ความรู้เกี่ยวกับภาวะโภชนาการเกิน ทัศนคติเกี่ยวกับการบริโภคอาหาร และพฤติกรรมการบริโภคอาหารของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ในตำบลโพธิ์กลาง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
คำสำคัญ:
ภาวะโภชนาการเกิน, ทัศนคติ, พฤติกรรมการบริโภคอาหารบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้เกี่ยวกับภาวะโภชนาการเกิน ทัศนคติเกี่ยวกับการบริโภคอาหาร และพฤติกรรมการบริโภคอาหาร และเสนอแนวทางการส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับภาวะโภชนาการเกินและพฤติกรรมการบริโภคอาหารของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ในจังหวัดนครราชสีมา กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ปีการศึกษา 2566 ในตำบลโพธิ์กลาง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 635 คน เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลตามเกณฑ์อ้างอิงการเจริญเติบโตของเด็กอายุ 6-19 ปี พ.ศ. 2564 และนำเสนอค่าจำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษา พบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ในตำบลโพธิ์กลาง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา มีภาวะเริ่มอ้วนถึงอ้วน จำนวน 132 คน คิดเป็นร้อยละ 17.9 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ส่วนใหญ่ มีความรู้เกี่ยวกับภาวะโภชนาการเกินอยู่ในระดับสูงมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 66.2 โดยมีความรู้ดีมากที่สุดในเรื่องในหนึ่งวันเราต้องรับประทานอาหารหลากหลายชนิดเพื่อให้ได้สารอาหารครบตามที่ร่างกายต้องการ มีทัศนคติเกี่ยวกับการบริโภคอาหารอยู่ในระดับดีมากที่สุด (Mean=2.33, S.D.=0.64) โดยมีทัศนคติดีที่สุดในเรื่อง การรับประทานอาหารครบ 5 หมู่ พฤติกรรมการบริโภคอาหารในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (Mean=3.71, S.D.=0.61) มีพฤติกรรมที่เหมาะสมมากที่สุดในเรื่อง การรับประทานเนื้อปลาหรือเนื้อไก่ แนวทางการส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับภาวะโภชนาการเกินและพฤติกรรมการบริโภคอาหารของนักเรียน ควรสร้างความต่อเนื่องเชื่อมโยงระหว่างโรงเรียนและครอบครัวอย่างเป็นระบบ โดยเพิ่มระบบติดตามเฝ้าระวังเน้นการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการแก้ปัญหา การทำกิจกรรมร่วมกันกับผู้ปกครองที่บ้าน เพิ่มกิจกรรมทางกายที่บูรณาการเข้ากับการจัดเรียนการสอน เพื่อเป็นการส่งเสริมภาวะโภชนาการที่ดีของเด็กอย่างยั่งยืน
References
สุกัญญา บัวศรี, กมลทิพย์ ทิพย์สังวาล และอนงค์ สุนทรานนท์. ภาวะโภชนาการและกิจกรรมทางกายของนักเรียนอายุ 6-12 ปี จังหวัดเชียงราย. วารสาร มจร นครน่านปริทรรศน์, 2562; 3(2): 81-94.
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. ข้อมูลความชุกของโรคอ้วนในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก. กรุงเทพฯ: กระทรวงสาธารณสุข. 2566.
รังสรรค์ ตั้งตรงจิตร. โรคอ้วน การเปลี่ยนแปลงทางด้านโภชนาการและชีวเคมี. กรุงเทพฯ: เจริญดีมั่นคงการพิมพ์. 2562.
มหาวิทยาลัยมหิดล สถาบันวิจัยโภชนาการ. สู่เส้นทางพิชิตความอ้วน. นครปฐม: สถาบันพัฒนาการสาธารณสุขอาเซียน มหาวิทยาลัย มหิดล. 2564.
อัญชลี ตรีลพ และ พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์. การศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการบริโภคอาหารและการออกกำลังกายของเด็กนักเรียนประถมศึกษาตอนปลาย (ป.4-ป.6) ที่มีภาวะโภชนาการเกิน จังหวัดสิงห์บุรี. วารสารบัณฑิตวิทยาลัย, 2566; 6(1): 1576-87.
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. แผนปฏิบัติการด้านโภชนาการระดับชาติ 5 ปี พ.ศ. 2562-2566 ภายใต้ยุทธศาสตร์ที่ 3 อาหารศึกษา กรอบยุทธศาสตร์การจัดการด้านอาหารของประเทศไทย ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2561-2580). นนทบุรี: สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. 2562.
วรพจน์ พรหมสัตยพรต. การเก็บรวบรวมข้อมูลและเครื่องมือในการวิจัย. เอกสารประกอบการสอนหลักการวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ, คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. 2546.
Cronbach, L. J. Essentials of psychological testing. 5th ed. New York: Harper Collins Publishers. 1990.
ธานินทร์ ศิลป์จารุ. การวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วย SPSS และ AMOS. พิมพ์ครั้งที่ 16. กรุงเทพฯ: บิสซิเนสอาร์แอนด์ดี. 2561.
กระทรวงสาธารณสุข. เกณฑ์อ้างอิงการเจริญเติบโตของเด็กอายุ 6-19 ปี (ชุดใหม่) พ.ศ. 2564 (โปรแกรม Growth Program-HPC1). 2564. [อินเตอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 20 สิงหาคม 2566]. แหล่งข้อมูล: https://www.dla.go.th/upload/template/tempNews/2022/7/67153_1.pdf
ลลิดา แจ่มจํารัส. พฤติกรรมการบริโภคของนักเรียนระดับประถมศึกษาตอนปลาย ที่มีภาวะโภชนาการเกิน ในจังหวัดกําแพงเพชร. การประชุมทางวิชาการของมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ ครั้งที่ 42: สาขาศึกษาศาสตร์ สาขาสังคมศาสตร์ สาขามนุษยศาสตร์ สาขาเศรษฐศาสตร์ สาขาบริหารธุรกิจ สาขาคหกรรมศาสตร์. 2556: 198-205.
โสภา อยู่อินไกร. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารกลุ่มเด็กที่มีภาวะ โภชนาการเกินในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จังหวัดเชียงราย. [วิทยานิพนธ์ สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต]. พะเยา: มหาวิทยาลัยพะเยา. 2558.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2023 วารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กองบรรณาธิการไม่สงวนสิทธิ์ในการคัดลอกเพื่อการพัฒนางานด้านวิชาการ แต่ต้องได้รับการอ้างอิงที่ถูกต้องเหมาะสม