การศึกษาสมรรถภาพการทำงานของไตและระดับไขมันในเลือดของกลุ่มผู้ติดเชื้อเอชไอวีในประเทศไทย
คำสำคัญ:
ผู้สูงอายุ, ผู้ติดเชื้อเอชไอวี , ค่าการทำงานของไต , ระดับไขมันบทคัดย่อ
ปัจจุบันผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ได้รับยาต้านไวรัสมีอายุที่ยืนยาวขึ้นส่งผลให้เกิดโรคร่วมตามอายุที่เพิ่มขึ้นและเสี่ยงต่อการเป็นโรคกลุ่ม non-communicable diseases (NCDs) การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสมรรถภาพการทำงานของไต และ ระดับไขมันในผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ได้รับยาต้านไวรัส จำนวน 4,790 ราย โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ผู้ติดเชื้อที่มีอายุ < 50 ปี และ ≥ 50 ปี พบว่า กลุ่มผู้สูงอายุ ( ≥ 50 ปี) มีค่าครีเอตินีนสูงกว่ากลุ่มที่มีอายุน้อย (< 50 ปี) มี mean (SD) เท่ากับ 1.00 (0.95) และ 0.85 (0.34) ตามลำดับ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.0001) และมีระดับ eGFR ลดลง ในกลุ่มผู้สูงอายุเทียบกับกลุ่มอายุน้อย (ร้อยละ 44.8 และ 78.5, ตามลำดับ) (p< 0.001) กลุ่มสูงอายุที่มีค่า eGFR < 60 mL/min/1.73 m2 ซึ่งเข้าข่ายเป็นโรคไตวายเรื้อรัง (ระดับ 3-5) มีมากกว่ากลุ่มอายุน้อย (ร้อยละ 12.7 และ 2.0 ตามลำดับ) ส่วนค่าเฉลี่ย mean (SD) คอเลสเตอรอล (n=4,428) ไตรกลีเซอไรด์ (n=4,653) ในกลุ่มสูงอายุมีค่าสูงกว่ากลุ่มอายุน้อย คือ 206.3 (42.3) และ 200.1 (41.1) mg/dL, 181.9 (119.5) และ 166 (138.7) mg/dL (p< 0.0001, p< 0.001 ตามลำดับ) ค่าเฉลี่ย HDL (n=2,947) และ LDL (n=2,063) ไม่มีความแตกต่างระหว่าง 2 กลุ่ม (52.3 (16.7) และ 52.3 (16.4) mg/dL, 127.0 (35.1) และ 129.0 (34.4) mg/dL) (p=0.88 และ p=0.28 ตามลำดับ) ดังนั้น ควรมีการตรวจติดตามทางห้องปฏิบัติการอย่างใกล้ชิด เพื่อการดูแลคุณภาพชีวิตของผู้ติดเชื้อได้อย่างเหมาะสมและดียิ่งขึ้น