การขับเคลื่อนเวทีสมัชชาสุขภาพระดับอำเภอสู่วาระ พชอ. : บริบทอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง
คำสำคัญ:
การขับเคลื่อน, สมัชชาสุขภาพระดับอำเภอ, คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอบทคัดย่อ
การขับเคลื่อนเวทีสมัชชาสุขภาพภายใต้การดำเนินงานคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอเป็นการดำเนินงานและขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยใช้พื้นที่เป็นฐานและประชาชนเป็นศูนย์กลางในการดำเนินงาน วิจัยเชิงพรรณนานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหาผลงานเด่นที่นำไปสู่ปัจจัยแห่งความสำเร็จของการขับเคลื่อนสมัชชาสุขภาพระดับอำเภอและคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง ประกอบด้วย ผู้ดำเนินงานเครือข่ายสุขภาพระดับอำเภอทุกระดับ ได้แก่ ทีมแกนนำสมัชชาสุขภาพอำเภอ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 18 แห่ง และภาคีเครือข่ายสมัชชาสุขภาพ รวมทั้งสิ้น 75 คน เก็บรวบรวมข้อมูล โดยการจัดเวทีประชุมระดมความคิดทีมแกนนำ และการสังเกตแบบมีส่วนร่วม ด้วยการใช้ประเด็นคำถาม ปลายเปิด ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2561 – มกราคม 2562 ตรวจสอบข้อมูลแบบสามเส้าด้านข้อมูล(Data Triangulation) ด้านผู้วิจัย (Investigator Triangulation) และด้านวิธีรวบรวมข้อมูล (Methodological Triangulation) วิเคราะห์ข้อมูลโดยวิธีการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการศึกษา พบว่า ผลงานเด่นที่นำไปสู่ปัจจัยแห่งความสำเร็จของการดำเนินงาน คือ 1) การมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายจากทุกภาคส่วนในการทำงานค้นหาปัญหาของพื้นที่อย่างเป็นระบบ 2) การยอมรับและร่วมแก้ไขปัญหาของคณะทำงานโดยผ่านวาระ พชอ. ที่มีการติดตามงานอย่างเป็นรูปธรรมโดยการนำของนายอำเภอ 3) ความรู้สึกที่ชุมชมร่วมกันเป็นเจ้าของปัญหาและร่วมดำเนินงานในพื้นที่เกิดความตื่นตัวและรับรู้สภาพปัญหาของอำเภออย่างแท้จริง ซึ่งผลงานเด่นที่เกิดขึ้นจะนำไปสู่การเชื่อมโยงแนวทางการมีส่วนร่วมของพื้นที่ในการการดูแลสุขภาพกับสถานบริการทุกระดับอย่างเป็นระบบ
References
development for Diabetic holistic care with action research in Thap Than
district, Uthai Thani province. The Office of Disease Prevention and Control 7
Khon Kaen. 24(2), 78-89. (in Thai).
Keson Vongmanee, Narongsak Noosorn. (2017). Lessons Learned District Health
System Model for Health Promotion District in Mental Health Lomsak District
Phetchaboon Province .Journal of Nursing and Health Care. 35(2): 232-241. (in Thai).
Kitti Kanpirom, Kavalin Chuencharoensuk, Juthatip Pitak. (2017). Primary care service in Thailand after 5 Years of being driven by the District Health System. Buddhachinaraj Medical Journal .34(3): 294-306. (in Thai).
Naowarat Chienwiwattanawong, et al.(2016).Integrated Learning of District Health System (DHS) and Family Care Team (FCT) to Develop Health Service Networks Using the Quality Home Visiting Program: Suksumran Caring Society with Family Care Team. The Southern College Network Journal of Nursing and Public Health. 3(2): 1-16. (in Thai).
Prezza, M., & Osrantin, S. (1998). Sense of community and life satisfaction: Investigation in three different territorial contexts. Journal of Community & Applied Social Psychology.8, 181-194.
Surakiat Achananuparp. (2013). Guidelines for the development of district health
Networks for sustainable community health systems development.
Clinic journal. 337(1). (in Thai).
Thailand Health Strategic Management Office. (2017). Guide for Consideration Regulations of the Office of the Prime Minister on Area Quality of Life Development 2017. Bangkok: The War Veterans Organization of Thailand under Royal Patronage of His Majesty the King visits. (in Thai).
Thoen district health office. (2017). Final Report of District Health Board (DHB): Thoen District. Lampang: Thoen District Health Office. (in Thai).
Wattana Nuntasen (2015). Evaluation of development on District Health System (DHS) in Mahasarakham Provincial Public Health Office. Research and development health system journal. 7(3),105-113. (in Thai).
Downloads
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
บท
License
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวารสารวิชาการสุขภาพภาคเหนือ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวารสารวิชาการสุขภาพภาคเหนือ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักอักษรจากวารสารวารสารวิชาการสุขภาพภาคเหนือก่อนเท่านั้น
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิชาการสุขภาพภาคเหนือถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
อนึ่ง ข้อความและข้อคิดเห็นต่างๆ เป็นของผู้เขียนบทความนั้นๆ ไม่ถือเป็นความเห็นของวารสารฯ และวารสารฯ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับข้อความและข้อคิดเห็นใดๆ ของผู้เขียน วารสารฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาตีพิมพ์ตามความเหมาะสม รวมทั้งการตรวจทานแก้ไขหรือขัดเกลาภาษาให้ถูกต้องตามเกณฑ์ที่กำหนด
33.png)
