ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าของประชาชน ในพื้นที่อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์
คำสำคัญ:
พิษสุนัขบ้า , ความรอบรู้ด้านสุขภาพ , พฤติกรรมป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าบทคัดย่อ
โรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคติดเชื้อที่มีอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต โดยพบว่ามีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ทุกปี การศึกษาเชิงวิเคราะห์แบบภาคตัดขวางครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าของประชาชนในพื้นที่อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 342 คน ใช้วิธีสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามที่มีค่าความเที่ยงสัมประสิทธิ์แอลฟ่าของครอนบาค มากกว่า 0.7 ขึ้นไป วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และวิเคราะห์ปัจจัยที่มีสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าด้วยสถิติ Multiple linear Regression แบบ Stepwise method กำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างเลี้ยงสัตว์มากที่สุดร้อยละ 53.2 และเคยถูกกัดหรือถูกข่วน คิดเป็นร้อยละ 49.4 ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า พบว่า ทักษะการตัดสินใจในการป้องกันและควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า ทักษะการจัดการตนเองให้ปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า เพศ การว่างงาน มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.05) โดยตัวแปรทั้งหมดร่วมกันอธิบายความผันแปรของพฤติกรรมป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ได้ร้อยละ 45.6 ปัจจัยที่มีอิทธิพล คือ ทักษะการตัดสินใจในการป้องกันและควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า โดยมีขนาดอิทธิพลเท่ากับ 0.47 ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรมีการอบรมให้ความรู้สุขศึกษา โดยเฉพาะเรื่องการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า กำหนดกลุ่มเป้าหมายตามเพศ และในกลุ่มที่ว่างงาน และจัดทำโครงการเพื่อเสริมสร้างทักษะการตัดสินใจ และทักษะการจัดการตนเองให้ปลอดภัยในการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้ได้ตามแผนยุทธศาสตร์ต่อไป
Downloads
เอกสารอ้างอิง
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. โรคพิษสุนัขบ้า[อินเตอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 14 พฤศจิกายน 2566].แหล่งข้อมูล: https://ddc.moph.go.th/disease_detail.php?d=25
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. สถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้า พ.ศ.2566 [อินเตอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2566]. แหล่งข้อมูล: https://ddc.moph.go.th/disease_detail.php?d=25
กนกวรรณ เอี่ยมชัย, ดลนภา ไชยสมบัติ, แดนชัย ชอบจิตร. ความสัมพันธ์ระหว่างความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมการป้องกันและควบคุม โรคพิษสุนัขบ้าของประชาชน ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดพะเยา.วารสารวิชาการสุขภาพภาคเหนือ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครลำปาง, 2565; 9(2) :155-69.
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. 66 ปี กรมอนามัย สร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ ผ่าน 66 Key Message เพื่อส่งเสริมคนไทยสุขภาพดี [อินเตอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 25 ธันวาคม 2566]. แหล่งข้อมูล: https://anamai.moph.go.th/th/news-anamai/18906
Nutbeam D. The evolving concept of health literacy. Social Science and Medicine, 2008; 67(12): 2072-8.
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. แบบสอบถามการประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพ เรื่องโรคพิษสุนัขบ้าของประชาชน ต.เมืองพล อ.พล จ.ขอนแก่น [อินเตอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2566]. แหล่งข้อมูล: https://ddc.moph.go.th/odpc7/journal_detail.php?publish=11072
Best JW. Research in Education. 4th ed. New Jersey: Prentice – Hall Inc, 1981
นวรัตน์ หัสดี. ความแตกต่างระหว่างบุคคล [อินเตอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 29 เมษายน 2567].แหล่งข้อมูล: https://pubhtml5.com/oect/nety/
สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสุรินทร์. โครงการผ่าตัดทำหมันและฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า 2565 [อินเตอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 30 เมษายน 2567]. แหล่งข้อมูล: https://pvlo-sur.dld.go.th/webnew/index.php/th/news-menu-2/livestock-news-menu/817-kick-off-2
ประเวช ชุ่มเกษรกูลกิจ, นิรันตา ไชยพาน, สุจิตรา บุญกล้า, จักรกฤษณ์ พลราชม. ความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมการป้องกันโรคและภัยสุขภาพของประชาชนไทย. วารสารวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ, 2564: 15(3): 25-36.
จิตรฟ้า หรูรุ่งโรจน์. โรงพยาบาลพระรามเก้า. คำแนะนำฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าก่อนการสัมผัสโรค[อินเตอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 23 ธันวาคม 2566].แหล่งข้อมูล: https://www.praram9.com/rabies-vaccine/
ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา. สำนักข่าว Hfocus เจาะลึกระบบสุขภาพ. รวมความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้า[อินเตอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 23 ธันวาคม 2566].แหล่งข้อมูล: https://www.hfocus.org/content/2020/08/19869
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 วารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กองบรรณาธิการไม่สงวนสิทธิ์ในการคัดลอกเพื่อการพัฒนางานด้านวิชาการ แต่ต้องได้รับการอ้างอิงที่ถูกต้องเหมาะสม