial Health Office. (2018). Screening for child development by age group in Health Region 1 Lampang Fiscal year 2019 [Online], Available: https://lpg.hdc.moph.go.th/hdc/main/index_pk.php.(2018,1 December). (in Thai).
Nattaya, S. & Thanat, K. (2017). The Relationship between Parenting style on Child Rearing and Stages of Child Development 3 - 5 years in Kongkrilat District, Sukhothai Province. Sequel report Seminar (Proceedings) Sati-class research presentation, Network of Graduate Studies, Rasapat University, Northern Region, 17th (in Thai).
Narida, R.(2012).Child-reaping practices during preschool children of families living in urban areas, Khon Kean. [Online], Available: http://newtdc.thailis.or.th /docview.aspx?tdcid=246081.(2019,12 December). (in Thai).
Narisara, P. (2011). Child’s Rearing Practices and Obesity in Children. Journal of Behavioral Science.17(2), 1-18.(in Thai).
Nuengruetai, K., et al. (2016). Early Childhood Development among Thai Children Aged Under 5 Years: A Literature Review. The Southern College Network Journal of Nursing and Public Health. 5(1). 281-296.(in Thai).
Parawee, K., et al (2018). Relationship between Parenting Styles and Psychological Capital among Students of a Public University. J Prapokklao Hosp Clin Med Educat Center. 35(2),153-162. (in Thai).
Rungnapa, S. (2016). Introduction to Nursing- Research. 2nd edition. Lampang: Krittanatkan. Boromarajonani College of Nursing. (in Thai).
Savitree, P.& Juraiporn, R. (2015). The role of parents towards child rearing in Kaset Home Economics kindergarten. [Online], Available: https://kukr.lib.ku.ac.th/proceedings/index.php?/KUCON/
search_detail/result/315522. (2019,14 September). (in Thai).
Sutham, N. (2016). Family, Child rearing and Development of Preschoolers in Thailand. Journal of Public Health..46(3), 36-50. (in Thai).
Waraporn, K., et al (2015). Parenting styles related to development of early childhood in child care center, taweewattana, bangkok. [Online], Available: https://bkkthon.ac.th/home/user_files/department/department-24/files/10. pdf. (2019,7 September). (in Thai).
Yupadee, P.&, Sudapron, P. (2019) Model of promoting language development in children aged 2-4 years old by parents or caregivers: A case study of Ban Ratchakhram child care center, Phranakhon Si Ayutthaya Province. J Nurs Sci 2016; 34(2):34-44. (in Thai).
Downloads
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
บท
License
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวารสารวิชาการสุขภาพภาคเหนือ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวารสารวิชาการสุขภาพภาคเหนือ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักอักษรจากวารสารวารสารวิชาการสุขภาพภาคเหนือก่อนเท่านั้น
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิชาการสุขภาพภาคเหนือถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
อนึ่ง ข้อความและข้อคิดเห็นต่างๆ เป็นของผู้เขียนบทความนั้นๆ ไม่ถือเป็นความเห็นของวารสารฯ และวารสารฯ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับข้อความและข้อคิดเห็นใดๆ ของผู้เขียน วารสารฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาตีพิมพ์ตามความเหมาะสม รวมทั้งการตรวจทานแก้ไขหรือขัดเกลาภาษาให้ถูกต้องตามเกณฑ์ที่กำหนด