ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณไวรัสกับการเกิดภาวะปอดอักเสบในผู้ป่วยติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์เดลต้า

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณไวรัสกับการเกิดปอดอักเสบในผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้า เป็นการศึกษาย้อนหลังเชิงพรรณนา ในผู้ป่วยติดเชื้อโควิดของโรงพยาบาลชัยภูมิระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคม พ.ศ. 2564 จำนวน 249 ราย แบ่งเป็นกลุ่มไม่มีปอดอักเสบ 166 ราย กลุ่มมีปอดอักเสบ 83 ราย แปลผลภาพถ่ายทางรังสีโดยใช้ Brixia scoring system วิเคราะห์สถิติเปรียบเทียบตัวแปรต่อเนื่องและตัวแปรระหว่างกลุ่มใช้ Wilcoxon rank sum test และ Chi-square หรือ fisher exact test ตามลำดับ ปริมาณไวรัส (viral load Ct value) นำเสนอเป็นค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ใช้ two sample independent t-test เปรียบเทียบระหว่างกลุ่ม วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดปอดอักเสบใช้ multiple logistic regression ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มผู้ป่วยโควิดที่มีปอดอักเสบมีปริมาณไวรัสสูงกว่ากลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีปอดอักเสบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (ค่าเฉลี่ย Ct value ± ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน; 19.1 ± 4.3 vs. 20.9 ± 6.0, P-value = 0.01) ค่า Ct value < 23 สัมพันธ์ต่อการเกิดปอดอักเสบ (sensitivity 85.5%, specificity 27.1%) ปริมาณไวรัสแปรผันตามความผิดปกติของภาพถ่ายทางรังสี (CXR severity score) ปัจจัยที่ทำให้เกิดปอดอักเสบคือ อายุ ≥ 60 ปี [aOR:7.30 (95% CI: 3.57-14.94)] ดัชนีมวลกาย ≥ 25 [aOR:1.90 (95% CI: 1.01-3.59)] ความดันโลหิตสูง [aOR:3.11 (95% CI: 1.22-7.97)] และ Viral load Ct value < 23 [aOR:2.22 (95% CI: 1.02-4.83)] สรุปว่าปริมาณไวรัสสัมพันธ์กับการเกิดปอดอักเสบในผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์เดลต้าและสัมพันธ์กับความผิดปกติของภาพถ่ายรังสี จึงควรมีการพิจารณาตรวจหาปริมาณไวรัสในผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดภาวะปอดอักเสบเพื่อประกอบการวางแผนการรักษาและการติดตามด้วยภาพถ่ายทางรังสีทรวงอกต่อไป